Mango Zero

สำรวจรอบวงโคจรดาวเสาร์ ย้อนรอย 10 ปีแห่งความพยายามบนเส้นทางดวงดาวของ JEFF SATUR

bobbidi boo

ทุกความฝันมีราคา แลกมาด้วยความทุ่มเทพยายาม โดยที่ไม่อาจมีใครล่วงรู้ได้ว่าต้องมากแค่ไหน นานสักเท่าไร 1 ปี 2 ปี 3 ปี หรือเผลอๆ อาจจะเป็น 10 ปีเสียด้วยซ้ำกว่าจะเฉียดเข้าใกล้ความสำเร็จ

อีกคนที่น่าจะบอกเล่าเรื่องราวของการวิ่งมาราธอนบนเส้นทางแห่งความฝันได้ดีที่สุด น่าจะเป็น “เจฟ ซาเตอร์” หรือ “เจฟ – วรกมล ซาเตอร์” ศิลปินผู้มากความสามารถทั้งการร้องเพลง ทำเพลง รวมถึงการแสดง ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยทัศนคติที่ดี และมุมมองน่าสนใจซึ่งส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับคนรอบข้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคุณวันเสาร์ หรือกลุ่มแฟนคลับของเจฟที่คอยให้การสนับสนุนเขามาโดยตลอด

กว่าจะได้ยืนโดดเด่นกลางแสงไฟ กว่าจะเป็นเพลงที่ใครๆ ก็ร้องตามได้และรู้สึกซาบซึ้งไปตามๆ กัน ใครเล่าจะรู้ว่าเส้นทางกว่าจะถึงดวงดาวของเจฟ ซาเตอร์​ต้องใช้ความพยายามมากมายมหาศาลตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี

🚀 ก่อนที่จะไปชื่นชมความสำเร็จบนเวทีคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของเขา ขอชวนมาขึ้นยานอวกาศ ออกเดินทางรอบดาวเสาร์ สำรวจร่องรอยการเดินทางกันว่านักร้องหนุ่มเสียงนุ่มที่ทุกคนให้การยอมรับคนนี้ เคยผ่านประสบการณ์ และมีผลงานอะไรมาบ้าง ? 🌟

เจฟ ซาเตอร์เริ่มต้นก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกเมื่อปี 2013 กับการเป็นศิลปินรุ่นสุดท้ายกับค่ายเพลงในความทรงจำของเด็กไทยอย่าง Kamikaze ทุกคนมักจะรู้จักเจฟในนามสมาชิกของโปรเจกต์พิเศษ Demo Project ก่อนที่จะแยกออกมาเป็นค่ายเพลงเต็มตัวในนาม The Demo

ผลงานของเจฟในค่าย The Demo อย่าง ไม่กล้าบอกชัด (Afraid to say) ก็มียอดวิวบน YouTube สูงถึง 20 ล้านวิว ตามมาติดๆ ด้วยเพลง คิดถึงเธอแทบจะตายแล้ว (Miss You Like Crazy) กับยอดวิว 13 ล้านวิว (ข้อมูลล่าสุดวันที่ 1 มี.ค. 2023) ถึงอย่างนั้นเพลงฮิตติดหูก็ยังไม่ได้การันตีความสำเร็จบนเส้นทางนี้ เมื่อชื่อของเจฟ ซาเตอร์เอง ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักมากขนาดนั้น จนกระทั่ง ศิลปินในค่าย The Demo ถูกยุบรวมมาเป็นศิลปินในสังกัด Garden Music ช่วงประมาณปลายปี 2014

ในปี 2018 เจฟก็ได้เปิดตัวเป็นศิลปินสังกัด GRAND MUSIK ในเครือแกรมมี่ กับโปรเจกต์ GRAND COMPILATION 2018 ถูกแนะนำในฐานะนักร้อง R&B ที่มีอินเนอร์การร้องยอดเยี่ยมและน่าจับตามอง

แม้ดนตรีจะเป็นสิ่งที่ชอบแต่ปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบความรู้สึก เช่น การไม่ได้ออกไปเล่นคอนเสิร์ต ไม่ได้เจอผู้คน ก็ทำให้เจฟเริ่มตัดสินใจลองทำอย่างอื่นดูบ้าง แต่ในท้ายที่สุดแล้วเมื่อมาถึงจุดหนึ่งก็ค้นพบว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบเอาเสียเลย

เจฟเริ่มศึกษาการทำเพลง ในช่วงที่ได้เล่นหนังสั้นเรื่อง HE SHE IT ศึกษาหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต และได้โปรดิวซ์เพลงประกอบด้วยตัวเอง เขียนเอง ทำเองเป็นเพลงภาษาอังกฤษ ชื่อ Comedy เป็นผลงานที่เขาภาคภูมิใจ และเป็นประกายเล็กๆที่จุดให้แรงใจไฟฝันของเจฟลุกโชนอีกครั้ง

เจฟกลายมาเป็นศิลปินอิสระสนุกกับการทำเพลงแต่งเพลง และเริ่มมีผลงานการแสดงต่างๆ ตามมา

กระทั่งวันที่เจฟได้รับโอกาสจากทาง Warner Music Thailand ในปี 2021 และกลับมาเดินในเส้นทางศิลปินเต็มตัว

ในปี 2023 ซีรีส์มาเฟียเรื่องดัง KinnPorsche The Series ของค่าย Be On Cloud ทำให้ทุกคนรู้จักเจฟ​ ซาเตอร์มากขึ้นในบทบาทของ “คิมหันต์​“ น้องคนเล็กผู้ลึกลับของตระกูลหลักธีรปัญญากูร รวมถึงการได้โอกาสแสดงความสามารถผ่านเพลงประกอบ “แค่เธอ” ที่เจ้าตัวทั้งเขียนเนื้อและโปรดิวซ์ด้วยตัวเอง ถ่ายทอดอารมณ์เต็มขั้นบวกกับพลังเสียงทรงพลังจนส่งเพลงนี้เข้าไปอยู่ในใจใครหลายคน และเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นที่ทำให้บทเพลงของเจฟ​ ซาเตอร์ถูกค้นพบ

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ เจฟตัดสินใจประกาศให้แฟนคลับได้รับรู้ร่วมกันในคอนเสิร์ต World Tour ของ KinnPorsche The Series ว่าต่อจากนี้เขาจะไม่ได้อยู่ภายใต้สังกัดของ Be On Cloud อีกต่อไป แต่จะย้ายไปอยู่สังกัด Studio On Saturn ซึ่งเป็นค่ายของตัวเองและผลงานเพลงจะยังอยู่ในค่าย Wayfer Records สังกัด Warner Music Thailand ต่อไป เป็นสัญญาณว่าเรื่องราวบทใหม่ของชายผู้มาจากดาวเสาร์กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

และเจฟซาเตอร์ที่ทุกคนได้เห็นในวันนี้คือบทพิสูจน์ความพยายามของเด็กชายคนเมื่อวันวานผู้ที่เชื่อมั่นเต็มเปี่ยมในสิ่งที่รัก แม้จะล้มลุกคลุกคลานแต่ไม่เคยล้มเลิก จนได้มายืนอยู่บนเวทีท่ามกลางความรัก เป็นศิลปินที่ทุกคนให้การยอมรับในความสามารถ และสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพเยียวยาโลกนี้ด้วยท่วงทำนองและคำร้องจากหัวใจ

ผลงานเพลง

Kamikaze – Demo Project  

The Demo  

Garden Music  

Grand Musik   

Passenger Records 

Wayfer Records  

ผลงาน Collaboration

ผลงานการแสดง

 ผลงงานเพลง OST. อื่นๆ :  

อ้างอิงจาก thairath, wikipedia , trueplookpanya