ในยุคปัจจุบันที่โลกเต็มไปด้วยเทคโนโลยี AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเทคโนโลยีนั้นเติบโตอย่างก้าวกระโดดจนสามารถทดแทนบางสิ่งบางอย่างทำให้มนุษย์นั้นสะดวกสบายมากขึ้น แต่สิ่งที่ทดแทนนั้นบางครั้งก็กลายเป็นสร้างความกังวลว่าแท้จริงแล้ว AI กำลังจะมาแทนที่มนุษย์จริงหรือไม่ ? แต่ KBTG เป็นหนึ่งในผู้ที่มองต่างออกไป และพยายามก้าวให้ทันความเปลี่ยนแปลงจนเกิดเป็น KBTG Kampus โครงการที่มองเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยี และการศึกษา เพราะมีความเชื่อที่ว่า AI ไม่สามารถแทนที่มนุษย์ได้ อย่างไร “ความเป็นมนุษย์” คือจุดเด่นของมนุษย์ที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบ ดังนั้นมนุษย์จึงต้องคงความเป็นมนุษย์ให้แข็งแกร่ง พร้อมกับความรู้ที่แข็งแรง เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์จาก AI ให้ได้มากที่สุด KBTG จึงได้จับมือกับ 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL), มหาวิทยาลัยมหิดล (MU) และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TU) เปิดตัวหลักสูตรระดับปริญญาโทร่วมกับ KBTG Kampus ต่อยอดการศึกษาด้านเทคโนโลยีแบบเชิงลึก ยกระดับงานวิจัยระหว่างภาคอุตสาหกรรมและภาคการศึกษาของไทย วิสัยทัศน์กว้างไกล นำชัยความสำเร็จ การที่องค์กรหรือสถาบันนั้นพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่มีวันสิ้นสุด สิ่งหนึ่งที่เป็นชนวนสำคัญที่ทำให้เชื้อเพลิงส่องสว่างคือ “วิสัยทัศน์ของผู้นำ” ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้ ทำให้เราได้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของทั้ง KBTG และ 3 มหาวิทยาลัย ที่ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเทคโนโลยี ซึ่งการที่จะเอาชนะความเปลี่ยนแปลงได้จะต้องใช้องค์ความรู้ ดังนั้น การศึกษา จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม และควรส่งเสริมให้พัฒนาอยู่เสมอ ซึ่ง KBTG ได้เปิดตัวโครงการ KBTG Kampus ไปเมื่อปี 2565 เพื่อแก้ปัญหาทางการศึกษาด้านเทคโนโลยีในประเทศไทย ด้วยการเชื่อมรอยต่อระหว่างภาคอุตสาหกรรมและภาคการศึกษา และเสริมสร้าง Ecosystem ของการเรียนทางด้านเทคโนโลยี (Tech Education) ให้ครบวงจรยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการพัฒนาหลักสูตรระดับปริญญาตรีซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญ และล่าสุด KBTG Kampus จึงได้ต่อยอดเปิดตัวหลักสูตรระดับปริญญาโท ร่วมออกแบบหลักสูตรกับ 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย โดยคัดสรรโจทย์จากงานวิจัยจริงมาพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้สามารถประยุกต์ใช้ได้จริงในโลกอุตสาหกรรมปัจจุบันและอนาคต รวมถึงมุ่งเน้นสาขาวิชาที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ตั้งแต่การพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์และพยากรณ์ ข้อมูลด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรม ไปจนถึงด้านความปลอดภัย เพราะตั้งแต่ AI สร้างผลกระทบให้กับ Education System มากขึ้น ทำให้มนุษย์ต้องเรียนรู้ทั้งในเรื่องของข้อมูล และองค์ความรู้ต่างๆ เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่างๆ เสริมให้ความเป็นมนุษย์นั้นสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น KBTG จึงเน้นย้ำหลักสูตรที่สามารถใช้งานได้จริง ผลักดันวงการการศึกษาไทยให้ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพ และพาประเทศไทยไม่ให้ตกขบวนรถไฟแห่งความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ การรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของสถาบันชั้นนำ ภายในงานครั้งนี้ นอกจากจะมีการเซนต์สัญญา MOU ของ 3 สถาบันอย่างเป็นทางการแล้ว ยังได้ร่วมฟังทั้งมุมมอง วิสัยทัศน์ของอธิการบดีทั้ง 3 สถาบัน ร่วมกับ คุณกระทิง-เรืองโรจน์ ประธานกลุ่มบริษัท KBTG อีกด้วย ซึ่งสำหรับโปรเจคนี้ ทาง รศ.ดร. คมสัน ได้พูดถึงมุมมองของ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่ต้องการมุ่งเน้นไปยังการปรับเปลี่ยนทิศทางของหลักสูตรให้เข้ากับ AI มากยิ่งขึ้น และพยายามหาเครื่องมือต่างๆ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ปัจจุบันและตอบโจทย์เด็กรุ่นใหม่มากที่สุด รวมถึงตัวบุคลากรเองด้วยเช่นกัน ส่วนทาง ศ.นพ. ปิยะมิตร อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ก็ได้แชร์มุมมองเกี่ยวกับการตระหนักใช้ AI เช่นกัน เพราะเชื่อว่า AI ไม่ได้สร้างผลกระทบให้กับมนุษย์ แต่ผู้ที่ใช้ AI ต่างหากที่จะสร้างผลกระทบ ดังนั้นการเรียนรู้ที่จะใช้ AI จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรพัฒนาอยู่เสมอ รวมถึงยังให้ความสำคัญกับการใช้ AI ทางการแพทย์ในด้านต่างๆ จากที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังส่งเสริมให้มีการร่วมมือกันในหลายๆ องค์กร เพื่อให้เกิดการพัฒนาต่อไปในหลายๆ ด้าน ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็เช่นเดียวกัน ศ.ดร ศุภสวัสดิ์ ได้มองเห็นถึง “ความแม่นยำ” ของ AI และเชื่อว่า AI จะสามารถเติมในส่วนที่มนุษย์ขาดหายให้สมบูรณ์ อีกทั้งยังให้ความเชื่อมั่นว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พร้อมที่จะรับความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และยินดีที่จะจับมือกับทุกๆ องค์กร เพื่อพัฒนาบุคลากรให้เปิดโลกกว้างมากที่สุด พร้อมรับมือในทุกๆ ความเปลี่ยนแปลง ปิดท้ายด้วย คุณกระทิง-เรืองโรจน์ เชื่อว่า KBTG ยืนหยัดที่จะช่วยพัฒนาองค์กรพาร์ทเนอร์อย่างเต็มกำลัง เพราะการศึกษาจะต้องใช้ในอนาคตได้จริง และเทคโนโลยีจะช่วยปรับตัวให้ระบบการศึกษาพัฒนามากยิ่งขึ้น หากแต่ละองค์กรร่วมมือกันพัฒนาในส่วนต่างๆ ก็จะยิ่งทำให้ประเทศไทยนั้นก้าวไปข้างหน้าอย่างมีคุณภาพ เตรียมพร้อมสู่อนาคตทางการศึกษา อย่างที่ได้เห็นกันไปก่อนหน้านี้ว่า KBTG ได้ร่วมออกแบบหลักสูตรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่องจน ณ ปัจจุบัน ได้เข้าสู่การพัฒนาหลักสูตรปริญญาโท ร่วมกับ 3 สถาบัน โดยคัดสรรโจทย์จากงานวิจัยจริงมาพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้สามารถประยุกต์ใช้ได้จริงในโลกอุตสาหกรรมปัจจุบันและอนาคต รวมถึงมุ่งเน้นสาขาวิชาที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ตั้งแต่การพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์และพยากรณ์ข้อมูล ด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรม ไปจนถึงด้านความปลอดภัย จนได้ออกมาเป็น 3 หลักสูตร ดังนี้ หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาปัญญาประดิษฐ์เพื่อการวิเคราะห์เชิงธุรกิจ หรือสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่ง รศ.ดร. วรพจน์ คณบดีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เน้นย้ำถึงหลักสูตรนี้ต้องการผู้ที่มีความสนใจในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และเน้นการประยุกต์ใช้จริง รวมถึงมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้ก้าวทัน KBTG ในทุกๆ ด้าน เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาได้มากที่สุด หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาความมั่นคงไซเบอร์และการประกันสารสนเทศ (หลักสูตรนานาชาติ) มหาวิทยาลัยมหิดล ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของทั้งนักศึกษาและบุคลากร ผศ.ดร. ธนพล ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายการศึกษา คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้พูดถึงการขยายตัวของนักศึกษาที่ทำให้บุคลากรต้องมีองค์ความรู้ที่ครอบคลุม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เรียนว่าจะได้รับความรู้อย่างเต็มที่ และสามารถใช้งานได้จริง ดังนั้นผู้เรียนจึงจำเป็นจะต้องมีองค์ความรู้เบื้องต้นในด้านไซเบอร์ และใช้การศึกษาในครั้งนี้เป็นการต่อยอดองค์ความรู้ หลักสูตรศิลปศาสตรและวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลักสูตรนี้ ศ.ดร. สิทธิพล ประธานกรรมการบริหารหลักสูตร วิทยาลัยวิทยากร ได้เน้นย้ำถึงตัวหลักสูตรด้วยเนื่องจากเป็นหลักสูตรที่ออกแบบเนื้อหาการเรียนตามหัวข้อวิจัยของผู้เรียนโดยเฉพาะ เน้นช่วยออกแบบกระบวนการในการทำหัวข้อวิจัยนั้นให้สำเร็จ จึงคาดหวังผู้เรียนที่มีความมุ่งมั่นเพื่อให้สำเร็จหลักสูตรอย่างรวดเร็ว รวมถึงเตรียมความพร้อมทั้งเนื้อหา และบุคลากรให้รองรับความต้องการของผู้เรียนในทุกๆ ด้าน อีกทั้ง ดร. เจริญชัยยังได้พูดถึงความท้าทายของการร่วมมือพาร์ทเนอร์กับ 3 สถาบัน ในเรื่องของความคาดหวังว่า หลักสูตรทั้งหมดจะพัฒนาให้สามารถใช้งานได้จริง และ KBTG จะคอยสนับสนุนทุกวัตถุดิบให้ได้ครอบคลุมที่สุด นอกจากความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรแล้ว KBTG จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการคัดเลือกผู้สนใจเข้าศึกษาต่อและดูแลหลักสูตรเพื่อรองรับนักศึกษาตั้งแต่แรกเข้าจนถึงเรียนจบ โดยหวังจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบและยกระดับการศึกษาด้านเทคโนโลยีในประเทศไทย ไปจนถึงอุตสาหกรรมไอทีระดับประเทศ ผ่านการพัฒนา Tech Talent รุ่นใหม่ ถือเป็นการตอกย้ำการเป็นองค์กรเทคโนโลยีชั้นนำของไทย พร้อมได้มีการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้กับทางมหาวิทยาลัยมหิดลและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ที่สนใจลงเรียนหลักสูตรดังกล่าว สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครได้ที่ https://kbtgkampus.tech/
