category สรุปข้อมูล iPhone X, iPhone 8 และ iPhone 8 Plus จากงาน Apple Special Event 2017

Writer : Sam Ponsan

: 13 กันยายน 2560

i-phone-8-cover

หลังจากเก็งข้อสอบกันมาตั้งนานว่าปีนี้ครบรอบ 10 ปี  iPhone แอปเปิลจะออกโปรดัคใหม่กี่รุ่น ภาพหลุดของ iPhone ที่หลุดออกมานั้นจะตรงตามที่หลุดกันมาไหม บทสรุปในความสงสัยทั้งหมดถูกเฉลยออกมาแล้วในงาน Apple Special Event 2017 ซึ่งงานนี้เปิดตัว iPhone ถึง 3 รุ่นอย่างที่คาดการไว้ รวมไปถึงยังมีเซอร์ไพร้ส์ด้วยการเปิดตัวโปรดัคอื่นๆ อีกด้วย สำหรับรายละเอียดของ iPhone ทั้ง 3 รุ่นนั้นมีอะไรบ้างเราได้สรุปเอาไว้ให้แล้ว 

 

สรุปรายละเอียดของ iPhone ทั้งสามรุ่น 

รายละเอียดของ iPhone ปีนี้แบ่งออกมาเป็นสามรุ่น 3 ได้แก่ iPhone 8,iPhone 8Plus และ iPhone X  ซึ่งตรงกับที่สื่อหลายแห่งได้วิเคราะห์กันไว้ได้ถูกเกือบหมดขอเพียงแค่คืนนี้ทิม คุก แค่มายืนยันเท่านั้นว่า เออ..ที่หลุดไปน่ะจริงนะ และนี่บทสรุปจากงาน  Apple Special Event 2017

summary-i-phone-8-in-apple-special-event-2017-1

iPhone X

  • หน้าจอเป็น Super Retina Display ขนาด 5.8 นิ้ว
  • หน้าจอไร้ขอบ ชิดบนล่างซ้ายขวา
  • ตัวเครื่องกันฝุ่นกันน้ำ
  • ชิพเซ็ตเป็น Apple A11 Bionic CPU 6 Core ประมวลผลเร็วขึ้น 25% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
  • มี GPU แยกออกมาต่างหากเป็นครั้งแรกเพื่อประมวลผลกราฟฟิคสูงๆ
  • กล้องด้านหน้าถ่ายภาพชัดลึกได้ด้วย
  • กล้องหลังเป็นแบบคู่แนวตั้ง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้งสองตัว แต่รูรับแสงแบ่งเป็น F1.8 และ F2.4 มีเซ็นเซอร์ใหม่ที่ใหญ่กว่า และมีระบบกันสั่นที่กล้องทั้งสองตัว และรองรับเทคโนโลยี AR
  • มี Face ID จดจำใบหน้า และสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคหรือยืนยันตัวตน
  • รองรับระบบชาร์จไฟไร้สายมาตรฐาน Qi
  • แบตอึดขึ้น 2 ชั่วโมง เมื่อเทียบ iPhone 7
  • มี 2 สีให้เลือกคือสี Space Gray และ Silver
  • กำหนดขาย พ.ย. 2017

สำหรับรายละเอียดของเทคโนโลยีใหม่ๆ ใน iPhone X แบบชัดๆ ละเอียดๆ นั่นมีดังนี้

ดีไซน์ใหม่ จอใหญ่คมชัดเต็มตา 

summary-i-phone-8-in-apple-special-event-2017-2

summary-i-phone-8-in-apple-special-event-2017-12

iPhone X ถือว่าคุ้มค่ากับการรอคอยในฐานะที่เป็นรุ่นฉลองครบรอบ 10 ปี iPhone โดยมีการดีไซน์ใหม่หมดจรดและตรงกับภาพหลุดทุกอย่าง โดยหน้าจอเป็น Super Retina Display ขนาด 5.8 นิ้ว 2,436 x 1,125 พิกเซล ความละเอียด 458 พิกเซลต่อตารางนิ้ว ใช้เทคโนโลยี OLED แบบใหม่กินพื้นที่ด้านหน้าของ iPhone ทั้งหมด หน้าจอแสดงผลสีแม่นขึ้น จอคมชัดขึ้น ใหญ่เต็มไม้เต็มมือ ฝาหลังเป็นกระจก รองรับการชาร์จแบบไร้สายดูหรูหรา และมีความแพงสมศักดิ์ศรีและคุ้มค่าที่รอคอย

ปลดล็อคโดยใช้ Face ID ลาก่อน Touch ID และปุ่ม Home

summary-i-phone-8-in-apple-special-event-2017-3

iPhone X มีการตัดปุ่ม Home ออกไปแล้วใช้ Face ID ในการปลดล็อคแทนส่วน Touch ID และ ปุ่ม Home ไม่มีแล้ว สำหรับการแสกนใบหน้านั้นโดยใช้เซ็นเซอร์ 4 ตัวในการประมวลผลเพื่อจดจำใบหน้าโดยทำงานร่วมกับเทคโนโลยี TrueDepth Camera System ประมวลความลึก และความชันของพื้นผิวใบหน้าจากนั้นจะใช้ Neural Network  วิเคราะห์และสร้างหน้าขึ้นมาเพื่อปลดล็อกดังนั้นปลอดภัยแน่นอน

apple-special-event-2017-05

หากหน้ามีหนวดขึ้น หรือมีการเปลี่ยนแปลงเช่นล้างเครื่องสำอางออกไป ก็สามารถปลดล็อคได้เพราะระบบประมวลผลมีความฉลาดขึ้น แต่ต้องจ้องหน้าจอเท่านั้นถึงจะปลดล็อคได้ จะเนียนเอารูปถ่ายมาปลดล็อคหรือแอบเอาเครื่องมาสแกนตอนเราหลับเพื่อปลดล็อคไม่ได้ นอกจากนี้ Face ID ยังสามารถใช้ในการเพื่อซื้อของออนไลน์ก็ได้ผ่าน Apple Pay หากไม่ใช้ Face ID ในการปลดล็อคด้วยการเลื่อนจอขึ้นก็ปลดล็อคได้ไม่ว่าจะแสงมืด หรือสว่างก็ปลดล็อคได้ ส่วนด้านข้างมีปุ่มกดเรียก Siri แทนปุ่ม Home

กล้องสุดล้ำที่รองรับเทคโนโลยี AR และ สร้าง Animoji 

summary-i-phone-8-in-apple-special-event-2017-5

ทีเด็ดของ iPhone X คือกล้องหน้าสามารถถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ ซึ่ง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ทำไม่ได้ กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้งสองตัว มีระบบกันสั่นสองจุด ถ่ายในพื้นที่แสงน้อยได้ดีขึ้นเพราะมีเซ็นเซอร์ประมวลผลที่ใหญ่กว่าเดิม แฟลชเป็น LED True Tone 4 ตัว พร้อมใช้ Machine Learning ช่วยในการเลือกโฟกัสที่ดีที่สุด มีฟังก์ชั่นในการปรับสีได้หลายแบบทำให้การถ่ายภาพสวยมากขึ้น คุณภาพดีขึ้น

summary-i-phone-8-in-apple-special-event-2017-10

summary-i-phone-8-in-apple-special-event-2017-11

นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี ARโดยใช้ Gyroscope, Accelerometer และเซนเซอร์ใหม่ๆ เพื่อประมวลผลรองรับการใช้งานได้หลากหลาย เช่นเกม AR หรือแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ที่รองรับการแสดงผลของ AR ส่วนกล้องหน้ามีฟีเจอร์วิเคราะห์การเคลื่อนไหว ของกล้ามเนื้อที่แตกต่างกันกว่า 50 รูปแบบด้วย TrueDepth เพื่อจำลองการแสดงออกทางใบหน้าบน Animoji ที่มีให้เลือก 12 แบบ ที่ขยับได้โดยจับสังเกตจากใบหน้าเรา แถมยังอัดเสียงได้ด้วย เบื้องต้นส่งผ่าน iMessage ได้เท่านั้น แต่อนาคตอาจจะส่งบนโปรแกรมแชทอื่นๆ ได้

summary-i-phone-8-in-apple-special-event-2017-6

Apple A11 Bionic แรงและไว

summary-i-phone-8-in-apple-special-event-2017-7

ชิพเซ็ตที่ใช้เป็น Apple A11 Bionic มี CPU 6 Core มี Performance core สองตัวที่เร็วกว่าเดิมถึง 25% และ efficiency core  4 ตัวที่เร็วกว่าเดิม 70% มีศักยภาพในการประมวลผลที่ดีกว่าเดิม และประหยัดพลังงาน ทำงานแบบมัลติเทรดได้ดีขึ้น 70% ส่วน GPU ที่แยกมาต่างหากนั้นเป็นแบบ 3 Core ประมวลผลกราฟิกเร็วขึ้น 30% และทั้งหมดยังช่วยประมวลผลให้ระบบ machine learning, AR และเกมแบบสามมิติให้ทำงานได้ดีขึ้น

รองรับ Wireless charging 

summary-i-phone-8-in-apple-special-event-2017-8

ระบบชาร์จไร้สายสามารถใช้ได้แล้ว และจะใช้ที่ชาร์จไร้สายยี่ห้อใดก็ได้ที่ได้มาตรฐาน QI  หรือสามารถใช้ Air Power หรือแท่นชาร์จไร้สายของ Apple ได้ ซึ่ง AirPower สามารถชาร์จได้กับอุปกรณ์หลายอย่างของ Apple ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อนว่าบางอย่างก็ชาร์จไร้สายได้ด้วย เช่น AirPod หรือ AppleWatch แต่ Air Power ยังไม่ประกาศราคา การมาถึงของระบบชาร์จไร้สายของแอปเปิ้ลแม้จะช้ากว่าคนอื่น แต่ก็ทำออกมาแล้ว ดังนั้นใช้เถอะ

iPhone 8

summary-i-phone-8-in-apple-special-event-2017-9

  • ขนาดจอเท่าเดิมคือ 4.7 นิ้ว เป็น Retina HD ที่มีเทคโนโลยี True Tone พร้อมปรับหน้าจอให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ
  • ฝาด้านหลังเป็นกระจก
  • ชิพ A11 Bionic พร้อม GPU ที่ออกแบบโดย Apple พร้อมใช้งานกับ machine learning ด้วย Core ML
  • กล้องหลัง ความละเอียด 12 ล้านเท่าเดิม แต่มีเซ็นเซอร์ใหม่และมีกันสั่น ไม่ใช่กล้องเลนส์คู่และยังไม่รองรับ AR แต่กล้องมีความฉลาดขึ้นในการถ่ายภาพในที่แสงน้อย
  • รองรับระบบชาร์จไร้สาย
  • แบตเตอร์รี่ขนาดเท่าเดิม
  • มี 3 สีให้เลือกคือ silver, space gray และ gold finish

สำหรับ iPhone 8 นั้นก็คือ iPhone 7 ตัวเดิมนั่นเอง ซึ่งในส่วนของรูปร่างไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบใหม่ใดๆ ทุกสิ่งทุกอย่างคงอยู่ที่เดิมยกเว้นฝาหลังที่เป็นกระจก ส่วนกล้องก็ยังเป็นลูกเมียน้อยเหมือนเดิมคือไม่รองรับเทคโนโลยี AR  iPhone 8 นั้นยังคงเก็บ Touch ID ไว้อยู่ด้วยไม่ได้ตัดออกไปและไม่ได้มี Face ID ถือเป็น iPhone รุ่นพื้นฐานสำหรับคนเบี้ยน้อยและไม่ได้อยากใช้ฟีเจอร์อลังการมากมายนัก

iPhone 8 Plus

apple-special-event-2017-08

  • ขนาดจอ Retina HD ขนาดเท่าเดิมคือ 5.5 นิ้ว
  • ฝาหลังเป็นกระจก
  • ชิพ A11 Bionic พร้อม GPU ที่ออกแบบโดย Apple พร้อมใช้งานกับ machine learning ด้วย Core ML
  • กล้องหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้งสองตัว แต่รูรับแสดงแบ่งเป็น F1.8 และ F2.8
  • กล้องมีการปรับการแสดงผลด้านความสว่าง สามารถแยกเฉดสีเป็นขั้นๆ ได้ ปรับชนิดของแสงได้หลายแบบ ถ่ายวิดีโอได้คุณภาพสูงที่สุดเท่าที่เคยทำมา
  • รองรับระบบชาร์จไร้สาย
  • แบตเตอร์รี่ขนาดเท่าเดิม
  • มี 3 สีให้เลือกคือ silver, space gray และ gold finish

มากันที่ iPhone 8 นั้นก็คือ iPhone 7 Plus ตัวเดิมอีกเช่นกันไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไรเท่าไหร่ แต่เพิ่มเข้าไปคือเปลี่ยนชิพเซ็ตใหม่เพื่อการประมวลผลที่รวดเร็วกว่าเดิม มีการพัฒนากล้องหน้า กล้องหลังให้ความละเอียดสูงขึ้นกว่าเดิมพร้อมใส่เทคโนโลยี AR เข้ามา โดยใช้ชิป A11 Bionic กับ GPU ในการประมวลผลสามารถซึ่งสามารถเอาไปเล่นเกม หรือทำอะไรได้หลายอย่าง แน่นอน iPhone 8 PLUS ยังคงเก็บ Touch ID ไว้อยู่ด้วยไม่ได้มี Face ID อย่างที่คาดกัน ส่วนการชาร์จไร้สายสามารถใช้แท่นชาร์จอะไรก็ได้ไม่จำกัดยี่ห้อ

สรุปราคา 

summary-i-phone-8-in-apple-special-event-2017-13

  • iPhone X ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์ (ราว 33,000 บาท)  แบ่งเป็นรุ่น 64GB และ 256GB
  • iPhone 8 ราคาเริ่มต้น 699 ดอลล่าร์ (ราว 23,000 บาท) แบ่งเป็นรุ่น 64GB,128GB และ 256GB
  • iPhone 8 Plus ราคาเริ่มต้น 799 ดอลลาร์ (ราว 26,400 บาท) แบ่งเป็นรุ่น 64GB และ 256GB

สรุปวันวางขาย

  • iPhone 8 และ iPhone 8 Plus วางขายวันที่ 27 กันยายน 2017
  • iPhone X วางขาย 3 พฤศจิกายน 2017

 

Writer Profile : Sam Ponsan
นักเขียนหนุ่มสุดเท่ที่ชื่นชอบการขี่มอเตอร์ไซค์เป็นชีวิตจิตใจ ขนาดฝนตกยังยอมขี่รถตากฝนเลยเพราะคิดว่าทำแล้วเท่ งานอดิเรกของเขาคือการไปออกกำลังกายเพราะเชื่อว่าทำแล้วเท่ ปัจจุบันก็ยังชอบทำ Content อะไรเท่ๆ ลงเว็บ Mango Zero ด้วย แหม่...เท่จริงๆ
Blog : Social Media : Facebook, Twitter
View all post

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save