Mango Zero

โอตะ BNK48 ควรอ่าน ‘คู่มือการเป็นโอตะที่ดี – อต.101’

ช่วงนี้นอกจากกระแส BNK48 กำลังมาแล้วกระแสที่มาแรงตีคู่กันก็คือกระแส ‘แอนตี้โอตะ BNK48’ อันที่จริงเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะมีโอตะไร้สติส่วนน้อยไปทำพฤติกรรมบางอย่างจนโอตะที่ดีเสื่อมเสีย BNK48 เองก็พลอยโดนหางเลขไปด้วย

เข้าใจได้ว่าโอตะบางคนก็รักและเป็นห่วงในตัวเมมเบอร์และวงจนเกินไป ส่วนบางคนก็มีพฤติกรรมที่ไม่น่ารักยามปฏิบัติตัวกับโอตะคนอื่น กระทั่งตัวเมมเบอร์เองเพราะคิดว่าเปย์เยอะแล้วจะทำอะไรก็ได้จะแสดงความเห็นแรงแค่ไหนก็ได้

เพื่อความสงบสุขของสังคมโอตะ และเพื่อให้ BNK48 เป็นที่รักของคนอื่นเพิ่มขึ้นด้วย เราจะมาแนะนำกฎกติกามารยาทที่โอตะ ‘พึ่งปฏิบัติ’ เป็นคู่มือที่ทำแล้วทุกฝ่ายมีความสุขกับ ‘ตู่มือการเป็นโอตะที่ดี – อต.101’

1.ให้เกียรติเมมเบอร์

อย่างแรกสุดที่โอตะควรจะปฏิบัติตัวให้เป็นมารยาทพื้นฐานคือการให้เกียรติเมมเบอร์เหมือนที่โอตะรุ่นพี่ หรือโอตะรุ่นบุกเบิกทำกันคือเข้าใจในกฎกติกามารยาทที่ทางต้นสังกัดออกแบบไว้แล้วเพื่อความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวของเมมเบอร์

แต่ก็ยังมีโอตะที่ไม่เข้าใจกติกามารยาท และแสดงพฤติกรรมคุกคามน้องๆ ที่ไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ทั้งคำพูด การแสดงความเห็นในโลกออนไลน์ หรือการกระทำที่เกือบจะถึงเนื้อถึงตัว ซึ่งโอตะรู้ว่าควรทำตัวอย่างไร อาจจะมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่รู้

2. ให้เกียรติโอตะด้วยกัน 

โอตะบางคนก็มีทัศนะคติที่ไม่ดี และไม่ให้เกียรติโอตะคนอื่น เพราะคิดว่า เฮ้ย! เรารู้จักวงการนี้มานานเชียร์วงในเครือ 48 Group ก่อนที่ BNK48 จะเกิด ก็เอาความเชี่ยวชาญของตัวเองไปขิง ไปเหยียดโอตะน้องใหม่คนอื่นที่เพิ่งเข้าวงการทั้งพฤติกรรมและคำพูด จนทำให้โอตะน้องใหม่รู้สึกไม่ดีกับสังคม BNK48 ไปเลย

บางคนเปย์เมมเบอร์เยอะกว่าโอตะคนอื่นๆ ก็เกิดอาการแสดงความเป็นเจ้าของเมมเบอร์ และข่มโอตะคนอื่นๆ ที่อาจจะโอชิเมมเบอร์คนเดียวกันด้วยสารพัดวิธีที่เห็นแล้วไม่น่ารักเลย การข่ม การขิงกันไม่ได้ทำให้ใครรู้สึกดี และลึกๆ เชื่อเถอะว่าคุณเองก็ไม่ได้รู้สึกดีกับสิ่งที่ทำ

3. ไม่ทำตัวเป็นซอมบี้

หลังจากน้องๆ เลิกงานอีเวนต์ช่วงหลังเราจะเริ่มเห็นพฤติกรรมโอตะบางกลุ่มที่ทำตัวเป็น ‘ซอมบี้’ วิ่งเข้าไปหาน้องๆ และพยายามที่จะตามติดชีวิตน้องๆ แทบทุกก้าวราวกับสโตรกเกอร์จนเกิดความวุ่นวายเบาๆ แต่ก็ทำให้พื้นที่โดยรอบวุ่นวายจนคนที่ไม่เกี่ยวข้องเดือดร้อนและพาลมองไปที่โอตะว่าทำไมไร้มารยาท และเสียไปถึง BNK48 ด้วย

4. ไม่ทำร้ายจิตใจเมมเบอร์ทั้งทางตรงและทางอ้อม 

ไม่นานมานี้มีคลิปหนึ่งที่เราไม่แน่ใจว่าเป็นโอตะ หรือคนทั่วไปที่บุกเข้าถึงตัวเฌอปราง แล้วยื่นมือมาเพื่อจับที่แขนซ้าย หรืออาจจะประสงค์อย่างอื่น ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่แย่มาก และไม่ควรจะเกิดขึ้นอีกไม่ว่ากับเมมเบอร์คนไหนก็ตาม รวมไปถึงศิลปินวงอื่นๆ ด้วยเพราะนี่คือการทำร้ายจิตใจกันตรงๆ

หรืออีกกรณีหนึ่งคือมีโอตะไปงานจับมือกับเมมเบอร์คนนึงเพื่อบอกว่า “เมื่อก่อนเคยชอบนะ แต่ตอนนี้ไม่ชอบแล้ว” กรณีนี้มองได้หลายมุม ทั้งมุมทำร้ายจิตใจเมมเบอร์ และมุมที่เป็นการไปบอกลาเจ้าตัวตรงๆ ว่าจะไปชอบคนอื่นแล้ว ซึ่งมองจุดประสงค์ได้หลายความหมายขึ้นอยู่กับบริบทที่พูดไป

แต่กรณีที่ทำร้ายน้องเมมเบอร์ทางอ้อมแน่ๆ ที่ยกตัวอย่างมาคือการแคปคลิปที่น้องทำบนโลกโซเชียลเช่นไลฟ์ใน VOOV แล้วเอาไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างสนุกปาก ล้อเล่นจนเกินงามนั้นไม่สมควรอย่างยิ่ง ถือเป็นการคุกคามอย่างหนึ่งแม้จะไม่ใช่การกระทำต่อหน้าก็เถอะ และคนที่เสียก็มีแต่น้อง

5. รักษาความสะอาดของร่างกาย 

“โอตะ ทำไมกลิ่นตัวแรง” คิดว่าน่าจะต้องมีคนเคยได้ยินประโยคนี้แน่นอนไม่ว่าจะไปที่ตู้ปลา หรืองานจับมือ ซึ่งต้องยอมรับว่าโอตะบางคนก็กลิ่นตัวแรงจริงๆ เข้าใจอยู่ว่ากลิ่นตัวเป็นเรื่องธรรมชาติ คงไม่สามารถขอร้องให้ร่างกายหยุดขับกลิ่นตัวออกมาได้

แต่…มันก็ป้องกันได้ใช่ไหมล่ะ นั่นคือหาวิธีระงับกลิ่นกายตัวเอง อาจจะใช้โรลออนในเบื้องต้น หรือหากเป็นคนที่มีเหงื่อออกมากอยู่แล้ว หากต้องไปอยู่ในจุดที่มีคนเยอะก็ควรจะเอาเสื้อมาเปลี่ยนเพื่อให้บรรยากาศโดยรอบรื่นรมย์ ถ้าทุกคนพร้อมใจกันทำ อย่างน้อยปัญหากลิ่นตัวแรงเมื่อโอตะรวมตัวกันจะหมดไป

6. ปกป้องวงและเมมเบอร์แต่พองาม

เข้าใจได้ว่าเวลาคนที่เรารักหรือชอบโดนทำร้าย โอตะย่อมจะหัวร้อนอยากจะออกไปปกป้องก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่การออกไปปกป้องแบบไร้สติจะนำพามาซึ่งความเดือดร้อนของเมมเบอร์เอง ตัวอย่างที่ผ่านมาล่าสุดเป็นกรณีที่เฌอปราง, ปัญ และมิวสิค ไปออกรายการหนึ่ง แล้วโอตะไปถล่มพิธีกรเพราะพูดคำหยาบต่อหน้าน้องๆ

ต่อมาปัญ ก็อธิบายว่า “การที่เราไปออกรายการของพี่ๆ ก็เป็นหนึ่งในโอกาสดีๆ ของพวกเรา ที่จะได้เจอแฟนๆ ที่ไม่ใช่ทาร์เก็ตกรุ๊ปของเราในตอนแรก การที่ไปออกรายการเขา เขาก็ได้แฟนคลับใหม่เหมือนกัน ก็เหมือนช่วยๆ กันค่ะ อยากให้ทุกคนดูรายการอย่างมีความสุข” ตัวน้องเองไม่ได้รู้สึกว่าโดนคุกคาม และเข้าใจในบริบทของรายการ ดังนั้นอย่าไปหัวร้อนเลย

ยังมีอีกหลายกรณีที่โอตะบางคนไปโชว์หัวร้อนใส่เช่น ด่างานแถลงข่าวหนึ่งว่าทำไมแถลงข่าวนานเมื่อไหร่น้องจะออกมาโชว์ พอน้องๆ ออกมาร้องแค่เพลงเดียวก็ด่าว่าเสียเวลารอตั้งนาน โชคดีมีโอตะหลายคนไปช่วยเตือนสติว่า “ให้เกียรติเจ้าภาพหน่อย นี่งานของสินค้าเขานะเว้ย เขาชวนน้องมาร่วมงานก็ดีแล้ว” การที่โอตะไร้สติออกมาทำแบบนี้อาจจะทำให้สื่อ หรือแบรนด์เข็ดขยาดไม่กล้าเชิญน้องไปร่วมงานอีกก็ได้ แล้วผลเสียตกอยู่ที่ใคร…

7. เป็นมิตรต่อคนอื่นแม้ไม่ใช่โอตะ

โอตะบางคน (เน้นว่าบางคน) ก็ไม่เป็นมิตรกับบุคคลทั่วไปไม่ใช่ด้วยคำพูด แต่เป็นพฤติกรรมที่ระรานการใช้ชีวิตของคนอื่นทั้งตั้งใจก็ดีและไม่ตั้งใจก็ดีเช่น ไปยืนออกันเต็มหน้าตู้ปลาจนร้านค้าบริเวณนั้นขายของไม่ได้เพราะลูกค้าไม่สามารถเข้าร้านได้

หรือกรณีที่มีคอนเสิร์ตกลางแจ้งโอตะหลายคนก็ไปยืนออกันบนสะพานบีทีเอสจนคนอื่น ไม่สามารถเดินขึ้นบันไดได้อย่างถนัด พอมีการตักเตือนก็ชักสีหน้าใส่ กรณีนี้นอกจากจะไม่สร้างความน่ารักให้คนทั่วไปมองโอตะในมุมที่ดีแล้วยังพาลเกลียดวงด้วย

8. ให้เกียรติแฟนคลับหรือศิลปินวงอื่น

เรารักใครชอบใครเราก็เชียร์ของเราไป แต่ไม่ควรไปเกลียดหรือหมั่นไส้โอตะ หรือแฟนคลับศิลปินคนอื่นที่ไม่ได้ปลื้ม BNK48 เหมือนกัน การทำแบบนี้นอกจากจะเป็นพฤติกรรมที่ไม่มีมารยาทแล้ว หากย้อนกลับมาดูถ้าคุณโดนคนอื่นทำพฤติกรรมแบบนี้ใส่บ้างจะรู้สึกแย่แค่ไหน ดังนั้นข้อนี้มีหลักคิดสั้นๆ คือ…ใจเขา ใจเรา

9. แยกให้ออกระหว่างติเพื่อก่อ กับติเพราะอารมณ์ 

การติชมกิจกรรมของ BNK48 หรือการแสดงความเห็นในข่าวที่เกี่ยวกับ BNK48  เพื่อให้เกิดการพัฒนาไปข้างหน้านั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะถือว่าติที่ถูกจุดจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่ แต่โอตะบางคนเหมือนจะหัวร้อนไปกับทุกเรื่องเจออะไรไม่ถูกใจนิดหน่อยก็สติหลุดโวยวายเล่นใหญ่ด่าแบบสุดตัวทั้งที่บางเรื่องก็ไม่ควรจะเป็นเรื่อง นั่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่ได้

เข้าใจอยู่ว่าบางอย่างอาจไม่ถูกใจนัก แต่ก่อนจะติอะไรอยากให้ลองถอยมามองสักนิด บางทีมันอาจจะไม่ได้ผิดอะไร เพียงแค่ขวางหูขวางตา และทำไม่ถูกใจเราก็เท่านั้นเอง ดังนั้นถ้าจะติในสิ่งที่เราไม่ชอบใจลองคิดทบทวนให้ดีว่าเราติเพื่อก่อจริงๆ หรือเพราะแค่อารมณ์มันนำพาไป

10 . รักเมมเบอร์อย่างมีสติ 

ไม่ผิดอะไรที่เราจะสนับสนุนเมมเบอร์คนที่รักและชอบด้วยช่องทางต่างๆ อยากจะเปย์อะไรก็เปย์ไปเถอะ อยากจะรวมไปเงินไปทำป้ายแฮปปี้เบิร์ดเดย์เมมเบอร์ให้ศิลปินก็ทำเลย แต่ต้องมองย้อนกลับมาดูว่าเราเปย์ไปในลิมิตที่เราไหวไหม

บางคนเปย์เกินพอดีจนแทบจะหมดตัวกินโฟโต้เซ็ตแทนข้าวไปแล้ว รักน้องจะเปย์แค่บัตรจับมือใบเดียวหรือสิบใบก็ถือว่าเราได้แสดงความรัก และการให้การสนับสนุนแล้ว

ดาวโหลด ‘คู่มือการเป็นโอตะที่ดี – อต.101’ เวอร์ชั่น PDF ที่นี่