Mango Zero

สรุปสเปค iPhone X จอใหญ่เต็มขอบ 5.8 นิ้ว, สแกนใบหน้า, รองรับ AR, กล้อง 12 ล้าน

ในที่สุด iPhone X รุ่นที่ฉลองครบรอบ 10 ปี iPhone ก็เปิดเผยรายละเอียดทุกอย่างแล้วเรียบร้อยซึ่งรายละเอียดหลายอย่างมีความน่าสนใจมากมายทั้งดีไซน์ใหม่ และฟังก์ชันใฟม่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อนมากมาย พร้อมกับประกาศราคาออกมาแล้วอย่างเป็นทางการเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์สหรัฐฯ และรายละเอียดทั้งหมดของ iPhone X นั้นจะดูล้ำขนาดไหนคุ้มค่าคุ้มราคาไหม นี่คือบทสรุปก่อนจะทุบกระปุกเตรียมไปซื้อมาใช้แทนรุ่นเก่าที่ตกรุ่นอย่างเป็นทางการ

สรุปรายละเอียดของ iPhone X

iPhone X เปิดตัวมาในช่วงท้ายสุดในฐานะไฮไลท์ซึ่งหลายอย่างมีความว้าว แต่บางอย่างก็รู้สึกว่าเฉยจัง โดยรายละเอียดของ iPhone X ที่น่าสนใจนั้นมีดังนี้

ดีไซน์ใหม่ จอใหญ่คมชัดเต็มตา 

iPhone X ถือว่าคุ้มค่ากับการรอคอยในฐานะที่เป็นรุ่นฉลองครบรอบ 10 ปี iPhone โดยมีการดีไซน์ใหม่หมดจรดและตรงกับภาพหลุดทุกอย่าง โดยหน้าจอเป็น Super Retina Display ขนาด 5.8 นิ้ว 2436 x 1,125 พิกเซล ความละเอียด 458 พิกเซลต่อตารางนิ้ว ใช้เทคโนโลยี OLED แบบใหม่กินพื้นที่ด้านหน้าของ iPhone ทั้งหมด หน้าจอแสดงผลสีแม่นขึ้น จอคมชัดขึ้น ใหญ่เต็มไม้เต็มมือ ตัวเครื่องใหญ่กว่า iPhone 8Plus เล็กน้อย ส่วนฝาหลังเป็นกระจก รองรับการชาร์จแบบไร้สายดูหรูหรา และมีความแพงสมศักดิ์ศรีและคุ้มค่าที่รอคอย

ปลดล็อคโดยใช้ Face ID ลาก่อน Touch ID และปุ่ม Home

iPhone X มีการตัดปุ่ม Home ออกไปแล้วใช้ Face ID ในการปลดล็อคแทนส่วน Touch ID และ ปุ่ม Home ไม่มีแล้ว สำหรับการแสกนใบหน้านั้นโดยใช้เซ็นเซอร์ 4 ตัวในการประมวลผลเพื่อจดจำใบหน้าโดยทำงานร่วมกับเทคโนโลยี TrueDepth Camera System ประมวลความลึก และความชันของพื้นผิวใบหน้าจากนั้นจะใช้ Neural Network  วิเคราะห์และสร้างหน้าขึ้นมาเพื่อปลดล็อกดังนั้นปลอดภัยแน่นอน

หากหน้ามีหนวดขึ้น หรือมีการเปลี่ยนแปลงเช่นล้างเครื่องสำอางออกไป ก็สามารถปลดล็อคได้เพราะระบบประมวลผลมีความฉลาดขึ้น แต่ต้องจ้องหน้าจอเท่านั้นถึงจะปลดล็อคได้ จะเนียนเอารูปถ่ายมาปลดล็อคหรือแอบเอาเครื่องมาสแกนตอนเราหลับเพื่อปลดล็อคไม่ได้ นอกจากนี้ Face ID ยังสามารถใช้ในการเพื่อซื้อของออนไลน์ก็ได้ผ่าน Apple Pay หากไม่ใช้ Face ID ในการปลดล็อคด้วยการเลื่อนจอขึ้นก็ปลดล็อคได้ไม่ว่าจะแสงมืด หรือสว่างก็ปลดล็อคได้ ส่วนด้านข้างมีปุ่มกดเรียก Siri แทนปุ่ม Home

กล้องสุดล้ำที่รองรับเทคโนโลยี AR 

ทีเด็ดของ iPhone X คือกล้องหน้าสามารถถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ ซึ่ง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ทำไม่ได้ กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้งสองตัว มีระบบกันสั่นสองจุด ถ่ายในพื้นที่แสงน้อยได้ดีขึ้นเพราะมีเซ็นเซอร์ประมวลผลที่ใหญ่กว่าเดิม แฟลชเป็น LED True Tone 4 ตัว พร้อมใช้ Machine Learning ช่วยในการเลือกโฟกัสที่ดีที่สุด มีฟังก์ชั่นในการปรับสีได้หลายแบบทำให้การถ่ายภาพสวยมากขึ้น คุณภาพดีขึ้น

นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี ARโดยใช้ Gyroscope, Accelerometer และเซนเซอร์ใหม่ๆ เพื่อประมวลผลรองรับการใช้งานได้หลากหลาย เช่นเกม AR หรือแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ที่รองรับการแสดงผลของ AR ส่วนกล้องหน้ามีฟีเจอร์วิเคราะห์การเคลื่อนไหว ของกล้ามเนื้อที่แตกต่างกันกว่า 50 รูปแบบด้วย TrueDepth เพื่อจำลองการแสดงออกทางใบหน้าบน Animoji ที่มีให้เลือก 12 แบบ ที่ขยับได้โดยจับสังเกตจากใบหน้าเรา แถมยังอัดเสียงได้ด้วย เบื้องต้นส่งผ่าน iMessage ได้เท่านั้น แต่อนาคตอาจจะส่งบนโปรแกรมแชทอื่นๆ ได้

Apple A11 Bionic แรงและไว

ชิพเซ็ตที่ใช้เป็น Apple A11 Bionic มี CPU 6 Core มี Performance core สองตัวที่เร็วกว่าเดิมถึง 25% และ efficiency core  4 ตัวที่เร็วกว่าเดิม 70% มีศักยภาพในการประมวลผลที่ดีกว่าเดิม และประหยัดพลังงาน ทำงานแบบมัลติเทรดได้ดีขึ้น 70% ส่วน GPU ที่แยกมาต่างหากนั้นเป็นแบบ 3 Core ประมวลผลกราฟิกเร็วขึ้น 30% และทั้งหมดยังช่วยประมวลผลให้ระบบ machine learning, AR และเกมแบบสามมิติให้ทำงานได้ดีขึ้น

รองรับ Wireless charging 

 

ระบบชาร์จไร้สายสามารถใช้ได้แล้ว และจะใช้ที่ชาร์จไร้สายยี่ห้อใดก็ได้ที่ได้มาตรฐาน QI  หรือสามารถใช้ Air Power หรือแท่นชาร์จไร้สายของ Apple ได้ ซึ่ง Air Power สามารถชาร์จได้กับอุปกรณ์หลายอย่างของ Apple ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อนว่าบางอย่างก็ชาร์จไร้สายได้ด้วย เช่น AirPod หรือ AppleWatch แต่ AirPower ยังไม่ประกาศราคา การมาถึงของระบบชาร์จไร้สายของแอปเปิ้ลแม้จะช้ากว่าคนอื่น แต่ก็ทำออกมาแล้ว ดังนั้นใช้เถอะ

สรุปราคา และวันวางจำหน่าย