Mango Zero

เปิดมุมมอง 2 วัยรุ่น จาก “Uni-VOOV-City” สู่การไลฟ์เปลี่ยนชีวิต

สวัสดีชาวโซเชี่ยล วันนี้ไม่มีอะไรมาก คริๆๆ ประโยคเหล่านี้คงจะได้ยินบ่อยในโลกโซเชี่ยล โดยเฉพาะการไลฟ์ผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ จนล่าสุดไม่ว่าใครก็ยกมือถือขึ้นมาไลฟ์กันพึ่บพั่บ!! จะมีคนติดตามหรือเข้าดูมากน้อยแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่ว่าเจ้าตัวจะงัดกลยุทธ์ เรื่องราว ความสามารถอะไรมาโชว์กันหน่ะสิ 

หญิงเกศได้มีโอกาสคุยกับน้องตั้มและน้องต๊อป หนุ่ม-สาว ที่ชนะการประกวด “UNI VOOV CITY”  ซึ่งเป็นโปรเจ็คใหม่ของแอปพลิเคชั่น VOOV แอปพลิเคชั่นไลฟ์สตรีมมิ่ง พร้อมกับเปิดมุมมองใหม่ๆ ที่ทำให้เราทึ่งกับคำตอบของพวกเขา จนได้รู้ว่าแท้จริงแล้วการไลฟ์นั้นสามารถเปลี่ยนชีวิตได้ *o*

ทำความรู้จักกันก่อน

ตั้ม ณัฐดนัย เกียรติการุณ หนุ่มน้อยวัย 20 ปี จากรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  คณะรัฐศาสตร์การระหว่างประเทศ

ต๊อป นาราพร วงษ์ผง สาวน้อยวัย 20 ปีจากรั้วมหาวิทยาลัยบูรพา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

ส่วนใหญ่ไลฟ์เรื่อง?

ตั้ม : ตั้มได้ภาษาจีนด้วยครับ เพราะว่าตอนม.ปลายเรียนจบที่ประเทศจีนมา เลยกลับมาเรียนที่มหาวิทยาลัยที่ประเทศไทย พอตอนไลฟ์เลยสร้างคอนเทนต์ด้วยภาษาจีน เพราะมันเป็นเอกลักษณ์ของเรา ต้องหาอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่น จากการพูดภาษาจีนได้เลยต้องเอาจากตรงนี้มาสร้างคอนเทนต์ เช่น สอนภาษาจีน แนะนำวัฒนธรรมภาษาจีน

ต๊อป : เอาเพลงที่เราชอบมาร้องให้เขาฟัง หรือเอาเพื่อนมาร่วมร้องด้วยมาร้องแบบสดๆเลย ก็จะมีแต่งหน้าบ้าง หรือว่าไปกินหมูกระทะ ฮ่าๆๆๆ

ผู้ใหญ่บ้างคนมองว่าไลฟ์เป็นเรื่องไร้สาระ?

ต๊อป : เอาคนใกล้ตัวก่อนหล่ะกัน ผู้ใหญ่ก็คือพ่อกับแม่ต๊อปค่ะ ตอนแรกเขาก็มองว่าไลฟ์หรอมันอาจจะเป็นลบหรือเปล่า ตอนแรกเราก็ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่พอดูแพลตฟอร์มที่ร่างเอาไว้มันก็น่าสนใจและมันโอเค พอทำให้เขาเห็นว่ามันเป็นอะไรที่สร้างสรรค์ พ่อกับแม่เลยรู้สึกว่าการไลฟ์อันนี้มันก็ดีเหมือนกันนะ เขาก็เลยไม่ได้มองว่าเป็นลบหรือไม่ดีอีกต่อไป

ตั้ม : เราเข้าใจเลยว่าเหมือนเป็นอีกคอนเทนต์หนึ่ง มันเป็นอีกสื่อหนึ่งที่สามารถสร้างคอนเทนต์ได้ให้คนเสพคอนเทนต์นะครับ เพราะทางทีวีก็จะเป็นโชว์ของเขา แต่การไลฟ์มันจะมีองค์ประกอบบางอย่าง ที่ผมคิดว่ามันมีความจริงมากกว่า เพราะมันเรียลไทม์ มันจริงมากกว่า เพราะฉะนั้น ผมอยากบอกทุกคนว่าการไลฟ์มันเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เราสามารถโชว์ความสามารถได้

ไลฟ์มี ข้อดี/ข้อเสีย?

ต๊อป : ข้อดีเลยมันสามารถสื่อสารกันได้ง่ายแล้วอีกอย่าง VOOV ค่อนข้างเป็นแอปพลิเคชั่นที่สแกนคนที่ไม่หยาบคาย เป็นคนสุภาพ จะไม่มีคนที่มาบอกว่า น้องครับทำอย่างนี้หน่อยหรือมาว่าเราอะไรอย่างนี้ มันเป็นการสแกนคนที่เข้ามาดูเราด้วย ข้อดีอีกอย่างคือ เรามีคนติดตามเพิ่มขึ้น ทำให้เราเป็นที่รู้จักในโซเชี่ยล

ตั้ม : เพราะการไลฟ์มันเรียลไทม์ เราคุยไปก็มีคนตอบกลับมา คือตรงนี้มันเป็นกำลังใจให้ผมตลอดครับ

ต๊อป : ส่วนข้อเสียมันก็มีค่ะ ก็ยังมีคนที่ติดกัลไลฟ์อื่นๆ ที่เขารู้สึกว่ามันต้องเป็นลบแบบนี้นะ แต่พอเขามาเจอเราเขาก็แบบว่าทำอย่างนี้สิ อะไรแบบนี้ มันก็เป็นด้านลบเหมือนกัน

ไลฟ์เปลี่ยนชีวิต?

ต๊อป : ยิ่งเราได้มาไลฟ์อย่างนี้ มันเหมือนกับต่อยอดตัวเองให้มีศักยภาพในการฝึกพูดทางโซเชี่ยลมากขึ้น มันฝึกได้โดยที่เราไม่ต้องยืนถือไมค์อยู่บนเวทีหรือว่าไปข้างนอกสถานที่ บางครั้งเมื่อไลฟ์เราจะได้ค่าขนมกลับมาเป็นของรางวัล

ตั้ม : ทำให้ชีวิตเปลี่ยนขึ้นมาก จากเมื่อก่อนไม่ชอบเล่นโซเชี่ยล พอได้มาลองใช้มันทำให้เราได้เรียนรู้อะไรเยอะขึ้น ซึ่งการที่เราใช้โซเชี่ยลมีเดีย ถือเป็นช่องทางที่ดีที่สามารถทำให้โลกมันเล็กขึ้น เราสามารถติดต่อคนทั้งโลกได้เลยครับ

มาเปิดมุมมองผ่านทางคลิปได้จ้า

หากลองใช้จุดเด่นที่มีอยู่มาพัฒนาต่อยอด เพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ชีวิต พวกเขาจะกลายเป็นเด็กวัยรุ่นที่หลายคนมองว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียว หลังจากนี้เราคงจะได้เห็นเด็กรุ่นใหม่ออกมาโชว์ความสามารถกันมากขึ้นผ่านโลกออนไลน์ ^^