เชื่อว่าหลายคนที่ไม่ได้ดื่มกาแฟบ่อยๆ อาจจะมีอาการเก้อเขินทำตัวไม่ถูกเวลาเดินเข้าร้านกาแฟ ปกติแล้วบ้านเราสามารถหาซื้อกาแฟได้ง่ายมาก ตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อข้างบ้านก็มีกาแฟกระป๋องหรือแบบเป็นซองขาย ออกไปทานข้าวก็มีเจ๊ขายกาแฟข้างร้านอาหาร เวลาเราไปสั่งก็ง่ายๆ “เจ๊ๆ กาแฟเย็นหวานน้อยแก้วนึงเด่ะ” ทว่า เมื่อเราไปร้านกาแฟดีๆ หน่อย พวกร้านคาเฟ่หรือระดับ Starbucks ขึ้นไป ใครไม่คุ้นเคยกับการสั่งกาแฟสดอาจจะเหวอเอาได้ เมื่อได้ยินคิวข้างหน้าสั่งหว่า “Venti Caramel Macchiato, 1 Pump Syrup, non-fat milk, no whip cream, Add Java Chip” คุณอาจจะตกใจว่านั่นเค้าสั่งกาแฟหรือกำลังอ่านกลอนแปด ซึ่งอาจทำให้คุณช็อคและกลัวการสั่งกาแฟไปเลย แล้วเราต้องสั่งยังไงถึงได้แบบกาแฟเย็นร้านเจ๊รถเข็นหล่ะ? แล้วกาแฟมันมีแบบไหนบ้าง? ทำให้กลายเป็นเรื่องที่ลำบากเกินไปทั้งที่แค่หากาแฟดื่ม บางคนไม่กล้าเข้าร้านกาแฟเพราะสั่งไม่เป็น จริงๆ แล้วมันเวรี่อีซี่กว่าที่ทุกท่านคิดครับ ตามมาเลย ขั้นตอนการเข้าคิวสั่งกาแฟและรับกาแฟร้าน Starbucks เมื่อเดินเข้าไปในร้าน Starbucks ถ้าเป็นช่วงที่มีคนเยอะ จะเห็นว่ามีการเข้าคิวอยู่สองจุด ตรงนี้อาจทำให้ครั้งแรกของคุณสับสนได้ ว่า อ้าว แล้วกรูต้องต่อคิวสั่งกาแฟตรงไหน จุดแรก สำหรับสั่งเครื่องดื่ม ให้สังเกตว่าจุดที่สั่งจะต้องมีพนักงานยืนคุยกับลูกค้าอยู่ และตรงนั้นมีเครื่องคิดเงิน ให้เข้าคิวในส่วนนี้เพื่อสั่งได้เลยครับ หลังจากสั่งแล้วเราจะได้หมายเลขคิวมาในใบเสร็จ หรือบางครั้งพนักงานมีการถามชื่อเราไปเพื่อเรียกหมายเลขคิวหรือเรียกชื่อเรานั่นเอง จุดที่สอง สำหรับรับกาแฟ จุดนี้จะมีการยืนต่อคิวเป็นบางครั้ง แต่คิวมักจะไม่เป็นระเบียบนัก ไม่ใช่เพราะว่าคนไทยมักง่ายนะ แต่ตรงนี้ไม่จำเป็นต้องเข้าคิวก็ได้ เพราะว่าเค้าจะเรียกชื่อหรือหมายเลขคิว ให้ยืนรอบริเวณใกล้ๆ ที่ได้ยินเสียงพนักงานก็พอ มีกาแฟรสชาติที่ชอบ แต่ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร กรณีนี้สบายครับ ถ้าคุณมีกาแฟแบบที่ชอบอยู่แล้วและพอรู้ส่วนผสมบ้าง อาจจะยกมาจากกาแฟเย็นร้านเจ๊ที่เราเคยสั่งประจำก็ได้ เวลาเราไปที่หน้าเคาเตอร์ก็ทำตัวชิวๆ คุยกับน้องบาริสต้าไปเลย ว่าอยากได้กาแฟแบบนี้ๆ ร้านนี้มีเมนูไหนแนะนำพี่บ้าง เช่น ถ้าคุณชอบกาแฟเย็นใส่นมหวานน้อย บาริสต้าก็อาจจะแนะนำเป็นลาเต้เย็นมาให้ (แต่ไม่ใส่นมข้นเหมือนกาแฟโบราณนะ) ก็จะได้กาแฟแบบที่ชอบสมใจ และถ้าคุณชอบก็ให้จำชื่อเมนูนั้นไว้ เอาไว้สั่งในคราวถัดไป สำคัญคือ ไม่ต้องเขินอายเลยครับ ร้านกาแฟมีเครื่องดื่มหลากหลาย และบาริสต้าพร้อมที่จะแนะนำคุณอยู่แล้ว แต่ถ้าตอนที่คุณสั่งมีคิวยาวอยู่ก็อาจจะต้องรีบๆ คุยหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวคิวข้างหลังจะมองแรงเอาได้ เมนูกาแฟโดยทั่วไป ก่อนอื่นมารู้จักกับชื่อเรียกโดยทั่วไปของกาแฟกันก่อน ว่าแบบไหนมีส่วนผสมของอะไร เรียกว่าอะไร ภาพด้านบนเป็นข้อมูลเกี่ยวกับกาแฟในเบื้องต้นที่ทุกร้านจะมีเมนูประมาณนี้ ซึ่งแต่ละร้านเค้าก็จะมีเมนูเพิ่มเติมอีกแล้วแต่สูตรของร้าน ถ้าเจอชื่อประหลาดๆ ก็ถามน้องบาริสต้าได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ โดยเมนูกาแฟทั้งหมดจะมีเอสเพรสโซ่หรือกาแฟดำเพียวๆ เป็นตัวหลักที่นำไปผสมกับส่วนผสมอื่นๆ หรือถ้าอยากทานเอสเพรสโซ่ก็สั่งได้ เป็นเมนูที่เหมาะสำหรับรับรู้รสชาติกาแฟของร้านนั้นๆ เลยด้วย ใครสนใจลองอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : เรื่องต้องรู้สำหรับคนดื่ม กาแฟ สำหรับท่านที่ไม่คุ้นเคยกับการดื่มกาแฟสด แนะนำให้สั่งเมนู Caramel Macchiato (คาราเมล มัคคิอาโต้) เพราะเป็นกาแฟรสชาติที่ทานง่ายมาก มีกลิ่นหอมหวานจากคาราเมล สามารถสั่งได้ทั้งแบบ ร้อน เย็น ปั่น ตามใจชอบ ขนาดของแก้ว เครื่องดื่มเย็นที่ Starbucks บ้านเราจะมีสามขนาด โดยจะมีชื่อเรียกที่ยากนิดหน่อย ถ้าไม่คิดมากก็สามารถสั่งง่ายๆ เล็ก กลาง ใหญ่ ก็เข้าใจตรงกัน และเครื่องดื่มร้อนจะมีแบบ Short (ช็อต) เสิร์ฟเอสเพรสโซ่มาแบบแก้วช็อตเล็กๆ Short (ช็อต) 8 ออนซ์ หรือ 237 มิลลิลิตร (มีเฉพาะเครื่องดื่มร้อน) Tall (ทอล) 12 ออนซ์ หรือ 355 มิลลิลิตร Grande (แกรนเด) 16 ออนซ์ หรือ 473 มิลลิลิตร Venti (เวนติ) 20 ออนซ์ หรือ 591 มิลลิลิตร รสชาติที่สามารถปรับได้ตามใจชอบ เนื่องจากความชอบของคนเราไม่เหมือนกัน ที่ร้าน Starbucks สามารถแจ้งบาริสต้าปรับเปลี่ยนจากสูตรปกติได้เสมอ ตรงนี้จะเห็นว่าบางคนสร้างสูตรเครื่องดื่มขึ้นมาเองเลยก็มี อย่างสูตรชาเขียวในตำนานนั่นเอง ไซรัป : ไซรัปหรือน้ำเชื่อมสามารถขอเพิ่ม/ลดได้ โดยไซรัปของ Starbucks เค้าจะอยู่ในขวดใหญ่ๆ เวลาใส่พนักงานก็จะกดปั้มใส่แก้ว ดังนั้นหน่วยที่เรียกง่ายๆ ของไซรัปคือ “ปั้ม” เช่น สั่งว่า Greentea Latte ใส่ไซรัป 1 ปั้ม เป็นต้น ถ้าเอาง่ายกว่านั้นก็สั่งว่าหวานน้อย หรือหวานมากพิเศษ แบบนี้ก็ได้ ไซรัปเองก็มีหลายอย่าง Vanilla, Hazelnut, Raspberry และ Caramel และในบางซีซั่นเค้าจะมีไซรัปรสชาติต่างๆ ด้วยนะ ในส่วนนี้ต้องลองถามบาริสต้า วิปครีม : สามารถเลือกได้ว่าจะใส่หรือไม่ใส่ หรือจะเพิ่ม ถ้าเราสั่งเมนูที่ไม่มีวิปครีมก็เพิ่มได้แต่ราคาก็จะเพิ่มด้วยเช่นกัน สำหรับเมนูไหนที่ใส่วิปครีมอยู่แล้ว เราเลือกที่จะไม่เอาก็ได้ แต่จ่ายราคาเท่าเดิม และบางช่วงจะมีวิปครีมหลายแบบ อย่างก่อนหน้านี้เคยมีวิปครีมชาเขียวก็สามารถเปลี่ยนได้เช่นกัน นม : ในเมนูที่ผสมนม เค้าจะใช้นมโฟร์โมสต์รสจืด ถ้าใครไม่ชอบหรือแพ้สามารถเปลี่ยนได้ โดยสั่งเป็นนม non fat ไขมัน 0% หรือ นมถั่วเหลืองก็ได้เช่นกัน ปรุงรสชาติด้วยตัวเอง : Starbucks ทุกสาขาจะมีอุปกรณ์ในการปรุงรสชาติเบื้องต้นให้ น้ำตาลทราย ไซรัป สามารถมาหยิบจับได้ตามสะดวก ปลั๊กไฟฟรี ของดี Starbucks นอกจากเครื่องดื่มแล้ว สิ่งที่ทำให้ร้าน Starbucks มีลูกค้าแน่นขนัดไม่ขาดสายจนแทบจะเป็นแลนด์มาร์คของห้าง คือ การที่มีปลั๊กไฟให้ลูกค้าใช้ได้ฟรี แบตโทรศัพท์ใครใกล้จะหมดก็เอามาเสียบชาร์จกันได้ หรือบางคนถึงกับเอา Laptop มานั่งทำงานเลยก็มี จึงไม่แปลกที่ Starbucks เป็นร้านยอดนิยมสำหรับคนที่ชอบนั่งทำงานนอกบ้าน เสียบปลั๊กไฟ ใช้ WiFi ห้าง แค่นี้ก็อยู่ได้ทั้งวันแล้ว แต่อย่างไรก็ต้องเห็นใจร้านเค้าด้วยนะ ถ้านั่งแช่นานก็ต้องสั่งของเค้าเยอะๆ หน่อย เพราะการที่มีลูกค้าหมุนเวียนเป็นเรื่องสำคัญของร้านกาแฟเลยทีเดียว อื่นๆ ที่ควรทราบ Starbucks ไม่ได้มีแค่กาแฟนะ ยังมีเครื่องดื่มที่เป็นชา หรือน้ำผลไม้ และจะมีเมนูออกใหม่มาให้ลองเสมอ ส่วนใหญ่เมนูออกใหม่จะเป็นเครื่องดื่มที่ทานง่าย สามารถใช้ปลั๊กไฟได้ฟรี ยกคอมมานั่งทำงานได้ แต่ไม่ควรนั่งแช่นานเกินไป เห็นใจลูกค้าและร้านด้วย ถ้านำแก้วมาเองได้ส่วนลด 10 บาท ถ้าชื่อเรียกยาก สามารถเรียกเป็นภาษาไทยง่ายๆ ได้ เช่น “Venti Green Tea latte frappe no syrup, no whip creem” ก็จะเป็น “ชาเขียวปั่นแก้วใหญ่หวานน้อยไม่ใส่วิปครีม” เอาเป็นว่าสื่อสารกันเข้าใจถือว่าผ่านแล้ว ไม่มีใครเขามองคุณแปลกๆ หรอก สั่งได้เลย