ดอกทานตะวันที่เบ่งบาน สู่กาลเวลาของ “KENG HARIT”

Writer : kukigugi

: 22 สิงหาคม 2567

นาทีนี้ ไม่มีใครเก่งเท่า “เก่ง – หฤษฎ์ บัวย้อย” อีกแล้ว เพราะนี่คือเมล็ดพันธุ์ที่กำลังออกดอกออกผลเป็นผลผลิตที่งอกงาม

ถ้าหากจะพูดถึงกระแสที่มาแรงในช่วงนี้ เชื่อว่าคงจะหนีไม่พ้นกับภาพยนตร์ที่มองไปทางไหนก็เจอ หันไปทางไหนก็มีแต่คนพูดถึง “วิมานหนาม” ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากค่าย GDH ถึงกำลังเข้าฉายวันที่ 22 สิงหาคมนี้ เป็นวันแรก

ซึ่งแน่นอนว่าองค์ประกอบหนึ่งที่จะทำให้ภาพยนตร์นั้นสมบูรณ์แบบนั่นคือ “นักแสดง” ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงนำ หรือนักแสดงสมทบ การแสดงที่ส่งออกมาถึงผู้ชมนั้นเป็นสิ่งที่ตัวนักแสดงต้องทำงานออกมาร่วมกันให้ดีที่สุดในบทบาทของตน

“เก่ง – หฤษฎ์ บัวย้อย” คือหนึ่งในนักแสดงที่ปรากฏตัวในบทบาท “จิ่งนะ” ซึ่งถือเป็นผลงานการแสดงแบบเต็มตัวครั้งแรก แต่กลับได้รับคำชื่นชมจากผู้ชมมากมายกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่น่าจับตามอง ณ เวลานี้

เชื่อว่าหากเป็นแฟนคลับที่ติดตามมานาน คงจะรู้สึกภูมิใจไม่น้อยกับดอกทานตะวันดอกนี้ที่ได้เวลาเบ่งบานและถูกค้นพบ แต่เชื่อว่าคนมีผู้คนอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องการรู้จัก “เก่ง” ให้มากขึ้น

วันนี้ MangoZero ขอรวบรวมเรื่องราวของ “เก่ง” คร่าวๆ สำหรับผู้คนที่อยากรู้จักดอกทานตะวันดอกนี้ ที่ “เก่ง” ทั้งการร้อง “เก่ง”ทั้งการแสดง “เก่ง”ทั้งความคิด หลอมรวมกลายเป็น “เก่ง – หฤษฎ์ บัวย้อย” 

 

🌻 ลำต้นที่โอนอ่อน สู่ผลงานที่เบ่งบาน

เก่ง – หฤษฎ์ บัวย้อย ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงาน “DMD LINE UP 2023” ในฐานะนักแสดงสังกัด Domundi รุ่นที่ 3 พร้อมกับการเข้าร่วมรายการเรียลลิตี้ของทางค่าย เพื่อเฟ้นหาคู่พาร์ทเนอร์ที่เคมีเหมาะสมกันที่สุดในรายการ DMD Friendship The Reality 

แต่ก่อนที่เก่งจะได้เข้าสู่ค่ายดูมันดินั้น เก่งได้เริ่มต้นจากการประกวดและถ่ายแบบมาก่อน การันตีด้วยดีกรีตำแหน่ง เดือนมหาวิทยาลัยพะเยา ประจำปี 2561 จากนั้นก็ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง จากงาน Chinese Chiangmai 2021 อีกทั้งยังได้รับเลือกเป็น “เทพบุตรญี่เป็ง” ประจำปี 2565 อีกด้วย

เรียกได้ว่าความหล่อนั้นประจักษ์สู่สายตาของผู้คนมาตั้งแต่สมัยเรียน ในระหว่างนั้นเก่งก็ได้เริ่มถ่ายแบบ และมีผลงานออกมาให้ดูกันบ้างประปราย 

เข้าสู่อ้อมกอด “ดูมันดิ”

หากพูดถึงค่ายที่รวบรวมทั้งนักแสดงและผลิตผลงานซีรีส์คุณภาพเยี่ยม “ดูมันดิ” คงเป็นหนึ่งในค่ายที่หลายคนคิดถึง ด้วยผลงานซีรีส์สร้างชื่อ และนักแสดงที่การันตีความสามารถ แม้จะเป็นเพียงค่ายเล็กๆ แต่กลับคับแน่นไปด้วยคุณภาพทำให้การเข้าเป็นหนึ่งในเจน3 นั้น เป็นก้าวสำคัญของเก่งที่ได้เติบโต 

DMD Friendship The Reality

หลังจากเก่งได้ถูกเปิดตัวเป็นนักแสดงจากค่ายดูมันดิ ในปี 2023 เดือนธันวาคม ทางค่ายดูมันดิได้ประกาศทำ “DMD Friendship The Reality” รายการเรียลลิตี้ที่รวบรวมศิลปินจากค่ายดูมันดิทั้ง 8 คน มาใช้ชีวิตร่วมกันเพื่อพัฒนาทักษะ ทั้งร้อง เล่น เต้น แสดง ไปพร้อมๆ กับแข่งขันทำภารกิจ และตามหาคู่พาร์ทเนอร์ที่เข้ากันได้ทั้งในจอและนอกจอ เพื่อชิงรางวัลการเป็นคู่นักแสดงนำในซีรีส์เรื่องใหม่ของค่าย

ซึ่งเรียกได้ว่าภายในรายการนี้ ได้เห็นเก่งในมุมมองใหม่ๆ ที่อาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมทั้งความสามารถในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความ Professional ในด้านการถ่ายแบบ จากภารกิจ Photoshoot หรือความสามารถในด้านการร้อง จากภารกิจ Mske it yours ถ่ายทอดบทเพลงด้วยความเป็นตัวเอง และเก่งได้ถ่ายทอดบทเพลง “รักเอย” ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบและเป็นผู้ชนะลำดับที่ 2 ในการแข่งขันภารกิจนี้

ในเรื่องของความสามารถ เชื่อว่าในรายการเรียลลิตี้คงได้เห็นเก่งในหลายๆ ด้าน แต่อีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นคือ “พาร์ทเนอร์” ที่จะคอยส่งเคมีให้ถึงผู้ชม ซึ่งต้องบอกเลยว่าหากได้ติดตามรายการทุกอีพี เคมีที่ฟุ้งกระจายและปรากฎให้เห็นได้อย่างชัดเจนคงหนีไม่พ้น “เก่งน้ำปิง” ที่ชัดเจนเสียจนโดนทั้งเพื่อนในรายการและแฟนคลับแซวไม่หยุด 

และในอีพีของการเลือกคู่พาร์ทเนอร์ ก็เป็นอันเข้าใจตรงกันว่า เก่ง-น้ำปิง ต่างเลือกกันและกันเป็นพาร์ทเนอร์และทำให้ “น้ำปิง – นภัสกร ปิงเมือง” กลายเป็นคู่พาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการจนเกิดแฮชแท็ก #เก่งน้ำปิง อย่างเป็นทางการ และในอีพีสุดท้ายสำหรับการค้นหาคู่พาร์ทเนอร์ที่จะได้เล่นซีรีส์เรื่องใหม่ของค่ายนั้น เก่งน้ำปิง ได้ถ่ายทอดการแสดงละครเวทีในในธีม “บอดี้การ์ด กับ คุณหนู” ที่สอดแทรกความเป็นพื้นเมืองเหนือน่ารักๆ เอาไว้ ทำเอาซื้อใจให้ผู้ชมได้ยิ้มไปตามๆ กัน จนสุดท้าย เก่งน้ำปิง ก็ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้ชนะในการแข่งขันครั้งนี้

เขมจิราต้องรอด The Series

มาถึงอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้ดอกทานตะวันดอกนี้ถูกค้นพบมากขึ้นไปอีกขั้น หลังจากที่เก่งและน้ำปิง ได้เป็นผู้ชนะจากการแข่งขัน DMD Friendship The Reality ซึ่งจะได้ถูกรับเลือกให้เป็นคู่นักแสดงนำในซีรีส์เรื่องใหม่ของค่าย เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางดูมันดิก็ได้มีการปล่อยภาพ Coming Soon ของซีรีส์เรื่อง “เขมจิราต้องรอด (KhemjiraTheSeries)”   เรื่องราวที่นำมาจากนิยายแนวโรแมนติก ไสยศาสตร์ และได้ปล่อยภาพโปสเตอร์ที่ทำให้แฟนๆ ตื่นตาตื่นใจ เพราะนักแสดงนำในเรื่องนี้คือ เก่ง และ น้ำปิง นั่นเอง

“เขมจิราต้องรอด (KhemjiraTheSeries)” นำมาจากนิยายโดยผู้แต่งนามปากกา “คาลิ” ที่เป็นเรื่องราวของ “เขมจิรา” รับบทโดย น้ำปิง ผู้ชายที่เกิดในตระกูลที่ต้องคำสาปว่าหากเกิดเป็นผู้ชายจะต้องตายตอนอายุ 20 ปี เมื่ออายุครบ 19 ปี ก็เริ่มมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นรอบตัวจนเขาต้องขอความช่วยเหลือจาก “พ่อครูภรัณ” หมอผีไสยขาวที่คอยดูแลหมู่บ้าน ทั้งคู่ต้องร่วมต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ จนเกิดเป็นความรู้สึกดีๆ อีกทั้งยังมีภูมิหลังเมื่ออดีตกาลเข้ามาร่วมด้วย ทำให้เรื่องราวความรักของทั้งคู่ค่อยๆ เกิดขึ้น

ซึ่งเมื่อทาง Mandee Work ได้ปล่อย Pilot ออกมา ก็เรียกได้ว่าได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม ทั้งในเรื่องของโปรดักชัน หรือจะเป็นตัวบทเพราะถือเป็นเนื้อเรื่องแบบใหม่ๆ ของวงการซีรีส์วายที่อาจจะไม่ค่อยได้เห็นมากนัก รวมถึงตัวนักแสดงที่เรียกได้ว่าแคสมาอย่างตรงปกจนแฟนๆ บอกว่าเหมือนหลุดออกมาจากในนิยายกันเลยทีเดียว

“วิมานหนาม” ภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต 

อีกหนึ่งความสำเร็จที่ทำให้เก่งได้ถูกค้นพบมากขึ้นและยังคงแพร่กระจายเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ กับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากค่าย GDH “วิมานหนาม” ที่เข้าฉายวันนี้เป็นวันแรก (22 สิงหาคม 2567) กับบทบาทของ “จิ่งนะ” น้องชายของโม๋ ที่จะเข้ามาเป็นหนึ่งในตัวแปรในการแย่งชิงวิมานหนามแห่งนี้ ซึ่งหลังจากที่ภาพยนตร์ได้เข้าฉายไปแล้ว เก่งได้รับคำชมในเรื่องของการแสดงเป็นจำนวนมาก แม้จะไม่ใช่นักแสดงหลักแต่กลับถ่ายทอดบทบาทของ จิ่งนะ ออกมาได้อย่างดี และสะดุดตาหลายๆ คนจนเกิดความสงสัยว่าคนคนนี้คือใคร

ซึ่งบทบาท “จิ่งนะ” เป็นตัวละครที่เก่งได้เป็นคนไปแคสด้วยตัวเองจนสามารถผ่านกระบวนการทั้งหมดและได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้แม้จะเป็นนักแสดงหน้าใหม่ก็ตาม เรียกได้ว่าถือเป็นบทพิสูจน์หนึ่งในความสามารถของเก่งเรื่องการแสดง เพราะภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แบบนี้ ไม่ใช่ใครก็ทำได้ 

“วิมานหนาม” เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของความไม่เท่าเทียมสู่การแย่งชิงเพื่อครอบครองวิมานในฝัน ซึ่งเป็นการประชันบทบาทของ 2 ตัวละครหลัก “ทองคำ” รับบทโดย เจฟ ซาเตอร์ และ “โม๋” รับบทโดย อิงฟ้ส วราหะ กับการฟาดฟันเพื่อให้ได้สวนทุเรียนมาครอบครอง เสริมทัพด้วย เต้ย-พงศกร , เก่ง-หฤษฎ์ , สีดา พัวพิมล และเป็นผลงานจากผู้กำกับฝีมือดี ผู้กำกับฝีมือดี บอส-นฤเบศ กูโน เรื่องราวความแค้นอันแสนแหลมคมจะจบลงอย่างไร ต้องรอติดตามกันในโรงภาพยนตร์

🌻 3 ไวรัล ผู้เกิดมาเพื่อถูกค้นพบ

บอกเลยว่านอกจากผู้ชายคนนี้เป็นอีกหนึ่งคนที่เกิดมาเพื่อถูกค้นพบ เพราะในหลายๆ จังหวะชีวิตแม้จะเป็นการใช้ชีวิตทำหน้าที่ตามบทบาทที่ตัวเองได้รับ แต่ก็กลับกลายเป็นไวรัลที่ทำให้ตัวของเก่งได้ถูกค้นพบ

“ภาพลักษณ์” 

นี่คือเจ้าของวลีสุดไวรัลที่หลายคนน่าจะต้องคุ้นหูหรือเคยเห็นคลิปนี้ผ่านตา กับ “ครูหล่อบอกต่อด้วย” ซึ่งเป็นคลิปในขณะที่เก่งกำลังเป็นครูฝึกสอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ด้วยความหล่อออร่าบาดใจ ทำให้คลิปนี้กลายเป็นไวรัลขึ้นมาจนคนแห่ตามหาว่าครูคนนี้เป็นใคร และเห็นด้วยกับความหล่อของเจ้าตัว

จนทำให้หลายๆ คนอาจจะติดปากเรียก “ครูเก่ง” ตามๆกันมา เพราะแท้จริงแล้วเก่งนั้นจบการศึกษาจากวิทยาลัยการศึกษา สาขาวิชาการศึกษา วิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยพะเยา แต่สุดท้ายเก่งก็เลือกเดินเส้นทางสายการแสดงเพื่อมาให้เราได้ค้นพบกันอย่างทุกวันนี้

“เสียงร้อง”

เรียกว่าเป็นไวรัลเล็กๆ ที่เป็นเรื่องราวประทับใจของแฟนคลับ กับเหตุการณ์ถูกตามหาว่าใครเป็นเจ้าของเสียงร้องที่ร้องเพลง “ซ่อน(ไม่)หา – เจฟ ซาเตอร์” กลางสยาม ซึ่งในวันนั้นเป็นงาน Ultra sonic Water Festival 2024 ที่เก่งได้ถูกเชิญไปร่วมงานและได้โชว์ cover เพลงซ่อน(ไม่)หา ซึ่งในระหว่างการซ้อมก่อนเริ่มงาน ได้มีคนบังเอิญผ่านไปได้ยินและเกิดความสงสัยว่าใครเป็นคนร้องเพลงนี้ จนถึงกับบอกว่าคิดว่าเจ้าของเพลงมาเอง !  ซึ่งเมื่อได้โพสต์คลิปลงไป ก็ทำให้หลายคนเห็นด้วยจนเริ่มมีการตามหาว่าเขาคนนั้นคือใคร และแน่นอนว่าหลังจากนั้นเป็นหน้าที่ของแฟนคลับที่ทำหน้าที่ขายอย่างเต็มที่ จนทำให้เหตุการณ์นั้นเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เก่งถูกค้นพบยิ่งขึ้นไปอีก

“การแสดง”

แน่นอนว่าในเรื่องของการแสดงเป็นสิ่งที่ทำให้เก่งถูกค้นพบมากที่สุด เพราะทั้ง 2 บทบาทที่เก่งได้รับนั้น ถือเป็นความท้าทายและเรียกความสนใจให้กับผู้คนมากมายไม่ใช่แค่แฟนคลับ

จิ่งนะ จาก วิมานหนาม ถือเป็นบทบาทที่ทำให้เก่งได้รับแสงสว่างมากพอที่จะทำให้ผู้คนสนใจและเริ่มตามหาว่าผู้ชายคนนี้คือใคร ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือความสามารถในเรื่องการแสดงก็ทำให้ผู้คนยอมรับ และติดตามเก่งมากขึ้นจากภาพยนตร์เรื่องนี้

พ่อครูภรัณ จาก เขมจิราต้องรอด แม้ซีรีส์เรื่องนี้จะออกมาแค่ Pilot แต่ก็ทำให้เก่งนั้นเป็นไวรัลด้วยตัวบทที่แปลกใหม่จากวงการซีรีส์วาย และความเหมาะสมของคาแรคเตอร์ที่ผู้คนต่างบอกว่าเหมือนกับหลุดออกมาจากในนิยาย จนทำเอาเกิดไวรัลครองแผ่นเสียง “แห่ฮ้อมโฮมขวัญ” ใน TikTok ไถฟีดไปทางไหนก็เจอ ทำเอาตกแฟนๆ ได้จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

🌻 เกร็ดเล็กๆ บ่งบอกเมล็ดพันธุ์คุณภาพ

Call Out ในประเด็นปัญหาทางการศึกษา

อย่างที่รู้กันแล้วว่าเก่งเคยเป็นครูฝึกสอนก่อนที่จะเข้าวงการ ทำให้ตัวเขานั้นเข้าใจปัญหาทางการศึกษาอย่างดี และคอย call out พูดถึงประเด็นทางการศึกษามาโดยตลอดเมื่อมีโอกาส จนมีการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่งที่เก่งได้พูดถึง 2 ปัญหาหลักทางการศึกษา “อุปกรณ์ทางการศึกษาไม่เพียงพอ” และ “ภาระงานขอบบุคลากรทางศึกษาที่มาเกินความจำเป็น“ ซึ่งถือเป็นการ call out ปัญหาที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงมากนัก และสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ เป็นอย่างมาก

ช่องยูทูป วันละเวลา – Whanlawela

อีกหนึ่งเกร็ดเล็กๆ ที่บางคนอาจจะยังไม่รู้ เก่งเคยทำช่องยูทูปเป็นของตัวเอง “วันละเวลา – Whanlawela” เพราะเก่งเป็นคนชอบเที่ยว และอยากให้ทุกคนได้สัมผัสบรรยกาศทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองเหนือ จนได้เกิดอีพีแรกของช่องขึ้นมากับคลิป Whanlawela ท่องเที่ยวโฮมเสตย์กับคนแปลกหน้า 2 วัน 1 คืน ห้วยกุ๊บกั๊บ เชียงใหม่ EP.1 ที่ถึงแม้จะเป็นคลิปแรกและคลิปเดียวของช่อง แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในความชอบที่ทำให้ได้เห็นเสนห์ของหนุ่มพะเยาคนนี้ในอีกด้าน

Kengjingnah สู่ Kengharit

เกร็ดสุดท้ายที่นำมาฝากกันนั่นคือการเปลี่ยนแปลงแฮชแท็กของเจ้าตัว จาก Kengjingnah ที่เป็นแฮชแท็กเดิม กลายเป็น KengHarit และจะเก็บ Kengjingnah ไว้เป็นความทรงจำสำหรับการเล่าถึงตัวละคร จิ่งนะ จากเรื่องวิมานหนามนั่นเอง

ดังนั้นวันนี้พี่แมงโก้ ขอร่วมฉลองกับแฮชแท็กใหม่ #KengHarit อย่างเป็นทางการและหวังว่า “เก่ง – หฤษฎ์ บัวย้อย” จะกลายเป็นดอกทานตะวันที่เบ่งบานบนเส้นทางของตัวเองตลอดไป   


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save