ธนาคารกสิกรไทย คือหนึ่งในธนาคารที่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นธนาคารที่มีนวัตกรรมทางการเงินออนไลน์เพียบโดยมี Unit hero เป็นแอปโมบายแบงกิ้ง ‘K PLUS’ ปัจจุบันนี้มีผู้ใช้งานแอป K PLUS อยู่ราว 7.1 ล้านคน แน่นอนว่าในปีหน้า K PLUS จะไม่ใช่แค่เพียงแอปที่มีไว้เพื่อโอนเงิน จ่ายบิล ซื้อกองทุน ขอรายการเดินบัญชี หรือซื้อประกัน แต่จะมีฟีเจอร์เด็ดๆ เพิ่มเข้าไปเพื่อให้ K PLUS เป็นมากกว่าแอป แต่กลายเป็น ‘แพลตฟอร์มหนึ่งเดียวที่ตอบโจทย์ทุกด้านของชีวิต
ปีหน้าธนาคารกสิกรไทยจะเข้าสู่การเป็นดิจิทัลแบงกิ้ง อย่างเต็มรูปแบบมากขึ้นโดยพยายามที่จะเปลี่ยนธนาคารแบบเดิมที่รอลูกค้าเข้ามาหา ให้กลายเป็นธนาคารที่เป็นหนึ่งเดียวกับลูกค้า ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ของปี 2561 ที่เรียกว่า ‘Customers’ Life Platform of Choice’
โดยพยายามจะผลักดันและนำเทคโนโลยีเข้าไปหาลูกค้ามากขึ้นระดับที่ว่าทุ่มงบกว่า 4,000 – 5,000 ล้านบาท สร้างให้ธนาคารกสิกรไทยเป็น ดิจิทัลแบงกิ้งเต็มสูบเพื่อตอบรับกับอนาคตที่ออนไลน์จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งรวมไปถึงวงการธนาคารที่ถ้าใครไม่ปรับตัวคงอยู่ยากจริงๆ
เพิ่ม 4 สิ่งใหม่ให้ K PLUS อัพเลเวลเก่งขึ้น
หนึ่งในยุทธศาสตร์ปี 2561 ของ KBank คือการนำ K PLUS มาอัพเกรดติดอาวุธให้กลายเป็นแอปที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากกว่าเดิมแบบที่ว่าไม่ต้องไปธนาคารก็สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ง่ายขึ้นไปอีกขั้น และยังเป็นมากกว่าธนาคารบนมือถือ แต่ K PLUS จะอีโวลูชั่นตัวเองให้กลายเป็นแพลตฟอร์ม ที่มีความสามารถติดตัวเพิ่มขึ้น ปีหน้าลูกค้าธนาคารกสิกรไทยจะได้เห็นดังนี้
-
การเสนอสินเชื่อแบบออนไลน์ : โดยปกติแล้วการรับสินเชื่อจากธนาคารนั้นถ้าไม่ทำเรื่องกู้เงิน ก็ต้องไปรูดบัตรเงินสดเอง นั่นเป็นการบริการยุคเก่าที่ลูกค้าต้องเดินไปหาธนาคารเอง แต่วันนี้ K PLUS เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เป็นการเสนอสินเชื่อแบบอัตโมัติโดยนำเทคโนโลยี Machine Learning มาวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้า เพื่อประเมินความเสี่ยง
และคาดการว่าลูกค้าทั้งบุคคล และลูกค้าธุรกิจอยากจะใช้เงินช่วงไหน หากเห็นว่าช่วงนี้ลูกค้าขาดสภาพคล่อง และระบบประเมินแล้วว่าลูกค้าเครดิตดี ระบบจะเสนอสินเชื่อไปให้ ถ้าลูกค้าสนใจก็กดรับปุ๊บ เงินโอนเข้าทันที ไม่ต้องยื่นเอกสารอะไรทั้งสิ้น เวรี่เร็ว เวรี่ชัวร์ เวรี่ตรงเป้า
-
แพลตฟอร์มเสนอสินค้าออนไลน์ : ปัจจุบันนี้ และอนาคตการชอปปิ้งออนไลน์จะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ฮอทฮิตและ KBank ก็จะเปิดแพลตฟอร์มเสนอสินค้าออนไลน์ที่ชื่อว่า ‘Pruanfun’ (อ่านว่า ‘พรวนฝัน‘) ที่นอกจากKBank จะสร้างพื้นที่ให้ร้านค้าที่เลือกสรรแล้วได้นำเสนอสินค้าให้แก่ผู้ใช้งาน K PLUS ได้จับจ่ายใช้สอยแล้ว
KBank จะดูแลเรื่องการโอนเงินผ่านระบบที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย มีรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการโอนเงินจากลูกค้าแบบละเอียดว่าใครสั่งแล้วจ่ายเงินยัง ไม่ต้องเสียเวลาโอนเงินเป็นเศษสตางค์เพื่อดูว่าลูกค้าคนไหนโอนแล้ว โดยระบบบัญชีจะผูกติดกับ K PLUS ทำให้เห็นเงินเข้าได้แบบเรียลไทม์
-
โอนเงินข้ามประเทศ : ที่ผ่านมาโมบายแบงกิ้งธนาคารต่าง ๆ ยังไม่สามารถให้ผู้ใช้งานโอนเงินจากไทยข้ามประเทศได้ แต่ความสามารถนี้กำลังจะถูกปลดล็อคแล้วโดยในปี 2561ผู้ใช้ K PLUS จะสามารถโอนเงินข้ามไปได้ถึง 40 ประเทศทั่วโลกและได้เงินทันที ไม่ต้องรอ ซึ่งมีประเทศปลายทางที่รับโอน ได้แก่ จีน, สหรัฐฯ, อังกฤษ, สิงคโปร์, ฮ่องกง, ออสเตรเลีย และกลุ่มสหภาพยุโรป
-
ปรับโฉมแอปใหม่ : หลายคนบ่นๆ มาว่าหน้าตาแอป K PLUS นั้นเชยจังเลยอ่ะ เปลี่ยนบ้างสิ เอาล้ำ ๆ หน่อย ทางผู้พัฒนาก็บอกว่าปีหน้าแอป K PLUS จะอีโวลูชั่นหน้าตาของแอปใหม่ด้วย โดยจะทันสมัยมากขึ้น และมีฟีเจอร์ใหม่อย่างที่บอกไปเสริมอยู่ในแอปด้วย แต่การออกแบบก็ยังยึดเอาความ User Friendly เป็นหลัก ให้ลูกค้าใช้งานง่ายเช่นเคย
ยุทธศาสตร์ของ KBank ในยุคออนไลน์แบงกิ้งครองโลก
สาเหตุที่ KBank ลุยออนไลน์เต็มหนียวเพราะว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ปีที่ผ่านมาคนไทยทำธุรกรรมผ่านออนไลน์เยอะมาก อีกทั้งสัดส่วนผู้ใช้งานโมบายแบงกิ้ง พุ่งสูงขึ้นเป็น 34.8% ในปี 2559 จากเดิมปี 2553 อยู่ที่ 0.9% เท่านั้น รวมไปถึงการทำธุรกรรมออนไลน์ต่าง ๆ ก็พุ่งขึ้นสูงสวนทางกับปีแรกๆ ที่คนกลัวการทำธุรกรรมออนไลน์อย่างชัดเจน และสะท้อนให้เห็นว่าการทำธุรกรรมออนไลน์นั้นเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
ขณะเดียวกันภาครัฐก็ลงมาสนับสนุนการทำให้ประเทศไทยเป็นสังคมไร้เงินสด ด้วยนโยบายต่างๆ ที่มีแบงก์ชาติเป็นผู้อนุมัติ ซึ่งทุกธนาคารก็ยิ้มรับเป็นอย่างดี เพราะการปรับให้ไทยไร้เงินสดนั้นสามารถปลดล็อค และสร้างฟีเจอร์เพื่อการให้บริการลูกค้าได้หลากหลายขึ้นทางออนไลน์ ส่วนปีหน้า KBank ตั้งเป้าไว้ว่าจะบุกโลกออนไลน์มากกว่าเดิมโดยแผนก็คือ
- K PLUS : เพิ่มผู้ใช้งานเป็น 10.8 ล้านรายโดยใช้ฟีเจอร์เด่นๆ เป็นตัวดึงดูดซึ่งก็จะได้ทั้งจากลูกค้าใหม่ และลูกค้าเดิมที่ยังไม่โหลดแอปมาใช้ให้ลองดู
- K PLUS SHOP : บริการใหม่ล่าสุดจาก KBank ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี เป็นบริการจ่ายเงินด้วย QR Code ปี 2561 จะเพิ่มเป็น 1,000,000 ร้านค้า
- K PLUS SMEs : แอปธนาคารบนมือถือของผู้ทำธุรกิจ SMEs จากเดิมปี 2560 มี SMEs โหลดไปใช้งาน 420,000 ราย ปี 2561 จะขยายเป็น 500,000 ราย
สำหรับลูกค้า KBank ก็เตรียมตัวที่จะได้รับการบริการแบบใหม่ๆ จากธนาคารเดิมที่คุณคุ้นเคยได้เลยซึ่งทุกบริการจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ที่ช่วยให้เรื่องเงินเป็นเรื่องที่ง่าย ไม่ใช้แค่การจ่ายเงินเท่านั้น แต่การค้าขาย การลงทุน การจัดการด้านการเงินทุกอย่างจะจบโดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปธนาคารสาขาอีกเลย