ในช่วงที่สถานการณ์ย่ำแย่ อาจทำให้ใครหลายคนเป็นกังวลจนส่งผลต่อทั้งสุขภาพกายและใจ แต่ฮึบไว้ก่อน เพราะคิดมากเกินไปก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น สู้มองโลกในแง่ดี จะได้มีสติแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเรื่องดีหรือร้ายเราก็จะผ่านไปได้แน่นอน
ถอยออกมามองปัญหาในมุมกว้าง
เมื่อเราจมอยู่กับปัญหา หรือสถานการณ์แย่ๆ จะยิ่งทำให้เราดิ่งลงไป มองไปทางไหนก็มืดไปหมด บางทีการที่เราเอาตัวเองไปอยู่ในปัญหา ยิ่งทำให้มองไม่เห็นรอยรั่วหรือรอยด่าง ตั้งสติแล้วพาตัวเองออกมาจากปัญหา เพื่อให้มองเห็นภาพรวม และเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น
มองหาข้อดีในเรื่องแย่ๆ
สถานการณ์จะแย่แค่ไหนก็ต้องมีเรื่องดีๆ อยู่บ้าง มองสถานการณ์ให้รอบด้าน และพยายามหาข้อดีของสิ่งที่เป็นอยู่ เช่น สถานการณ์ย่ำแย่จนต้องทำงานที่บ้าน (Work From Home) แต่ยังมีข้อดีที่ทำให้เราได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น
ทำ Happy Note
การจดบันทึกเรื่องราวดีๆ จะทำให้เรามองโลกในแง่ดีมากขึ้น สามารถทำได้ง่ายมาก ตั้งแต่ตื่นนอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน ถ้าสิ่งนั้นทำให้เรามีความสุข ตื้นตันใจ หรือรู้สึกขอบคุณ ก็บันทึกไว้ได้ทั้งนั้น การทำแบบนี้จะทำให้เราโฟกัสไปที่เรื่องดีๆ มากขึ้น แถมยังได้รู้ว่าแม้ในวันที่แย่ ก็ยังมีเรื่องดีๆ อยู่นะ
ขยับร่างกาย ให้จิตใจผ่อนคลาย
อยู่เฉยๆ แล้วจิตใจฟุ้งซ่าน ลองลุกไปยืดเส้นยืดสาย ยิ่งออกกำลังกายได้ยิ่งดี เพราะการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และยังทำให้เราจดจ่อกับกิจกรรมที่อยู่ตรงหน้ามากกว่าไปนึกถึงเรื่องแย่ๆ ด้วย
เปิดใจให้ตัวเองหัวเราะบ้าง
อย่าไปคิดว่าสถานการณ์ไม่ดี เราต้องตีหน้าเศร้า เคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา ทำจิตใจให้แจ่มใส เปิดใจให้ตัวเองและคนรอบข้างมีอารมณ์ขันบ้าง การหัวเราะจะช่วยให้ความเครียดลดลง ปัญหาที่อยู่ตรงหน้าอาจจะดูง่ายขึ้นกว่าตอนที่เรานั่งหม่นหมองก็ได้
อยู่ใกล้คนคิดบวก
หลายครั้งที่อยู่ใกล้คนคิดลบแล้วก็รู้สึกแย่ไปด้วย เพราะทุกสิ่งรอบตัวจะดูแย่ไปหมด ยิ่งในสถานการณ์น่าปวดหัว การอยู่ใกล้คนคิดลบจะยิ่งทำให้จิตตกเข้าไปใหญ่ พยายามอยู่ใกล้คนคิดบวกเข้าไว้ อย่างน้อยสภาพจิตใจจะได้ไม่แย่ แต่ช่วงนี้อย่าลืมทำ Social Distancing เว้นระยะห่างทางสังคมด้วยล่ะ
ที่มา healthline, lifehack