สรุปเรื่องราว Johnny Depp vs Amber Heard กับเส้นทางความรักที่จบไม่สวย ในที่สุดโลกออนไลน์ก็ได้กลับมาเดือดอีกครั้ง กับเรื่องราวเส้นทางความรักที่จบไม่สวยของ 2 นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังอย่าง จอห์นนี เดปป์ วัย 56 ปี และแอมเบอร์ เฮิร์ด วัย 33 ปี โดยสาเหตุที่เรื่องราวของทั้งสองถูกพูดถึงอีกครั้ง เพราะฝ่ายชายได้ขึ้นให้การครั้งแรก พร้อมปฏิเสธว่าไม่เคยทุบตีอดีตภรรยา MANGO ZERO เลยขอสรุปเรื่องราวตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงล่าสุดของอดีตคู่รักดาราดัง เพื่อเป็นกรณีศึกษาให้กับใครหลาย ๆ คน ในเรื่องของการทำร้ายร่างกายกันภายในครอบครัว เพื่อให้ตระหนักว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก หรือเรื่องส่วนตัวอีกต่อไป ส่วนเรื่องราวนี้เกิดขึ้นจากอะไร และอนาคตจะเป็นยังไงต่อ ไปดูกันเลย! ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับอดีตคู่รักคู่นี้ก่อนว่าพวกเขาเป็นใครกัน ? จอห์นนี่ เดปป์ เป็นนักแสดงชาวสหรัฐฯ เขาเริ่มแสดงภาพยนตร์ ตั้งแต่ปี 1984 มีผลงานมาสเตอร์พีซ นับไม่ถ้วน บทที่ทำให้คนรู้จักเขาทั่วโลกคือ กัปตันแจ๊ค สแปร์โรว์ จากภาพยนตร์ซีรีส์ Pirates of the Caribbean เป็นอีกหนึ่งนักแสดงระดับตัวท็อปของวงการ มาในด้านของแอมเบอร์ เฮิร์ด เป็นนักแสดงชาวอเมริกันเช่นกัน และเป็นที่รู้จักในลุคของนางเอกผมแดงสุดฮอตจากบทบาท “เมร่า” ในภาพยนต์เรื่อง Aquaman อีกทั้งยังมีผลงานภาพยนตร์ และโทรทัศน์อย่างต่อเนื่อง หลังจากรู้จักพวกเขาแล้ว เรามาเริ่มเดินทางไปกับเรื่องราวของทั้งคู่กันได้เลย! จุดเริ่มต้นในการพบกันครั้งแรกของจอห์นนี เดปป์ และแอมเบอร์ เฮิร์ด คือการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ‘The Rum Diary’ ในปี 2009 โดยทั้งคู่เป็นคู่พระนางในเรื่อง และทั้งสองเริ่มคบหาดูใจในช่วงเดือนมิถุนายน 2012 เส้นทางรักของทั้งคู่ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี โดยทั้งคู่ตกลงหมั้น และแต่งงานกันในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2015 ความหวานนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน หลังจากแต่งงานได้ 15 เดือนเท่านั้น แอมเบอร์ก็ยื่นเรื่องขอหย่ากับศาล โดยให้เหตุผลว่า “ตลอดความสัมพันธ์ของเรา จอห์นนี่ ทำร้ายด้วยวาจา และทำร้ายร่างกายฉันตลอดเวลา พร้อมทั้งกล่าวถึงเดปว่าเป็น “ปีศาจ” หลายครั้งในการให้การกับศาล ” แอมเบอร์เรียกร้อง “ค่าเลี้ยงดู” จำนวน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท โดยจะมีพันธะผูกพันไปตลอด แต่สุดท้ายเดปป์ตัดสินใจจ่ายเงิน 7 ล้านดอลลาร์ (218 ล้านบาท) ก้อนเดียวให้จบกันไปเลย โดยไม่ต้องมาข้องเกี่ยวกันอีก จุดน่าสงสัยเกิดขึ้นเมื่อเพื่อนสนิทของแอมเบอร์เล่าว่า ในคืนที่แอมเบอร์อ้างว่าเดปป์ปาโทรศัพท์ใส่หน้าเธอ เพื่อนของแอมเบอร์เป็นคนโทรเรียกตำรวจเอง แต่พอเจ้าหน้าที่ตำรวจแอลเอไปถึงที่เกิดเหตุ กลับไม่พบหลักฐานใด ๆ ของการใช้ความรุนแรง จึงกลายเป็น “เรื่องเล่าอ้าง” จากคำพูดของแอมเบอร์เท่านั้น จากนั้นวันที่ 13 มกราคม 2017 ทั้งสองคนจึงประกาศหย่าร้างอย่างเป็นทางการ โดยไม่มีการกล่าวถึงเรื่องการทำร้ายร่างกายใดๆอีก จบที่ไม่จบ (ซิงเกิลใหม่ Getsanova ต้องเข้าแล้ว) ในวันที่ 27 เมษายน 2018 แดน วูตตัน บรรณาธิการของเดอะ ซัน สื่ออังกฤษชื่อดังลงบทความออนไลน์ว่า “ถามจริงๆ ว่า เจเค โรว์ลิ่ง ผู้แต่ง Fantastic Beasts จะมีความสุขจริงๆหรือ ถ้าจอห์นนี่ เดปป์ คนทำร้ายเมียตัวเอง จะได้รับบทบาทในหนังของเธอ” ซึ่งเจเค โรว์ลิ่ง ขึ้นชื่อว่าเป็นเฟมินิสต์ตัวยง หลังจากนั้นไม่นานค่ายหนัง Warner Brother ตัดสินใจถอดเดปป์จากการเล่นบทกรินเดอวัลด์ ชนวนของความขัดแย้งก็ถูกจุดให้หนักขึ้นอีก เมื่อปี ค.ศ.2019 เดปป์เดินหน้าฟ้องแอมเบอร์ต่อ พร้อมด้วยคลิปหลักฐาน และพยานยืนยันว่าเดปป์ไม่ได้ทำร้ายร่างกายแอมเบอร์เลย สาเหตุของชนวนครั้งนี้เกิดจาก…ในเดือนธันวาคม 2018 แอมเบอร์ได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ว่า เธอเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำซึ่งเป็นการพาดพิงมาถึงเดปป์ทางอ้อม ทำให้เดปป์ไม่พอใจอย่างรุนแรง และมองว่าแอมเบอร์เล่นบทเป็นเหยื่อ พร้อมทั้งโยนความผิดมาให้เขาโดยไม่มีหลักฐาน ดังนั้นตั้งแต่ต้นปี 2019 เป็นต้นมาเดปป์จึงตกเป็นข่าวเรื่องคดีความอยู่ตลอด ทำให้ในปี 2019 และ 2020 เขาได้เล่นภาพยนตร์เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น อีกทั้งเขายังเสียบทกัปตัน แจ็ค สแปร์โรว์ ในเรื่อง Pirate of the Caribbean อีกด้วย พักหายใจสักครู่… จิบน้ำ แล้วมาอ่านกันต่อ สรุปแล้วเดปป์ต้องต่อสู้ทั้งหมด 2 ศาล คดีแรกคือคดีหมิ่นประมาทที่อังกฤษ ฟ้องเดอะ ซันในการใช้คำว่า Wife-Beater เพราะเขาไม่ใช่คนซ้อมเมีย และคดีที่สองคือฟ้องแอมเบอร์ที่สหรัฐอเมริกาข้อหาหมิ่นประมาทเช่นกัน เรื่องราวกลับมาวุ่นวายอีกครั้ง หลังจากมีการเผยแพร่คลิปเสียงของทั้งคู่ ที่ถูกบันทึกไว้เมื่อปี ค.ศ. 2015 โดยเป็นคำพูดของแอมเบอร์ที่ยืนยันว่าตัวเธอเองก็ทำร้ายเดปป์หลายครั้ง โดยในคลิปเสียงเดปป์บอกว่าไม่อยากให้ทะเลาะกันแบบใช้กำลังอีก แต่แอมเบอร์กล่าวว่า “เธอให้สัญญาไม่ได้หรอก” คลิปเสียงนี้ ทำเอาโลกโซเชียลโหมกระแส #JusticeForJohnnyDepp ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม แม้จะมีแนวโน้มว่าแอมเบอร์ใช้กำลังใส่เดปป์จริง แต่…ศาลอังกฤษไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินเรื่องคดีทำร้ายร่างกาย เพราะกำลังตัดสินคดีหมิ่นประมาทอยู่ว่าเดอะ ซัน สามารถใช้คำว่า Wife-Beater ได้หรือไม่ในหน้าสื่อ สุดท้ายศาลตัดสินให้เดอะ ซันชนะ โดยระบุว่าใน 14 เรื่องที่แอมเบอร์เล่า มีถึง 12 เรื่อง ที่มีแนวโน้มเป็นไปได้ ดังนั้นจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท และสามารถใช้คำว่า Wife-Beater ได้ เมื่อเดอะ ซัน ชนะคดี เช้าวันรุ่งขึ้น หน้า 1 เต็มฉบับเดปป์ถูกโจมตีอย่างหนักว่า “เดปป์แพ้คดีหมิ่นประมาท และในเวลานี้เราคอนเฟิร์มได้แล้วว่าเขาคือคนทำร้ายเมียตัวจริง” ซึ่งตอนแรกเดปป์จะยื้อขอสู้คดีต่อ แต่ศาลไม่รับฟ้องแล้ว คดีที่อังกฤษจบแล้ว มาต่อกันที่อเมริกาเมื่อเดปป์ยังคงฟ้องแอมเบอร์ เรื่องที่เธอไปเขียนบทความในวอชิงตันโพสต์ ทำให้เขาเสียโอกาสในการทำงานมากมาย แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้คดีต้องดีเลย์ออกไปเป็นเดือนเมษายนปี 2022 มาสู้กันใหม่อีกครั้งในปี 2022 เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2022 ที่ผ่านมา ศาลรัฐเวอร์จิเนียได้เริ่มต้นพิจารณาคดี ระหว่าง “จอห์นนี่ เดปป์” และ “แอมเบอร์ เฮิร์ด” ซึ่งเดปป์ก็ได้งัดพยานหลักฐาน และพยานบุคคลมากมาย นำมาหักล้างข้อกล่าวหาของอดีตภรรยาหลังจากที่เขาแพ้คดีนี้ที่อังกฤษเมื่อปีก่อน วันที่ 16 เมษายน 2022 คนใกล้ชิดเริ่มให้การเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นพี่สาวของเดปป์ที่มายืนยันปฎิเสธในเรื่องที่เดปป์ติดยาเสพติด หรืออดีตผู้ช่วยส่วนตัวของแอมเบอร์ที่เปิดเผยว่าไม่เคยเห็นความรุนแรงของคู่นี้ รู้เพียงแค่ว่าพวกเขาไม่มีความสุข และนักบำบัดที่เคยดูแลชีวิตสมรสของทั้งคู่มองว่า “แอมเบอร์นั้นใช้ความรุนแรงยั่วยุเพื่อให้เดปป์โต้ตอบ” ต่อมาในวันอังคารที่ 19 เมษายน 2022 เดปป์ได้แก้ต่างหนึ่งในเหตุการณ์ที่ทำให้เขาแพ้คดีที่อังกฤษ นั่นก็คือตอนปี 2015 แอมเบอร์อ้างว่าทะเลาะกับเดปป์รุนแรงจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเดปป์ได้นำพยานคนสำคัญคือ แพทย์ผู้ตรวจในวันนั้น พร้อมเอกสารทางการแพทย์ที่ระบุว่าแอมเบอร์บอกว่าปวดหัว เพราะหัวโขกเตียงตอนลุกขึ้นยืน อีกทั้งแพทย์ไม่เห็นร่องรอยบาดเจ็บใดๆบนร่างกายแอมเบอร์ จึงได้จ่ายยาพาราให้แอมเบอร์เท่านั้น ล่าสุดเมื่อวานพฤหัสที่ 21 เมษายน 2022 ที่ผ่านมาได้มีการเปิดคลิปเสียงทะเลาะวิวาทในชั้นศาล ซึ่งมีเสียงของแอมเบอร์พูดยืนยันเองในคลิปเลยว่าเธอเป็นคนตบตีเขา และเดปป์ยังเล่าอีกหลายเหตุการณ์ที่โดนอดีตภรรยาลงไม้ลงมืออีกเพียบ!! เราจะเห็นได้ว่าประเด็นของทั้งคู่สร้างข้อถกเถียงในสังคมขึ้นมาอย่างมาก ไม่ว่าจะในแง่ของแอมเบอร์ต่อให้กระทำความผิดมีหลักฐานครบก็ไม่โดนประนามหนักเท่าเดปป์เพราะว่าเป็นผู้หญิง นอกจากนั้นสิ่งที่เป็นข้อคิดได้จากเรื่องเดปป์ กับแอมเบอร์ คือการใช้ความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตามการใช้ความรุนแรงใส่กัน ก็เป็นความผิดทุกกรณีอยู่ดี และนี่ก็คืออัพเดทเรื่องราวดราม่าของอดีตคู่รักนักแสดงชื่อดังจอห์นนี เดปป์ และแอมเบอร์ เฮิร์ด ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ส่วนในอนาคตจุดจบของเรื่องนี้จะเป็นไปในทิศทางไหน ศาลจะตัดสินผลออกมาเป็นอย่างไรต้องรอติดตาม ขอบคุณภาพจาก ที่มา : WorkpointTODAY , The Matter , TNNThailand , Beartai ,
