เมื่อการฝึกงานในยุคนี้ไม่ใช่แค่ให้นักศึกษารอพี่ๆ สั่งงานอีกต่อไป เพราะที่โครงการฝึกงาน K Capstone ของทางธนาคารกสิกรไทย เขาให้น้องๆ ได้ฝึกงานในรูปแบบของโปรเจกต์เบส ที่เรียกว่าเปิดประสบการณ์ใหม่ของการฝึกงานที่ให้อิสระทางความคิด และรูปแบบการทำงาน จนนำไปสู่การพิชชิ่งงานต่อหน้าผู้บริหารมืออาชีพ
แม้ระยะเวลาเพียง 2 เดือนอาจจะน้อยนิดสำหรับใครหลายคน แต่ประสบการณ์ที่ได้รับระหว่างทาง และหลังฝึกงานเชื่อว่าคงเป็นอะไรที่ไม่น้อยนิด เพราะทีมงาน Mango Zero ได้มีโอกาสไปร่วมชมวันพิชชิ่งโปรเจกต์เบสของน้องๆ ที่ร่วมโครงการฝึกงานของ K Capstone ปีที่ 2 และสัมผัสได้ว่า…เป็นการฝึกงานที่ไม่ธรรมดาจริงๆ
ความน่าสนใจที่เกิดขึ้นนี้ เราขอสรุปมาให้ผู้อ่าน เผื่อจะลองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโครงการนี้….
ผู้สมัครกว่า 800 คนสู่นักศึกษาตัวจริง 49 คน
เรียกว่าเป็นโครงการฝึกงานที่หาน้องๆ นักศึกษากันอย่างเข้มข้นมาก จากผลสำเร็จของโครงการ K Capstone ในปีแรกจนเดินทางมาสู่ปีที่ 2 ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ว่า “Stat from Scratch” เพื่อให้น้องๆ นักศึกษาได้ทดลองลงมือทำ สร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อเป็นโครงการบ่มเพาะให้เกิดผู้นำสิ่งใหม่ๆ ทำให้ปีนี้มีนักศึกษาสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 800 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 60% ซึ่งคัดเลือกนักศึกษาจากทั่วประเทศ ทั้งต่างคณะ ต่างสถาบันที่มีทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เหลือตัวจริงเพียง 49 คน
โดยเหตุผลที่คัดกันอย่างเข้มข้นแบบนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าน้องๆ นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการจะมีความพร้อมและเหมาะสมอย่างแท้จริงค่ะ โดยหลักๆ จะเป็นนักศึกษาจากกลุ่มสาขา Business Administration, Economics, Computer Science (IT) และ Computer Engineer นั่นเอง
จากโปรเจกต์นักศึกษาสู่การ Pitch ต่อผู้บริหารมืออาชีพ!
สำหรับการฝึกงานแบบโปรเจกต์เบสหรือ Project-Based Learning ถือเป็นการฝึกงานรูปแบบใหม่ ที่ให้น้องๆ นักศึกษาได้ลงมือทำโปรเจกต์ขึ้นมาจริงๆ ผ่านการทำงานในรูปแบบ Agile ซึ่งจะเป็น Way of Work ของธนาคารกสิกรไทย ที่จะทำให้การทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพมาก และโปรเจกต์ที่น้องๆ คิดไอเดียมานี้ จะได้นำไปพิชชิ่งต่อหน้าผู้บริหารมืออาชีพตัวจริงเสียงจริงเลยค่ะ ซึ่งระหว่างทางจะมีพี่ๆ ผู้เชี่ยวชาญในวงการสตาร์ทอัพมาแลกเปลี่ยนความรู้ และพี่ๆ จากธนาคารกสิกรไทยมาเป็นเมนเทอร์ให้กับน้องๆ อีกด้วยค่ะ
โดยโปรเจกต์ในปีนี้เป็นการพัฒนา Online Community Platform เพื่อตอบสนอง Life Style และ Passion ของกลุ่มวัยรุ่นยุคใหม่ในปัจจุบันซึ่งมีหลากหลายโปรเจกต์เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มของการหางาน, แพลตฟอร์มการดูดวง, แพลตฟอร์มสำหรับคนชอบช้อปปิ้ง และแพลตฟอร์มสำหรับคนหารูมเมทอยู่หอเป็นต้น
Pitching Day กับกติกาอย่างมืออาชีพ
และแล้วตลอดระยะเวลา 2 เดือนของการปลุกปั้นโปรเจกต์ก็เดินทางมาสู่วันพิชชิ่ง ในวันนี้ทีมงาน Mango Zero ได้มีโอกาสไปร่วมชมการพิชชิ่งของน้องๆ ที่มีทั้งหมด 8 กลุ่มโปรเจกต์ ต่อหน้าคณะกรรมการทั้ง 3 ท่านได้แก่
- นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย
- นายธนพงษ์ ณ ระนอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทยและกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด
- นายพงศธร ธนบดีภัทร CEO&Co-founder บริษัท รีฟินน์ อินเตอร์เนชั่นแนล ดอท คอม จำกัด (Refinn)
ต้องบอกว่าบรรยากาศเหมือนเป็นการพิชงานระดับมืออาชีพมากเลยค่ะ น้องๆ แต่ละทีมนำเสนอได้เก่งมาก ทำเอาคณะกรรมการหนักใจเลยค่ะ เพราะสัมผัสได้ว่าน้องๆ ทุกทีมเตรียมตัวมาดี สามารถตอบข้อซักถามของคณะกรรมการได้ และรับฟังคอมเมนต์อย่างตั้งใจ ซึ่งถือว่าเป็นคุณสมบัติที่ดีมากของการก้าวสู่มืออาชีพค่ะ
ผลลัพธ์ที่ได้สะท้อนไอเดียของคนรุ่นใหม่
แน่นอนว่าเป็นเรื่องปกติของการพิชงานที่ต้องมีโปรเจกต์ที่ได้ และไม่ได้เช่นเดียวกับการพิชงานในวันนี้ของน้องๆ ที่ทางธนาคารกสิกรไทยมีรางวัลให้กับผลงานโปรเจกต์ของน้องๆ ด้วยเรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นมากๆ น้องๆ แต่ละทีมนี่ลุ้นกันสุดๆ ไม่แพ้คนดูเลยค่ะ
โดยเกณฑ์การตัดสินวัน Pitching Day แบ่งออกตามนี้ค่ะ
- Impact (Pain points) และขนาดของตลาด
- ความเป็นคอมมูนิตี้และความคิดสร้างสรรค์
- ความเป็นไปได้จริง
- ความแข็งแกร่งของทีม
- การนำเสนอผลงาน
และผลงานโปรเจกต์ที่ชนะเลิศก็คือ ทีม Share-mily เป็นแชร์ริ่งแพลตฟอร์มสำหรับซื้อสินค้าโปรโมชั่นจากแบรนด์ชั้นนำ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่น ด้วยความรวดเร็ว และน่าเชื่อถือ เหมาะสำหรับสาวๆ ในยุคนี้ที่บางทีเจอของลดราคาแบบซื้อ 1 แถม 1 แต่อยากได้คนหาร จะได้ประหยัดไปอีก แพลตฟอร์มนี้คือตอบโจทย์สุดๆ เลยค่ะ
ส่วนผลงานโปรเจกต์อันดับที่ 2 คือ MU daily ศูนย์รวมการดูดวงทุกรูปแบบที่มาพร้อมกับผู้ช่วยให้คำปรึกษาที่ช่วยเสริมความมั่นใจในทุกก้าวของชีวิต นอกจากนี้ยังช่วยให้เราได้สนุกสนานกับการพบเพื่อนใหม่ที่พร้อมจะมูไปด้วยกันในทุก ๆ วัน ใครสายมูนี่คือเลิฟเลยนะคะ
และผลงานโปรเจกต์อันดับที่ 3 คือ Share-Kun หรือแชร์กัน เป็นแพลตฟอร์มสำหรับหาหอและหารูมแมทให้กับน้องๆ นักศึกษา
โดยนายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย บอกว่า การได้น้องๆ เข้ามาฝึกงาน มาทดลองทำงานจริงแบบนี้ ถือเป็นการสร้างคนและได้เห็นไอเดียใหม่ๆ ของเด็กในยุคนี้ เสมือนเป็นการสร้างเด็กรุ่นใหม่ให้ประเทศและเป็นแม่เหล็กในการรับคนเข้าทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ฝึกงานจบแต่…มิตรภาพและผลงานยังคงอยู่
น้องสุวีรยา บุญชู เศรษฐศาสตร์ จากสาขาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนึ่งในสมาชิกทีม Share-mily เล่าว่าหลังจากชนะเลิศในโครงการนี้จะยังคงสานต่อโปรเจกต์นี้ต่อไปกับเพื่อนๆ ในทีม เพราะเหมือนที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สิ่งที่คิดไว้เป็นการนำไปสู่ความฝันที่อาจเกิดขึ้นจริงได้ในอนาคต
น้องสุวีรยา ยังเล่าต่ออีกว่า การมาฝึกงานที่นี่นั้น ทำให้ได้รู้ระบบว่าการทำงานของที่นี่ ไม่ใช่แค่ฝาก–ถอนเงินเพียงอย่างเดียว แต่เป็นระบบการทำงานที่มีทีมงานเบื้องหลังหลายขั้นตอน หลายแผนกกว่าจะออกเป็นบริการอย่างสมบูรณ์แบบที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ ทำให้รู้สึกสนุกที่ได้เรียนรู้และทำให้ได้ค้นหาตัวเองด้วยว่าจะไปต่อในทิศทางไหนค่ะ
ส่วนน้องๆ จากทีม MU daily แพลตฟอร์มสำหรับการดูดวงที่ตอนแรกก็แอบกังวลในการทำเสนอไอเดียนี้ แต่พี่ๆ ทางธนาคารกสิกรไทยกลับเปิดกว้างในไอเดีย ยิ่งเสนออะไรนอกกรอบพี่ๆ ยิ่งชอบ และพี่ๆ ก็คอยซัพพอร์ตในทุกๆ เรื่อง ทำให้รู้สึกว่าเรามีอิสระทางความคิดอย่างแท้จริง
และในโครงการนี้ยังได้เจอทั้งเพื่อนๆ และพี่ๆ ผู้เชี่ยวชาญจากหลายๆ ที่ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากทำให้ได้ทั้งความรู้และมิตรภาพไปพร้อมๆ กันเป็นอะไรที่รู้สึกประทับใจมาก
และนี่คือบทสรุปของโครงการฝึกงาน K Capstone2 ที่ถือเป็นประสบการณ์การฝึกงานแบบใหม่ที่นับเป็นอีกก้าวสำคัญต่อการเปิดโลกกว้างทางไอเดียให้กับน้องๆ
สำหรับใครที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ K Capstone สสสามารถติดตามข่าวสาร ข้อมูลการรับสมัครได้ที่ K Capstone หรือสำหรับใครที่สนใจร่วมงานกับธนาคารกสิกรไทย สามารถเข้าไปติดตามตำแหน่งงานต่างๆ ที่เปิดรับได้ที่ KASIKORN CAREER ได้เลย