Black Dolls กลุ่มเด็กสาวแห่งรัตติกาล ผู้ไม่ยอมแพ้แม้ในวันมืดมิดที่สุด เพราะความสุขและแรงบันดาลใจ ไม่ได้มีได้เฉพาะตอนกลางวัน กลุ่มเด็กสาวผู้มีฝัน หลงใหลในการร้องเต้นและการเป็นไอดอล จึงรวมตัวกันในเวลาที่อาทิตย์คล้อยแสงเพื่อแสดงเสน่ห์ของกลางคืน ในนาม Black Dolls “คอนเซปต์ของวงเราคือ โลกรัตติกาล” น้ำตาล กัปตันวงให้เหตุผลว่าทำไมต้องกลางคืน “เพราะกลางคืนจะมีแสงจากดาว จากดวงจันทร์ มีความสวยงาม ไม่ได้มีแต่ความน่ากลัว หรือความลึกลับ เราเลยหยิบยกเอาเวลากลางคืนมานำเสนอในรูปแบบไอดอล” จากการออดิชั่นในโครงการ Skirt Idol เพื่อคัดเลือกเด็กที่มีแววและมีความตั้งใจจริง จนได้เด็กสาวมากลุ่มหนึ่ง ผ่านการฝึกซ้อมเช้าจรดเย็นในทักษะที่รอบด้าน ไม่ใช่แค่ร้องเต้น “ของเราจะเน้นไปที่ระเบียบวินัย ใช้ตรงนี้เป็นจุดแข็งของวง รวมถึงฝึกสกิลไอดอลด้วย” ปัจจุบัน Black Dolls มีซิงเกิลแล้ว 1 เพลงชื่อ ‘Never Going Down’ ซึ่งเป็นเนื้อเพลงภาษาอังกฤษ บนดนตรีอิเล็กทรอนิกส์จังหวะดุดัน “เพลงจะเน้นที่ความแข็งแรง เป็นผู้หญิงเท่ๆ แนวเพลงนี้เรียกว่า Trap Electronic Danceโดดเด่นที่ Rhythm & Bass ซึ่งเป็นแนวที่วงไอดอลในไทยไม่มี” พิวา หนึ่งในเมมเบอร์อธิบาย ทำไมต้องเป็นเนื้อเพลงภาษาอังกฤษ พิวาอธิบายต่อ “เพราะว่าซิงเกิลแรก พวกเราต้องการปล่อยออกมาแล้วสื่อสารกับคนประเทศอื่นๆ ได้ด้วย และภาษาอังกฤษก็เป็นภาษาที่เราไม่ถนัด มันเลยท้าทาย” ยิ่งท้าทายใหญ่เมื่อในขั้นตอนการบันทึกเสียง เมมเบอร์ต้องทำงานกับโปรดิวเซอร์จากเกาหลีใต้ อันอุงเบ (ALL NAKED TEAM) ผู้ควบคุมการผลิตในกระบวนการนี้ “ตอนแรกก็เกร็งๆ กลัวจะสื่อสารกับเขาไม่รู้เรื่อง แต่เขาเป็นคนใจดี น่ารัก ทำงานแล้วก็อุ่นใจ ตอนแรกคิดว่าไปอัดเสียงกับเขาต้องยากแน่ ต้องพูดภาษาอังกฤษแบบสเนคๆ ฟิชๆ หรือเปล่า แต่เขาก็พยายามสื่อสารให้เราเข้าใจ บอกหนูว่า Mo,I Want your confidence more (หัวเราะ)” โมน่า รองกัปตันวง ย้อนอดีต แต่ที่สงสัยคือ ทำไมยูนิฟอร์มถึงดูไม่ดุดันเหมือนตัวเพลง คอนเซปต์ชุดคืออะไร แล้วใส่กระโปรงอย่างนี้จะเต้นได้เหรอ “ชุดเราได้มาจาก Addams Family เป็นกระโปรงยาวๆ ปิดเข่า แต่พอรับท่าเต้นมา มันไม่เหมาะกับชุดแบบนั้น เราเลยทำให้กระโปรงมันสั้นลง จนได้เป็นแบบที่เต้นได้ค่ะ” น้ำตาลคลายความสงสัย เพลงปล่อยลงชาแนลยูทูบเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก่อนวงจะพามันไปแสดงต่อหน้าแฟนคลับเป็นครั้งแรกในงาน Idol Expo#2 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ซึ่งเป็นเดบิวต์สเตจของพวกเธอ “ครั้งแรกก็ตื่นเต้น กลางคืนก่อนหน้านั้นนี่แทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ” โมน่าเล่า แต่เพราะได้แสดงในตอนที่ฟ้ามืดแล้ว ซึ่งแน่นอน..รัตติกาลคือเวลาของพวกเธอ โชว์เดบิวต์ของ Black Dolls จึงออกมาดีสมการรอคอยของแฟนคลับ “ตอน Interlude แฟนๆ ตะโกน Black Dolls ซ้ำๆ ดังมาก เราก็แอบยิ้มกันอยู่หลังเวที” นอกจากการโชว์ วงยังมีกิจกรรมเพื่อใกล้ชิดแฟนคลับ และมีสินค้าจำหน่ายหลายอย่าง อาทิ Trading Card หรือกิจกรรมงาน First Party เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นงานมีตติ้งครั้งแรก เพื่อขอบคุณและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเมมเบอร์กับแฟนคลับที่สนับสนุนวงมาตลอด ในงานก็มีจะการถ่ายรูปเชกิ จับมือ ไปจนถึงเล่นเกมและร้องเพลงร่วมกันของแฟนคลับกับเมมเบอร์ ส่วนในอนาคต นอกจากเพลงใหม่ที่จะมาเร็วๆ นี้ วงยังเปิดออดิชั่นสมาชิกใหม่เพื่อฝึกเป็นเทรนนี ก่อนบรรจุเป็นเมมเบอร์ตัวจริง โดยมีคำเตือนท้ายการประกาศว่า‘ใครสนใจสมัคร ควรคิดให้ดี เพราะการเป็นไอดอลนั้นไม่ง่าย’ เมมเบอร์ทุกคนยืนยันกับเราว่า ประโยคนี้จริงที่สุด ไม่ง่ายเลยกับการฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาตัวเองไปเป็นไอดอลที่มีคุณภาพ ต้องผ่านทั้งวันที่เหนื่อย วันที่เสียน้ำตา วันที่มืดมิดที่สุด แต่ก็ตามที่เพลงของพวกเธอว่าไว้ ไม่มีวันไหนที่พวกเธอคิดจะยอมแพ้และหันหลังให้กับความฝันหรือเป้าหมายที่แต่ละคนวาดไว้ – ซึ่งพวกเธอก็ไม่ได้วาดไว้ใหญ่โต มองแค่อนาคตอันใกล้ก่อน “มันมีวงเกิดใหม่ขึ้นเรื่อยๆ เราก็แค่อยากให้คนรู้จักว่า Black Dolls คือวงอะไร” แล้ว Black Dolls คือวงอะไรล่ะ …คำตอบคงอยู่ในรัตติกาล ช่วงแรกๆ ของการเป็น Black Dolls บรรยากาศมันเป็นยังไง น้ำตาล: หนูเข้ามาก่อน ออดิชั่นมาปีหนึ่งได้ ถ้าในกลุ่ม 6คนตอนนี้หนูก็อยู่มานานสุด อยู่มาตั้งแต่โครงการยังไม่มีอะไรเลย ตอนนั้นยังมีเพื่อนเก่าๆ อยู่ เราก็ฝึกเต้นกันไปทุกวันๆ จนมีคนเข้ามามากขึ้น พอดีกับที่วงการไอดอลบูมขึ้นมา ผู้บริหารเลยมีไอเดียทำวงไอดอล ให้เป็นไอดอลระดับเขต เพราะตอนแรกเป้าหมายเราไม่ได้ใหญ่ขนาดนี้ จริงๆ เป้าหมายไม่ได้ชัดเจน คนในวงก็มีท้อกันบ้าง บางคนมีปัญหาเรื่องเรียน เลยออกกันไป แต่ก็มีคนออดิชั่นเข้ามาใหม่ อย่างน้องโม โมน่า: ของโมคือออดิชั่นวันนี้ แล้วอีกวันก็ต้องเข้ามาซ้อมเลย บรรยากาศตึงมาก ซีเรียสมาก หนูก็แอบกลัวๆ นิดนึง (หัวเราะ) ทำไมถึงอยากเป็นไอดอล โมน่า: เป็นความฝันของหนูตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เห็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จ ทั้งไทย ทั้งเกาหลี เห็นแล้วก็อยากเป็นอย่างเขาบ้าง แล้วพอเห็นโอกาสตรงนี้ ด้วยคอนเซปต์ที่น่าสนใจว่ามีคนคิดจะทำแบบนี้จริงๆ เหรอ มันไม่สดใสน่ารักนะ จะรุ่งเหรอ แต่ก็สนใจ เลยลองมาทำดูค่ะ น้ำตาล: หนูชอบ BNK48 และอยากทำให้ได้อย่างเขาบ้าง เห็นเขาเต้น เขาร้อง แล้วมีคนชอบ หรือมีงานจับมือ เขาทำยังไงให้คนมีกำลังใจ หรือถึงขั้นอยากมีชีวิตต่อ (เราโอชิใคร?) หนูโอชิพี่ปัญค่ะ (หัวเราะ) ถามถึงตำแหน่งหน่อย ทำไมถึงได้เป็นกัปตันและรองกัปตัน น้ำตาล: ตอนหนูได้เป็นกัปตัน รุ่นของโมยังไม่เข้าเลย เขาก็ตั้งให้หนูเป็นกัปตันชั่วคราว แต่หนูไม่เคยนำใคร ไม่กล้าพูด เป็นคนขี้กลัว ก็ค้านเขาว่าคงเป็นไปได้ แต่เขาก็ให้เป็น คงเพราะหนูโตสุด จนรุ่นโมเข้ามา หนูก็ไปบอกเขาว่าเปลี่ยนกัปตันไหม ด้วยความที่หนูมีปัญหาหลายอย่าง ทั้งเรื่องวง เรื่องเรียน แต่เขาก็บอกว่า หนูทำหน้าที่ได้ดีแล้วนะ เป็นต่อไป พี่เชื่อว่าหนูจะเป็นกัปตันที่ดี หนูเลยพยายามทำมาเรื่อยๆ ทุกวันนี้ก็ยังพยายามอยู่ โมน่า: พี่ตาลจะเป็นคนคอยคุมกฎระเบียบ เวลาคนวางของไม่เป็นที่เป็นทาง พี่ตาลก็จะบ่น (หัวเราะ) น้ำตาล: ทีนี้พอหนูรับทุกอย่างไม่ไหว เพราะหนูไม่ใช่คนแข็ง ผู้ใหญ่เลยแต่งตั้งน้องโมเป็นรองกัปตัน โมน่า: ทั้งที่หนูก็ค่อนข้างไม่มีสติ (หัวเราะ) อาจเป็นเพราะความตั้งใจของหนู เขาเลยให้หนูเป็นรองกัปตัน แต่ทุกวันนี้หนูก็ยังไม่กล้าสั่งอะไรใคร กลัวเขาโกรธ เป้าหมายในการเป็นไอดอล โมน่า: อยากมีคอนเสิร์ตของตัวเอง น้ำตาล: หนูอยากมีเวิลด์ทัวร์เลยค่ะ หรือเอาแค่รอบประเทศไทยก็ได้ ทั่วทุกจังหวัด อีก 10 ปี คิดว่าตัวเองจะทำอะไรอยู่ น้ำตาล: ตอนนั้นหนูก็ 28 น่าจะไม่ได้เป็นไอดอลแล้ว อาจจะแต่งงาน มีครอบครัว คงทำงานบริษัท เลี้ยงดูครอบครัว โมน่า: ส่วนหนู 24 จบมหาลัยพอดี คงหางานอื่นทำเหมือนกันที่ไม่ใช่ไอดอล หนูอยากเรียนนิเทศ อาจจบไปเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ เพราะน่าจะใช้เวลากับการเป็นไอดอลอย่างคุ้มค่าแล้ว คุ้มค่ายังไง โมน่า: หนูคงไปโม้กับคนอื่นว่า เนี่ยเธอ ตอนฉัน 14 ฉันเคยแรปในเพลงของ Black Dolls นะ เป็นความภูมิใจที่มีเพลงของตัวเอง ทำไมถึงมาออดิชั่น Black Dolls แครอท: หนูเห็นในเพจของวง ก็อยากพัฒนาความสามารถ อยากเอนเตอร์เทนคน อยากเป็นไอดอล เลยตัดสินใจสมัครค่ะ พิวา: เป็นคนชอบเต้น ชอบร้อง แต่คนรอบข้างชอบบอกว่า หนูเต้นไม่เก่ง ร้องไม่ได้ มันเลยเป็นความรู้สึกที่อยากพยายามทำให้ถึงที่สุด เพื่อลบคำสบประมาท และมันก็เป็นความสุขของหนู เลยเลือกที่จะมาทำ หทัย: หนูอยากเอาชนะพี่สาว เพราะพี่เป็นคนเต้นเก่ง แม่ก็ชอบชม บวกกับมีความฝันว่าอยากเป็นไอดอล หนูรู้จักไอดอลหลายๆ วง ได้รับกำลังใจมาจากพี่ๆ เขา หนูเลยอยากส่งกำลังใจที่ได้รับให้คนอื่นๆ บ้าง รู้ตัวว่ารักในการร้องการเต้นตั้งแต่เมื่อไร พิวา: หนูเป็นเด็กกิจกรรมตั้งแต่เข้าโรงเรียนเลยค่ะ จะชอบมากเวลาขึ้นไปเต้นกับเพื่อนบนเวที หทัย: หนูเพิ่งมารู้ตอนเข้าวงนี่แหละ แต่ก่อนหนูจะสนใจแค่งานศิลปะ การวาดรูป กีฬา ไม่คิดว่าตัวเองจะมาเต้นมาร้องเพลงได้ คืออยากเต้นได้ร้องได้นะ แค่ไม่คิดว่าจะทำได้ ทำไมอยากเอาชนะพี่สาว หทัย: มันเป็นความคิดแบบเด็กๆ คือหนูติดแม่ อยากให้แม่ชมบ้าง แต่พอตอนนี้ หนูก็ไม่ได้คิดเรื่องชนะแพ้แล้ว คิดแค่ว่าขอบคุณพี่สาวที่ทำให้หนูมาถึงจุดนี้ วงนี้ซ้อมหนักแค่ไหน แครอท: ถ้าเป็นช่วงปิดเทอม จะมาแคมป์กัน ซ้อมกันตั้งแต่เช้ามืด ตี 5 ก็ตื่นมาออกกำลังกายกันเลย แล้วก็ซ้อมถึงสองสามทุ่ม หรือดึกกว่านั้นถ้ามีงาน นอกเวลาซ้อมกับเรียนล่ะ เรามีความสนใจอื่นไหม แครอท: ชอบอ่านหนังสือค่ะ แนวให้กำลังใจ พิวา: ชอบอ่านหนังสือเหมือนกันค่ะ อ่านได้ทุกแนว ยิ่งระทึกขวัญจะชอบเป็นพิเศษ และก็ชอบเล่นดนตรีด้วย เล่นอูคูเลเล่ กีตาร์ ขิม หนูว่าเสน่ห์ของกีตาร์มันอยู่ที่เวลานิ้วสัมผัสเฟรต หรือดีดในแต่ละสาย มันเกิดเสียงที่ต่างกันในแต่ละเฟรต แล้วหนูหลงรักเสียงเหล่านั้น หทัย: ชอบวาดรูป การลงสี แต่จะไม่ชอบศิลปะในห้องเรียนนะ (หัวเราะ) เพราะหนูคิดว่าเราต้องทำอยู่ในกรอบ ศิลปะมันควรจะไม่มีกรอบมากั้น นอกจากนั้นยังชอบเตะบอล (หัวเราะ) ตอนม.3 เรียนในวิชาพละ แล้วก็ชอบเลยค่ะ ชอบเวลาวิ่งในสนามแล้วฝนตก มีกลิ่นหญ้าตีหน้า อีก 10 ปี คิดว่าตัวเองจะยังเป็นไอดอลอยู่ไหม หรือไปทำอย่างอื่นแล้ว แครอท: หนูเรียนจบแล้ว ถ้าเป็นไอดอลอยู่ ก็คงจะทำหน้าที่ไอดอลให้ดีที่สุด แต่ถ้าไม่ได้เป็นแล้ว ก็น่าจะไปทำงานด้านที่ชอบ ก็คือกฎหมาย หทัย: อาชีพหนูยังไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ หนูอยากเป็นที่พึ่งพาให้คนอื่นได้ ทั้งครอบครัว หรือคนที่เคยรู้จักหนูในฐานะไอดอล ให้คนที่กลับมาดูคลิปหนูตอนเป็นไอดอล ได้รับกำลังใจ พิวา: หนูอาจจะเป็นผู้บริหาร (เราจะซื้อวง Black Dolls หรอ) พี่รู้ได้ยังไง (หัวเราะ) หรือถ้ายังเป็นไอดอลอยู่ ก็จะพยายามทำให้เต็มที่ ทำให้คนที่ติดตามหนูมีกำลังใจ หรือได้รับแรงบันดาลใจกลับไป ทำไมถึงมาออดิชั่น Black Dolls จินนี่: หนูไปเช่าห้องซ้อมเต้นกับเพื่อน แล้วคนในค่ายก็มาเห็น บอกว่ามีออดิชั่นวงนี้นะ สนใจมาออดิชั่นไหม หนูก็เลยมาลองดู ปรับตัวยังไงบ้างหลังเข้าวง จินนี่: หนูไม่ค่อยมีพื้นฐานด้านการเต้น ก็ต้องปูพื้นฐานใหม่ ได้พี่ๆ ในวงช่วย จนดีขึ้นเยอะเลย พอมาเป็นไอดอลจริงๆ มันเหมือนหรือต่างจากความเข้าใจก่อนหน้านี้ของตัวเองแค่ไหน จินนี่:ตอนแรกหนูมองแบบเด็กปกติว่า ไอดอลก็เหมือนเป็นนักร้อง นักเต้น ที่มาแสดงโชว์ความสามารถ แต่พอมาเป็นจริงๆ มันยากระดับหนึ่ง โดยเฉพาะการจัดการเวลา เรื่องเรียน เรื่องซ้อม ไอดอลต้องมีความรับผิดชอบ แล้วก็มีความอดทน ความพยายาม อยู่ม.ปลายแล้ว มีแพลนจะสอบเข้าคณะอะไรในมหาลัยหรือยัง จินนี่: หนูอยากเข้านิเทศกับดุริยางค์ค่ะ อีก 10 ปี ตอนนั้นคงเรียนจบแล้ว คิดว่าตัวเองจะทำอะไรอยู่ จินนี่: หนูก็น่าจะเป็นนักร้อง หรือเป็นโปรดิวเซอร์ เพราะหนูอยากทำเพลง อยากลองเป็นโปรดิวเซอร์ สิ่งที่ดีที่สุดในการเป็น Black Dolls คืออะไร จินนี่: คงจะเป็นแฟนคลับ และเมมเบอร์ด้วยกันเองนี่แหละค่ะ (หัวเราะ) ป.ล.สัมภาษณ์ตั้งแต่วันที่ ออร์ ยังเป็นสมาชิกวง จึงมี ออร์ อยู่ในรูปรวม และบทสัมภาษณ์ของจินนี่ จริงๆ เป็นการสัมภาษณ์คู่กับออร์ ทีมงานตัดส่วนของออร์ออก จึงกลายเป็นบทสัมภาษณ์เดี่ยว