บทความโดย @DewRelease เป็นบทความแรกที่ได้รับเชิญจาก Mango Zero เขียนเกี่ยวกับเรื่องราวฝั่งศิลปินเกาหลี เคยตั้งใจไว้ว่างานเขียนชิ้นแรกจะเป็นแนว Travel Diary พากิน-พาเที่ยว-พาเยี่ยมชมเยาวชนไอดอล เป็นหลัก แต่ปรากฏว่าหัวข้อที่โผล่ขึ้นมาเป็นประเด็นแรกตอนคุยกัน กลับกลายเป็นชื่อ Hashtag ที่ครอง Twitter Timeline ของแฟนๆ ศิลปินเกาหลีในไทยติดต่อกันมาหลายสัปดาห์อย่าง #PRODUCE101 (แถมหลายครั้งขึ้นอันดับ 1 Thailand Trends อีกด้วย) หลายคนพอรู้ตัวอีกที จากไม่เคยดูก็รับอุปการะผู้เข้าแข่งขันในรายการนี้ไปแล้วหลายคน ในขณะที่คนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ก็พลอยได้ยินชื่อเสียงของรายการไปด้วย เลยมีคำถามมาบ่อยๆว่า อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ #PRODUCE101 เป็นที่สนใจได้มากขนาดนี้ เลยทำให้งานเขียนชิ้นแรกกับ Mango Zero กลายเป็น การจดบันทึกเพื่อรวบรวม “11 ปรากฏการณ์” ที่คิดว่าน่าสนใจสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยรู้จักรายการนี้มาก่อน ก่อนที่จะไปร่วมลุ้นผลรอบชิงชนะเลิศ (อารมณ์คล้ายๆแมทช์ชิงแชมป์ของฟุตบอล) ของ 11 ผู้เล่นตัวจริง ที่จะกลายเป็น “บอยแบนด์แห่งชาติ” พร้อมกันในคืนนี้ 21.00 น. ตามเวลาไทย (และเช่นเคย มั่นใจว่าคงจะขึ้นอันดับ 1 บน Twitter Thailand Trends อีกครั้ง) 1. #PRODUCE101 คืออะไร ? #PRODUCE101 เป็นรายการกลุ่ม Survival Program จำนวน 11 ตอน ผลิตโดยสถานีโทรทัศน์ Mnet ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 23.00 น. ตามเวลาเกาหลีใต้ จุดมุ่งหมายของรายการ คือ การสร้างกลุ่มศิลปินไอดอลที่มีสมาชิกจำนวน 11 คน ที่ผู้ชมจะเป็นผู้ตัดสินผ่านการโหวต โดยเลือกจากผู้เข้าแข่งขันซึ่งเป็นเด็กฝึกหัด (Trainee) อิสระและเด็กฝึกหัดจากค่ายเพลงต่างๆทั้งหมด 101 คน รายการที่กำลังออกอากาศอยู่เวลานี้เป็นส่วนหนึ่งของซีซั่นที่ 2 ซึ่งเป็นการค้นหา “บอยแบนด์” ในขณะที่ซีซั่นแรกเป็นการค้นหาเกิร์ลกรุ๊ป โดยหลังจากเด็กฝึกหัดผู้ชนะในซีซั่นแรกได้เดบิวต์ (Debut = เปิดตัวต่อสาธารณะในฐานะศิลปิน ไม่ใช่เด็กฝึกหัดอีกต่อไป) เป็นศิลปินภายใต้ชื่อ “I.O.I” (ไอโอไอ) ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้ซีซั่นนี้เป็นที่จับตามองตั้งแต่เริ่มต้นการแข่งขัน วิธีการโหวต จะโหวตผ่านช่องทางออนไลน์ที่กำหนด โดยในซีซั่นนี้จำกัดให้มีเพียงแค่แฟนรายการที่เกาหลีเท่านั้นที่มีสิทธิ์โหวต (ในซีซั่นที่ 1 เปิดให้แฟนๆจากประเทศอื่นร่วมโหวตได้ด้วย) นอกเหนือจากคะแนนโหวตจากผู้ชมทางบ้านแล้ว ยังมีคะแนนพิเศษ (Benefit) สำหรับผู้ชนะในการ “ประเมินผล” โจทย์ในแต่ละรอบ ซึ่งผู้ชมในห้องส่งที่เข้าร่วมอัดรายการ จะเป็นผู้ลงคะแนนตัดสิน ในรอบสุดท้ายคืนนี้ จะมีการเพิ่ม Live Vote ในระหว่างการออกอากาศด้วย ความน่าสนใจของซีซั่นนี้ อยู่ที่ “ความไม่แน่นอน” ของผลผู้ชนะ 11 คนสุดท้าย (ต่างจากซีซั่นที่ 1 ที่มีคะแนนค่อนข้างทิ้งห่าง ทำให้คาดเดาบางอันดับได้บ้าง) โดยเด็กฝึกหัดที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในคืนนี้ ล้วนแล้วแต่มีอันดับผลโหวตที่เปลี่ยนแปลงมาตลอดทุกสัปดาห์ ทำให้ความสนใจของผู้ชมเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ที่ถูกพูดถึงอยู่เต็ม Timeline เรียกว่าไม่รู้จัก ก็ยังปฏิเสธไม่ได้ว่าโผล่มาเรื่อยๆ จนต้องแอบถามสักหน่อยว่ามันคือรายการอะไร 2. ผู้ชมทุกคน คือ “โปรดิวเซอร์แห่งชาติ” (National Producer) เสน่ห์ของรายการ Survival ที่ใช้การโหวตจากผู้ชม 100% เพื่อตัดสินผู้ชนะ ทำให้เกิดลูกเล่นในการโปรโมตมากมายด้วยการใช้คำว่า “แห่งชาติ” เป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่าผู้ชนะจากรายการนี้มาจากการคัดเลือกของผู้ชมอย่างแท้จริง โดยผู้ชมจะทำหน้าที่ตัดสินใจในทุกเรื่องเหมือนเป็นโปรดิวเซอร์ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปั้น “บอยแบนด์/เกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติ” ที่จะเดบิวต์ในแต่ละซีซั่น เหล่าโปรดิวเซอร์แห่งชาติจะเลือกเด็กฝึกหัดที่ชื่นชอบและเอาใจช่วย จากโจทย์ของรายการซึ่งเป็นการประเมินผลความก้าวหน้าของเด็กฝึกหัดแต่ละคนจำนวน 6 รอบ ล้วนแล้วแต่เป็นโจทย์ที่จำลองจากขั้นตอนการสร้าง “ไอดอล” ในวงการบันเทิงจริงๆ ได้แก่ 1) การประเมินผลรอบ Audition/Company : ประเมินทักษะรายบุคคลจากการแสดงแรกที่เด็กฝึกหัดเตรียมมา โดยผู้ประเมินคือทีมเทรนเนอร์ เพื่อระบุเกรดระดับ A-F ก่อนที่เด็กฝึกหัดทั้ง 101 คนจะเก็บกระเป๋าเข้าสู่ศูนย์ฝึกของรายการ เพื่อเรียนร้อง เต้น แรป ตามเกรดที่ได้ สำหรับการขึ้นแสดงโจทย์รอบถัดไป นั่นคือการแสดง “เพลงประจำรายการ” 2) การประเมินผลรอบ Level : ประเมินทักษะรายบุคคลจากการฝึกซ้อม “เพลงประจำรายการ” เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการจากรอบแรก และตัดสินเกรด A-F อีกครั้งโดยทีมเทรนเนอร์ ก่อนขึ้นแสดงจริงตามเกรดใหม่ที่ได้ 3) การประเมินผลรอบ Group Battle : ประเมินจากการขึ้นแสดง “เพลงของศิลปินบอยแบนด์รุ่นพี่” เพื่อดูทักษะในการทำงานเป็นทีม (คัดออกครั้งที่ 1 : จากเด็กฝึกหัด 101 คน เหลือ 60 คน) 4) การประเมินผลรอบ Position : ประเมินทักษะในตำแหน่งที่ตัวเองถนัด ได้แก่ Rap / Dance / Vocal 5) การประเมินผลรอบ Concept : ประเมินจากการขึ้นแสดง “เพลงที่ถูกแต่งขึ้นใหม่โดยเฉพาะจากโปรดิวเซอร์มืออาชีพ ในคอนเซปท์ที่แตกต่างกัน” โดยเพลงทั้งหมดจะวางจำหน่ายจริงด้วยหลังจบการแสดง (คัดออกครั้งที่ 2 ระหว่างซ้อมการแสดง : จากเด็กฝึกหัด 60 คน เหลือ 35 คน , คัดออกครั้งที่ 3 หลังจบการแสดง : จากเด็กฝึกหัด 35 คน เหลือ 20 คนสุดท้าย)* (ในซีซั่นที่ 1 เหลือ 22 คน) 6) การประเมินผลรอบ Debut : ประเมินผลรอบสุดท้ายด้วย “เพลงจากโปรดิวเซอร์มืออาชีพในฐานะทีม Debut” ขึ้นแสดงสดเป็นครั้งแรกต่อหน้าโปรดิวเซอร์แห่งชาติ ในรายการรอบชิงชนะเลิศเพื่อเลือกผู้ชนะ 11 คน ( * หมายเหตุ : ขอขอบคุณคุณ MAZIGNIIZ ที่ช่วยทักท้วงและแก้ไขข้อมูลอย่างยิ่งค่ะ) ไม่เพียงแค่การโหวตเพื่อรักษาเด็กฝึกหัดที่ชื่นชอบเอาไว้เท่านั้น โปรดิวเซอร์แห่งชาติยังสามารถทำหน้าที่ตั้งชื่อวงที่จะเดบิวต์หลังได้ผู้ชนะในรอบสุดท้าย เลือกโจทย์เพลงที่คิดว่าเหมาะกับเด็กฝึกหัดแต่ละคนในรอบ Concept หรือแม้แต่เลือกโหวตเพื่อมอบการสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ เช่น มอบเสื้อผ้า ตุ๊กตา ไปจนถึง Food Truck ซึ่งเป็นรถอาหารที่ทำขึ้นเพื่อสนับสนุนในโอกาสพิเศษโดยเฉพาะ เป็นต้น เรียกว่าจากที่เคยต้องรอลุ้นว่าศิลปินที่ชื่นชอบจะมีผลงานออกมาถูกใจหรือไม่ ใน #PRODUCE101 ได้ให้สิทธิ์นี้กับผู้ชมเป็นผู้ตัดสินเอง ยิ่งเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผู้ชมอินกับทั้งรายการและเด็กฝึกหัดมากขึ้นเรื่อยๆ นำไปสู่การสนับสนุนเมื่อสิ้นสุดรายการนั่นเอง นอกเหนือจากผู้ชมแล้ว ในรายการจะมีทีมเทรนเนอร์ซึ่งเป็นคนบันเทิงมากฝีมือ ทำหน้าทีเป็นครูสอนร้องเพลง เต้น แรป ให้กับเด็กฝึกหัดตลอดรายการ โดยจะมีผู้ที่จะเป็นตัวแทนในการดำเนินรายการซึ่งถูกเรียกว่า “ตัวแทนโปรดิวเซอร์แห่งชาติ” ทำหน้าที่ทั้งดูแลเด็กฝึกหัดในภาพรวม และเป็น MC ของรายการด้วย ในซีซั่นนี้ได้ “BoA” มารับหน้าที่นี้ (ในซีซั่นแรกทำหน้าที่โดย “จางกึนซอก”) ภาพจำของรายการ คือ การจัดเก้าอี้รูปปิระมิดจำนวน 101 ตัว ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆจนถึง 11 ลำดับแรกที่เป็นเก้าอี้คล้ายบัลลังก์ โดยมี “เซ็นเตอร์ (Center)” คือ ผู้ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจากผู้ชมในแต่ละรอบ เป็นผู้นั่งบนบัลลังก์อันดับ 1 จนกว่าจะได้ผู้ชนะที่แท้จริงในรอบสุดท้ายเพื่อเดบิวต์เป็นศิลปิน ซึ่งทุกรอบหลังจบการประกาศผล เด็กฝึกหัดที่ผ่านการคัดเลือกในแต่ละรอบจะโค้งคำนับโปรดิวเซอร์แห่งชาติเพื่อขอบคุณ และเป็นซีนสุดท้ายก่อนจบรายการในตอนนั้นๆ 3. รู้จักแล้ว ต้องร้องได้ : เพลงประจำรายการ #PRODUCE101 และความสำคัญของ “Center” ! สิ่งที่มาคู่กับรายการ #PRODUCE101 ในทุกซีซั่น คือ “เพลงประจำรายการ” ที่ถูกแต่งขึ้นใหม่ สำหรับใช้ในการโปรโมตตลอดการออกอากาศ และเป็นโจทย์แรกของเด็กฝึกหัดทั้ง 101 คน ทันทีที่เริ่มรายการ “เซ็นเตอร์ (Center)” คือ เด็กฝึกหัดที่อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดของการแสดง (เช่น ยืนอยู่ตรงกลาง, ได้รับพาร์ทการแสดงที่โดดเด่นที่สุดในเพลง, เป็นตัวแทนในการพูด, ฯลฯ) ในรายการจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเป็นเซ็นเตอร์อย่างมาก เพราะจะเป็นโอกาสของเด็กฝึกหัดในการได้รับความสนใจจากผู้ชม ผู้ที่ได้รับการโหวตสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 จากการคัดเลือกของโปรดิวเซอร์แห่งชาติในรอบชิงชนะเลิศ จะครองตำแหน่งเซ็นเตอร์ของวง เมื่อเดบิวต์เป็นศิลปินแล้ว “Music Video เพลงประจำรายการ” ที่จริงแล้วเป็นการบันทึกภาพการแสดงจากเวที MCountdown (ซึ่งเป็นรายการเพลงประจำสัปดาห์ในช่อง Mnet) โดยเด็กฝึกหัดทั้ง 101 คน ตำแหน่งการยืนของเด็กฝึกหัดทั้ง 101 คนในเพลงนี้ จะเป็นไปตามผลการประเมินทักษะรายบุคคลในรอบ Level (รอบที่ 2 ของการแข่งขัน) ตำแหน่งของเด็กฝึกหัดกลุ่มที่ได้ยืนตรงกลางจะเป็นเด็กที่ได้รับการประเมินในระดับ A ประกบด้วยระดับ B-C ข้างซ้ายและขวา โดยระดับ D จะอยู่ด้านหลัง และเด็กฝึกหัดที่ได้รับการประเมินในระดับ F จะแสดงอยู่ที่พื้น ไม่ได้ขึ้นบนเวที ซึ่งแอร์ไทม์ในการบันทึกภาพการแสดงจะลดหลั่นไปตามเกรดด้วยเช่นกัน ผู้ที่เป็น “เซ็นเตอร์คนแรก” ของเพลงประจำรายการ คัดเลือกด้วยการลงคะแนนของเพื่อนเด็กฝึกหัดด้วยกันจำนวน 101 คน ซึ่งผู้มีสิทธิ์เข้าชิงตำแหน่งนี้คือเด็กฝึกหัดระดับ A เท่านั้น ในซีซั่นแรก เพลงประจำรายการอย่าง “Pick Me” มียอดผู้เข้าชมมากกว่า 10 ล้านวิวในปัจจุบัน ถือเป็น 1 เพลงที่ได้รับความนิยมอย่างมากบนชาร์ตเพลง มีคนนำไป cover ในรูปแบบต่างๆเป็นจำนวนมาก ในซีซั่นที่ 2 เพลง “นายานา” (Pick Me Ver.2) ปัจจุบันมีผู้เข้าชมแล้วกว่า 6 ล้านครั้ง ภายในเวลาเพียงแค่ 3 เดือนของการออกอากาศ แสดงถึงเสียงตอบรับที่น่าจับตามองอย่างมาก 4. ความนิยมของ #PRODUCE101 และเหล่าเด็กฝึกหัดในเกาหลีใต้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งเป็นการออกอากาศตอนที่ 10 ของการแข่งขัน รายการ #PRODUCE101 สามารถสร้างเรตติ้งสูงสุดตั้งแต่ออกอากาศตลอดซีซั่น และครองอันดับ 1 รายการที่มีเรตติ้งสูงสุดใน Slot เวลาเดียวกัน ด้วยตัวเลขที่นับว่าสูงมากสำหรับรายการในช่วงดึกอย่าง 23.00 น. (AGB Nielsen Korea) และมีกราฟเรตติ้งที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกตอนที่ออกอากาศ นอกจากเรตติ้งแล้ว การวัดผลในมุม Contents Power Index (CPI) ที่จะแสดงถึงอิทธิพลและความนิยมของตัวรายการโทรทัศน์ที่มีต่อผู้ชม ล่าสุดรายการ #PRODUCE101 สามารถครองอันดับ 1 ติดต่อกันถึง 9 สัปดาห์ โดยทั้งหมดยังไม่รวมถึงการถูกพูดถึงโดยคนบันเทิง สำนักข่าวทั้งบนหน้าจอและออนไลน์ ไปจนถึงการขึ้นอันดับ Top Real Time Search ที่มากขึ้น บ่อยขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน เพลงในการประเมินผลรอบ Concept ของเด็กฝึกหัด หลังวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หลายเพลงได้ขึ้นครองท็อปชาร์ตเพลงออนไลน์ของเกาหลีใต้ท่ามกลางผลงานของศิลปินชั้นนำในเวลานี้ (ที่ถือเป็นศิลปินซึ่งทำผลงานบนดิจิตอลชาร์ตได้ดีมากๆทั้งหมด) นับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ และแสดงถึงความนิยมของรายการ #PRODUCE101 และตัวเด็กฝึกหัดเองได้อย่างมาก 5. “หัวคะแนนในคืนนี้ คือฉันเอง” – ปรากฏการณ์ Fan Support ที่คาดไม่ถึง ท่อนหนึ่งของเพลงนายานา ที่ร้องว่า “ตัวเอกในคืนนี้ คือผมเอง” มักเป็นท่อนที่แฟนๆหยิบมาร้อง หยิบมาแซวกันบ่อยๆ แต่ดูเหมือนตอนนี้ตัวเอกจะเปลี่ยนจากเด็กฝึกหัดมาเป็นแฟนๆเสียแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นข้อดีหรือข้อเสียของการที่แฟนๆจากต่างประเทศไม่สามารถร่วมโหวตได้ ไปจนถึงผลการคัดออกในแต่ละรอบที่คาดเดาแทบไม่ได้ ทำให้การจะรักษาเด็กฝึกหัดที่เราชื่นชอบให้ยังอยู่ในรายการต่อไปนั้น อาจจะต้องลงทุนออกแรงกันสักหน่อย เพื่อให้เด็กๆเป็นที่รู้จักขึ้นมา เผื่อจะมีผู้ชมในวงกว้างช่วยกันลงคะแนนให้ สิ่งที่สร้างความตื่นตะลึงพอสมควรในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ การที่แฟนๆของเด็กฝึกหัดจำนวนมาก ช่วยกันวางแผนซื้อสื่อในรูปแบบต่างๆในเกาหลีใต้ เพื่อใช้เป็นพื้นที่โปรโมตเด็กฝึกหัดที่ชื่นชอบให้เป็นที่รู้จัก ถ้าใครเดินทางไปที่เกาหลีใต้ช่วงที่ผ่านมา จะเห็นว่า #PRODUCE101 ครองพื้นที่สื่อกลุ่ม Transit Ads จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ป้ายโฆษณาตามป้ายรถเมล์, ป้ายในรถไฟใต้ดิน สำหรับสถานีที่มีผู้ใช้บริการมาก, ป้าย Digital Billboard ตามตึกสูงใจกลางเมือง, การ wrap รถบัสทั้งคันเพื่อให้วิ่งในเส้นทางที่มีผู้โดยสารมากหรือเส้นทางที่กำหนดเฉพาะ ตลอดจนการซื้อสื่อบนปลอกหุ้มแก้วกาแฟ, การซื้อพื้นที่โฆษณาแบบวิดีโอบนอุปกรณ์รอคิวตามร้านอาหารและคาเฟ่ ด้วยอาร์ตเวิร์คโปรโมตที่แฟนๆเป็นคนออกแบบ ติดต่อซื้อโฆษณา รวมถึงตรวจสอบชิ้นงานหลังขึ้นโฆษณาแล้วด้วยตัวเอง ผ่านการโดเนท (Donate) หรือการบริจาคโดยแฟนๆที่ชื่นชอบเด็กฝึกหัดคนเดียวกันทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ ช่วยกันลงขันงบประมาณเพื่อสร้าง Media Campaign นี้ขึ้น นอกจากจะมีข้อความให้กำลังใจและแนะนำตัวเด็กฝึกหัดแล้ว หลายป้ายยังมี QR Code ให้เข้าสู่ช่องทางการโหวตออนไลน์เพื่อลงคะแนนให้เด็กฝึกหัดคนนั้นๆได้ทันทีอีกด้วย เรียกว่านักการตลาดหรือ Media Planner เองอาจมีอายได้ 😀 เมื่อเหล่าเด็กฝึกหัดและต้นสังกัดทราบเรื่อง ก็มีการตระเวนเยี่ยมและถ่ายรูปกับป้ายโฆษณาที่แฟนๆทำขึ้น ไปจนถึงฝากข้อความขอบคุณ กลายเป็นพื้นที่คล้าย Fan Meeting ขนาดย่อมขึ้นมา จนได้รับการหยอกว่าคล้ายเป็นแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งระดับประเทศที่มีแฟนๆเป็นเหมือนหัวคะแนน และควรบรรจุเป็นกรณีศึกษาทางการตลาดให้กับค่ายเพลงต่อไป 6. ตอกย้ำความนิยมสูงสุด ด้วยการจัดทำโพลเพื่อคาดการณ์ 11 คนสุดท้ายจากหลายสำนัก ความนิยมของ #PRODUCE101 ทำให้มีหลายสำนักจัดทำโพลขึ้นมาเพื่อดูว่าใครที่น่าจะเป็น 11 คนสุดท้ายในซีซั่นนี้ ซึ่งมีแฟนๆเข้าร่วมโหวตเป็นจำนวนมากทั้งในเกาหลีเองและต่างประเทศ รวมถึงมีความเห็นจากคนในอุตสาหกรรมบันเทิงช่วยกันลงคะแนนคัดเลือกด้วยเช่นกัน เป็นภาพที่ไม่ได้เห็นได้ง่ายๆ เรียกว่ารายการนี้กลายเป็น วาระ(โปรดิวเซอร์)แห่งชาติ จริงๆ soompi Pantip (กระทู้โหวตจากแฟนรายการ) ผลการโหวตจาก Music Industry Insider 7. เราจะได้เห็นอะไรบ้างในการแข่งขันรอบสุดท้ายคืนนี้ คืนนี้เวลา 21.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย จะเป็นการแสดงโชว์สำหรับการประเมินผลครั้งสุดท้ายของเด็กฝึกหัดที่ผ่านเข้ารอบ Debut จำนวน 20 คน เพื่อให้โปรดิวเซอร์แห่งชาติได้ทำการโหวตสดในรายการ ในขณะที่ผลการโหวตออนไลน์นั้นได้สิ้นสุดลงแล้วเรียบร้อยก่อนรายการเริ่ม ในคืนนี้จะมีทั้งโชว์พิเศษและแขกรับเชิญพิเศษจำนวนมากที่เตรียมปรากฏตัวในรอบชิงชนะเลิศ ทั้งเด็กฝึกหัดที่ออกจากการแข่งขันไปแล้ว ข่าวลือว่าจะมีการแสดงเพลงใหม่ที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหน ไปจนถึงผู้ชนะจากซีซั่นแรกอย่างสาวๆ I.O.I และผู้บริหารตัวแทนจากต้นสังกัดค่ายของเด็กฝึกหัด ซึ่งในซีซั่นแรกมักมีดารานักแสดงชื่อดัง เข้ามาร่วมให้กำลังใจเด็กฝึกหัดในรอบสุดท้ายนี้ด้วยเช่นกัน ที่จริงทาง Mnet ได้เปิด Global On-Air เพื่อให้แฟนๆจากต่างประเทศสามารถรับชมได้ทางออนไลน์แบบ Official แต่น่าเสียดายที่ประเทศไทยอยู่ในพื้นที่ที่ติดเรื่อง Geo-Block ทำให้ไม่สามารถรับชมลิงค์นี้ได้ ใครที่อยากดู คืนนี้ลองคลิกเข้าไปใน Twitter Hashtag #PRODUCE101 และ #PRODUCE101FINAL เพื่อดูว่าแฟนๆรับชมผ่านทางไหน แล้วเข้าไปร่วมลุ้นผล 11 คนสุดท้ายพร้อมกันได้ สำหรับข้อ 8-11 ที่เหลือนั้น รอได้ผลจากการคัดเลือกโดยเหล่าโปรดิวเซอร์แห่งชาติในคืนนี้แล้ว เราน่าจะได้เห็นอีกหลายปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ (และเผลอๆจะมากกว่า 4 ข้อซะด้วย) ตอนนี้ใครมีเด็กฝึกหัดในใจที่อยากจะเชียร์ ก็สามารถฝากร้าน เอ้ย ฝากเด็กๆ กันเข้ามาได้เลยนะคะ อ่านข้อมูลเพิ่มเติม “Produce 101 Season 2” Achieves Highest Ratings Of Its Season During Latest Episode “Produce 101 Season 2” Tops Contents Power Index Rankings For 9th Consecutive Week