วนกลับมาอีกครั้งสำหรับ เทศกาลกินเจ ช่วงเวลาที่สายบุญจะละเว้นเนื้อสัตว์และหันมาทานผักมากยิ่งขึ้น โดยในปี 2566 นี้ ก็เรียกได้ว่ามีร้านอาหารมากมายที่ออกเมนูอาหารเจเอาใจสายบุญกันรัวๆ เพราะยิ่งยุคสมัยเปลี่ยนไป เมนูอาหารเจก็อัปเกรดเลเวลความน่ากินเพิ่มมากขึ้น แต่ๆๆ ก่อนที่เราจะไปส่องอาหารเจปีนี้ เรามารู้จักเทศกาลนี้กันคร่าวๆ กันหน่อยดีกว่า ! หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเทศกาลกินเจคือเทศกาลที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีนแท้ๆ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย สันนิษฐานได้ว่า เทศกาลนี้เกิดจากคนไทยเชื้อสายจีน โดยมีตำนานเล่าว่าได้เกิดโรคระบาดที่เกาะภูเก็ต มีชาวจีนที่อพยพมาจากอำเภอกังไส (มณฑลเจียงซี) และได้ร่วมกันถือศีลกินเจ ซึ่งเป็นประเพณีความเชื่อในภูมิภาคบ้านเกิดของตนเองด้วยเชื่อว่าจะทำให้รอดพ้นเคราะห์กรรมนี้ไปได้ สุดท้ายพวกเขาก็รอดพ้นจากโรคระบาดทำให้ผู้คนศรัทธาและเกิดเป็นประเพณีถือศีลกินเจมาจนถึงปัจจุบัน เพราะฉะนั้น ถ้าไปถามหาอาหารเจธงเหลืองจากคนจีนแท้ๆ อาจจะไม่เจอแถมเขาจะงงอีกต่างหาก ! แต่ในเมื่อมันเป็นเทศกาลที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังเป็นเทศกาลที่ทำแล้วได้บุญด้วยแล้วนั้น เราก็ขอมาบอกต่อร้านอาหารเจที่สามารถหากินได้ง่ายๆ ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป และที่พิเศษไปกว่านั้น ! แมงโก้ จะแนะนำแบบแบ่งสัญชาติอาหารถึง 4 สัญชาติด้วยกัน เป็นทางเลือกที่จะเปลี่ยนการกินเจให้ไม่จำเจ และอิ่มท้องกันไปเล้ย ~ อาหารไทยที่เราคุ้นเคย รสใดเล่าจะเท่าอาหารรสชาติไทยแท้ เรามันขาดความแซ่บนัวไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นแม้จะเป็นเทศกาลกินเจแต่ก็สามารถหาอาหารสัญชาติไทยได้ง่ายๆ ละลานตาไปหมด ไม่ว่าจะเป็น ต้ม ผัด แกง ทอด เรามีให้เลือกทั้งนั้น และการันตีความอร่อยจากร้านอาหารชื่อดังที่อยู่คู่คนไทยมานานสุดๆ เช่น เอ็มเค สีฟ้า เอสแอนด์พี และร้านอื่นๆ อีกมากมาย ! (เกือบจะ) ต้นตำหรับ จากอาหารสัญชาติจีน ต้องขอวงเล็บคำว่าเกือบจะเอาไว้ เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเทศกาลกินเจนั้นไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนแท้ๆ แต่อย่างไรก็ตาม อาหารเจสัญชาติจีนนั้นก็มีไม่น้อยให้เลือกสรรจากร้านอาหารจีน เช่น ฮั่วเซ่งฮง ฮองมิน หรืออาหารยอดฮิตที่เป็นกระแสไม่หยุดหย่อนอย่าง หม่าล่า ก็มีหลายร้านให้เลือกสรร มาทั้งซุปผัก ซุปเต้าหู้ แม้กระทั่งซุปต้มยำกุ้งเจก็มีนะ ! หลากหลายเมนูกับอาหารสัญชาติญี่ปุ่น จริงๆ แล้วอาหารญี่ปุ่นเป็นอาหารที่เน้นผักอยู่แล้ว พอถึงเทศกาลกินเจจึงมีเมนูอาหารญี่ปุ่นมากมายที่สามารถดัดแปลงให้เข้ากับเทศกาลได้ เช่น ชุดฟองเต้าหู้ ข้าวหน้าผักรวม หรือจะเป็นเมนูเส้นก็มีให้เลือกหลากหลาย เรียกได้ว่ากินเจได้อย่างไม่จำเจจริงๆ ปิดท้ายด้วยอาหารเกาหลีกินได้ไม่เบื่อ อาหารสัญชาติสุดท้ายที่เป็นที่โปรดปรานของใครหลายๆ คนอย่าง อาหารเกาหลี ก็เป็นอีกหนึ่งสัญชาติที่ร่วมในเทศกาลกินเจครั้งนี้ ทั้งซุปกิมจิ ซุปเต้าเจี้ยว หรือพวกบิบิมบัมข้าวยำต่างๆ ก็มีให้เลือกสรร แถมหาได้ง่ายๆ เพราะเป็นร้านอาหารที่คุ้นตาอย่างเช่น บอนชอน และ ซูกิชิ ใครสายเกาไม่ต้องห่วงเพราะการันตีความอร่อยแน่นอน ! เพราะว่าการกินเจอยู่ที่ความเชื่อความศรัทธา เราสามารถกินให้อร่อยและเอ็นจอยไปกับเทศกาลนี้ได้ผ่านอาหารมากมายเมนูหลากหลายรสชาติ รู้แบบนี้แล้วการกินเจจะไม่จำเจและทำให้อิ่มท้องได้แบบสบายๆ เพราะกว่าจะทัวร์ครบ ทุกเมนู ทุกสัญชาติ ก็คงหมดช่วงเทศกาลพอดี สำหรับปีนี้เทศกาลกินเจจะเริ่มตั้งแต่ 15 – 23 ตุลาคม 2566 ใครที่เข้าร่วมก็สามารถไปตามกินเมนูต่างกันได้น้า ~