เมื่อปากท้องไม่ใช่ปัญหาสลักสำคัญ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องดิ้นรนวิ่งหาอย่างยากลำบาก ความหิวก็กลับกลายสภาพเป็นอย่างอื่น บ้างหิวอำนาจ หิวความสำเร็จ หิวการยอมรับ หรือแม้แต่หิวประสบการณ์ที่เหนือชั้นกว่าคนอื่น..โดยไม่สนว่าต้องแลกมากับอะไร คุณรู้จักความหิวดีพอหรือยัง? รู้หรือเปล่าว่า “ความหิว” บีบให้คนเราทำอะไรได้บ้าง? นั่นคือคำเชิญชวนจาก “HUNGER คนหิว เกมกระหาย” ที่กระตุ้นให้ต่อมความหิวโหยของเหล่าคนดูกำเริบ ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจากฝีมือการกำกับของสิทธิศิริ มงคลศิริ โดยได้คงเดช จาตุรันต์รัศมี รับหน้าที่เขียนบทและนั่งแท่นโปรดิวเซอร์ร่วมกับ โสฬส สุขุม “ออย” ทายาทร้านราดหน้า–ผัดซีอิ๊วที่ได้รับคำเชิญชวนให้เข้าไปอยู่ในทีม “Hunger” ทีมของเชฟพอล เชฟอันดับหนึ่ง ยอดอัจฉริยะ แต่นั่นกลับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ออยค้นพบด้านมืดของวงการอาหารชั้นสูง และรู้จักอำนาจแห่งความหิวกระหายที่อยู่เหนือสิ่งใด หากใครคาดหวังเรื่องราวของอาหารล้วนๆ อาจจะไม่ตรงใจสักเท่าไร เรียก “Hunger” ว่าภาพยนตร์ตีแผ่สังคมผ่านจานอาหารโดยมีนิยามของ “ความหิว” เป็นแกนหลักน่าจะเข้าท่ากว่า มีจังหวะกัดจิก ตั้งคำถามกับการเมือง สังคม ชนชั้นอย่างโจ่งแจ้ง มีการจัดวางภาพและสัญญะต่างๆให้ได้ขบคิดตีความอยู่เสมอ “เพราะอาหารนั้นพิเศษจึงแพง หรือความแพงทำให้อาหารนั้นพิเศษ” โลกของเชฟพอล โลกของออย , ครัว Fine Dinning หรูหรา ร้านผัดซีอิ๊วของครอบครัว โต๊ะอาหารสุดอู้ฟู่ในงานปาร์ตี้ของเหล่าไฮโซ ร้านอาหารข้างทางที่มีคนงานหาเช้ากินค่ำ ห้องพักฟื้นแสนสงบ กับห้องผู้ป่วยรวมที่แออัด ภาพคู่ขนานร้องเรียงต่อกันมาเรื่อยๆ สะท้อน “ความเหลื่อมล้ำ” สิ่งที่นำมาซึ่งความหิว และยังชวนให้ติดตามว่าความหิวจะนำพาตัวละครไปถึงจุดไหน ในวันที่ความกระหายบีบรัดเราทุกทาง เรายังจะยืนหยัดในตัวตนได้หรือเปล่า ยังจะมั่นคงกับมาตรฐานคุณธรรมของโลกนี้หรือไม่ ที่น่าขนลุกคือภาพที่เราได้เห็นเป็นเรื่องจริง ของจริง มีอยู่จริงในสังคมของเราจริงๆ แบบไม่อิงนิยาย เพียงแค่ภาพยนตร์ขยายให้เห็นชัดเจน ขยี้จนติดตาทุกฉากทุกตอน นอกจากนักแสดงมากฝีมือที่ช่วยกันรับส่งอารมณ์ โต้ตอบกันอย่างเชือดเฉือน สาดอารมณ์กันแบบเดือดสะใจ อีกองค์ประกอบที่ช่วยเพิ่มความเข้มข้น และเป็นดั่งเครื่องปรุงรสชั้นยอด คือ “เสียง” เสียงเพลง เสียง ASMR ระหว่างทำอาหารบีบคั้นอารมณ์บางเวลาก็ทำให้รู้สึกขยะแขยง สะอิดสะเอียนได้เลย ดีจนนึกเสียดายที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้ฉายขึ้นจอเงินในระบบเสียงคุณภาพอย่างรอบพรีเมียร์ สิ่งที่จะต้องระวังในการดูคือสำหรับคนที่กลัวเลือด กลัวร่องรอยแผล อาจจะรู้สึกไม่สบายใจกับหลายฉาก หลายตอนได้ และมีแสงไฟที่อาจทำให้มึนหัวอยู่พอสมควร โดยรวมจัดได้ว่าเป็นความหวังของภาพยนตร์ไทยต้นปีนี้เลยก็ว่าได้ เข้มข้นเต็มรส อิ่มทุกอารมณ์ ดุเดือดจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ แต่จะเป็นรสชาติที่ถูกปากหรือเปล่า ต้องไปลองลิ้มชิมกันเอง 8 เมษายนนี้ ที่ Netflix เท่านั้น ดูพร้อมกัน 14.00 น. (เวลาไทย) กว่า 190 ประเทศทั่วโลก รับชมตัวอย่างได้ที่นี่