หลังกระทรวงสาธารณสุขได้ปลดล็อคกัญชง กัญชาออกจากสารเสพติดประเภทที่ 5 แล้ว ประชาชนชาวเราก็สามารถใช้กัญชาได้อย่างเสรีมากขึ้น ด้วยความที่ปลดล็อคเรียบร้อยแล้ว แต่พ.ร.บ. กัญชากลับยังไม่มานี่สิ เลยเกิดปัญหาของข้อมูล และข้อบังคับที่อาจทำให้เกิดการขาดความเข้าใจต่อการใช้กัญชา และไม่นานมานี้ ผู้บริโภคบางคนก็เกิดผลค้างเคียงที่ค่อนข้างน่าตกใจหลังจากกินกัญชาไป เพราะฉะนั้น เราจะพามาดูกันว่า ณ ตอนนี้ กัญชาสามารถใช้อย่างไร รวมถึงข้อควรระวังการใช้กัญชาให้รอดพ้นจากความเสี่ยงทางร่างกายด้วย มาดูกัญก่อนว่าปลดล็อค ”กัญชา” ณ ตอนนี้ มีผลอย่างไรบ้าง ทุกส่วนของกัญชง กัญชาไม่จัดเป็นยาเสพติด ยกเว้นสารสกัดที่มีปริมาณ THC เกิน 0.2% ปลูกเองได้ ไม่ต้องขออนุญาต แต่มีการขอความร่วมมือให้แจ้งข้อมูลทางแอพหรือเว็บไซต์ “ปลูกกัญ” บริโภค ควรบริโภคกัญชงหรือกัญชาที่มีปริมาณ THC ไม่เกิน 0.2% สูบได้ ยกเว้น! ถ้าสูบแล้วก่อความรำคาญจากกลิ่นและควัน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือหลังจากสูบแล้วเกิดเมาแล้วขับ มีความผิดตามพรบ.จราจร ซื้อ-ขาย ทุกส่วนได้ โดยสามารถเช็คแหล่งขายที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ประกอบอาหารขายได้ ยกเว้นส่วนยอด ช่อ-ดอก หรือสารสกัดและกาก-เศษที่มีปริมาณ THC เกิน 0.2% ทำผลิตภัณฑ์จากกัญชาขาย ต้องปฏิบัติตามนี้ 1.ต้องกำกับดูแลทั้งก่อนและหลังการอนุญาตอย่างเข้มงวด 2.ต้องมีความปลอดภัย โดยมีการควบคุมคุณภาพมาตรฐานด้านต่าง ๆ เช่น สารปนเปื้อน สารตกค้าง 3.ต้องมีปริมาณ THC ไม่เกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด โดยมีผลวิเคราะห์ยืนยัน 4.ต้องแสดงคำว่า “กัญชา” หรือ “ส่วนของกัญชา” ที่ใช้บนฉลากอย่างชัดเจนในส่วนของชื่ออาหารและส่วนประกอบ 5.แสดงคำเตือนและข้อแนะนำในการบริโภค 6.ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนผสมของกัญชาที่ได้รับเลขสารบบอาหาร จะมีความปลอดภัยเมื่อบริโภคตามคำแนะนำ 7.สำหรับการโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนผสมของกัญชาที่แสดงถึงสรรพคุณ คุณประโยชน์ต่อสุขภาพ ต้องได้รับอนุญาตก่อนทุกราย นำเข้าเมล็ดพันธุ์ และส่วนอื่น ๆ ได้ แต่ต้องขออนุญาต *ข้อมูล ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2565* ข้อควรระวัง อาการไม่พึงประสงค์จากกัญชา ง่วงนอน ปากแห้ง คอแห้ง หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน วิตกกังวล กระวนกระวาย ไตวายเฉียบพลัน รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถพบเจอได้ในผู้ที่บริโภคกัญชง กัญชา หรืออาหารที่มีส่วนผสมของกัญชง กัญชาเกินขนาด หรือบริโภคแล้วเกิดพิษจากกัญชา สาเหตุส่วนใหญ่ที่พบเกิดจาก ”ช่อ-ดอก” ที่นำมาประกอบอาหาร ซึ่งช่อ-ดอกนั้นมีค่า THC สูงกว่า 5-20% เป็นค่าที่สูงกว่าค่าที่กำหนดมาก ทำให้เกิดผลกระทบที่อันตรายต่อร่างกายได้ในระยะเวลาเฉียบพลัน ใครควรหลีกเลี่ยง ผู้ที่แพ้สาร THC หรือ CBD (สารสำคัญในกัญชา) ผู้ป่วยโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดหัวใจ เพราะอาจทำให้เกิดความผิดปกติของระบบหัวใจและหลอดเลือด ผู้ป่วยโรคจิตเภท โรคอารมณ์แปรปรวน หรือโรควิตกกังวล เพราะอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทมากยิ่งขึ้น สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร สตรีที่วางแผนจะตั้งครรภ์ และสตรีวัยเจริญพันธ์ุที่ไม่ได้คุมกำเนิด ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เพราะจะทำให้พัฒนาการทางสมองล่าช้าลง ส่งผลต่อการเรียนรู้ ผู้ที่ขับยานพาหนะเป็นประจำ และทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร เพราะสารในกัญชาอาจทำให้ง่วงซึมได้ ขอบคุณข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ, ฐานเศรษฐกิจ, ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 424 พ.ศ. 2564, บทความพิษวิทยาของกัญชา วารสารเภสัชกรรมโรงพยาบาล