Mango Zero

วิธีขอโทษอย่างจริงใจ ที่คนให้อภัยอยากได้ยิน

ทุกวันนี้เราพูดคำว่าขอโทษด้วยความรู้สึกแบบไหน? รู้สึกผิดจากใจ หรือแค่พูดไปตามมารยาท เรื่องผิดพลาดเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ สิ่งแรกที่ทำได้คือการขอโทษอย่างจริงใจ ให้คนฟังรู้สึกว่าเราไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นจริงๆ แล้วการขอโทษแบบไหน ที่ได้ยินแล้วพร้อมจะให้อภัย?                   

รู้สึกผิดแล้วค่อยคิดจะขอโทษ

คำขอโทษจะจริงใจที่สุดเมื่อเรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ไม่ต้องสรรหาสารพัดคำสวยหรู หรือเหตุผลร้อยแปด คำขอโทษที่ออกมาจากใจ จะแสดงออกมาทางสีหน้า แววตา และท่าทางของคนพูด ที่คนฟังจะรู้สึกได้และพร้อมให้อภัยจริงๆ 

บอกเหตุผลของการกระทำ

ทุกการกระทำมีเหตุผลเสมอ บางอย่างเราอาจจะทำไปเพราะมีเหตุผล หรือไม่ได้ตั้งใจจริงๆ บอกเหตุผลเหล่านั้นกับคนที่เราอยากขอโทษ ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอะไร ขอให้เป็นความจริง ถ้ายิ่งโกหก แม้จะเพื่อความสบายใจ ถ้าคนฟังมารู้ทีหลัง นอกจากจะไม่ให้อภัยแล้วยังเสียความเชื่อใจกว่าเดิม

ยอมรับว่าตัวเองผิด อย่าคิดจะโทษคนอื่น

‘ขอโทษนะ แต่ว่า…’ ‘ถ้าเธอไม่ทำแบบนั้น ฉันก็คงไม่…’ ประโยคเหล่านี้ดูจะไม่มีความรู้สึกผิดเท่าไหร่ และอาจทำให้คนฟังรู้สึกว่าคนพูดพยายามหาข้ออ้าง หรือโยนความผิดไปที่คนอื่น ถ้ารู้สึกผิดและคิดจะขอโทษแล้ว ให้ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาหาคนผิด ให้คิดหาวิธีแก้ปัญหาและป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกดีกว่า

รับปากว่าจะไม่ทำอีก

ขอโทษเป็นร้อยครั้งก็ไม่มีประโยชน์ ถ้ายังทำผิดซ้ำๆ คนฟังอาจไม่อยากฟังคำขอโทษอีกต่อไป วิธีที่ดีที่สุดที่จะพิสูจน์ว่าเราไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องไม่ดี คือการรับปากว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ที่สำคัญคือรับปากแล้วต้องทำให้ได้ แก้วที่แตก กระดาษที่ยับอาจไม่กลับมาเหมือนเดิม แต่อย่าไปซ้ำเติมให้มันแตกร้าวไปมากกว่าเดิม

รับผิดชอบต่อการกระทำ

หลังจากขอโทษแล้ว ให้ถามว่าเราจะสามารถทำอะไรเพื่อให้คนที่เราขอโทษให้อภัย หรือรู้สึกดีขึ้นได้บ้าง แสดงถึงความรู้สึกผิดและพร้อมจะรับผิดชอบในการกระทำ 

ขอโทษจากใจ ไม่ใช่แค่พูดให้จบๆ

อย่าลืมว่าการพูดขอโทษไม่ใช่แค่ให้ความขัดแย้งจบลง แต่เป็นการแสดงความเสียใจต่อการกระทำและต่อคนที่เรากำลังขอโทษ การพูดขอโทษแค่ให้จบๆ ไป นอกจากจะไม่ทำอะไรดีขึ้นแล้วยังทำให้คนฟังรู้สึกแย่กว่าเดิม          

ที่มา medium