เผลอแปปเดียวก็กลับมาอีกแล้วกับการประกาศผลรางวัลลูกโลกทองคำ ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 76 แล้ว เป็นอีกหนึ่งรางวัลที่คอหนังทั่วโลกติดตามและเอาใจช่วยภาพยนตร์ที่ตนเองชื่นชอบ โดยรางวัลลูกโลกทองคำมีทั้งหมด 17 สาขาด้วยกัน ในปี 2019 นี้ ภาพยนตร์และซีรีส์เรื่องไหนจะได้รับรางวัลสาขาใดบ้าง นักแสดงคนโปรดจะได้รางวัลหรือไม่ ก็ตามมาดูกันได้เลย!

รางวัลลูกโลกทองคำแบ่งสาขารางวัลออกเป็น 2 ฝั่งก็คือฝั่งของภาพยนตร์ และฝั่งของภาพยนตร์โทรทัศน์ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อของซีรีส์นั่นเอง ปีนี้ภาพยนตร์ที่มาแรงสุด ๆ ฉุดไม่อยู่คือ “Green Book” นั่นเอง ถูกเสนอชื่อเข้าชิงถึง 5 รางวัล และได้รับรางวัลไปถึง 3 รางวัล เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จสุด ๆ และยังมีภาพยนตร์รวมไปถึงซีรีส์อีกมากมายที่น่าติดตาม จะมีเรื่องอะไรได้รางวัลใดบ้าง หรือมีเรื่องไหนน่าเก็บไว้ดูบ้างก็ตามมาดูผลรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 76 นี้ได้เลยจ้า

สาขาภาพยนตร์

รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์เพลง/ตลก และรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม : Green Book

จัดไปเต็ม ๆ 2 รางวัลกันภาพยนตร์ที่สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงอย่าง “Green Book” แบบไม่ต้องสงสัย กระแสแรงดีไม่มีหยุดจริง ๆ ตอนนี้ยังมีเข้าฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเราด้วย ถ้าใครอยากดูก็รีบเลย!

 

รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า : Bohemian Rhapsody

ถึงแม้ว่าจะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ติดลบมาบ้าง แต่ “Bohemian Rhapsody” ก็ยังคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปได้ แบบนี้ไม่รู้ว่าแฟน ๆ จะว่าอย่างไรบ้าง ใครชอบไม่ชอบเพราะอะไรก็อย่าลืมบอกกันด้วยนะ

 

รางวัลภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม : Spider-Man: Into the Spider-Verse

มาแรงแซงทุกโค้งจริง ๆ กับภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ทุกคนรอคอยอย่าง “Spider-Man: Into the Spider-Verse” ที่ได้รางวัลภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมไปครองแบบเท่ ๆ ไม่ต้องพูดมากกันเลยทีเดียว ตอนนี้ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้ก็กำลังมีฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์นะ เย็นนี้เลิกงานก็ไปดูกันได้!

 

รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า : Rami Malek จาก Bohemian Rhapsody

“Rami Male” ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมประจำปีนี้ไปได้ด้วยการรับบท “เฟร็ดดี้ เมอร์คิวรี” ฟร้อนท์แมนประจำวงในตำนานอย่าง “Queen” ถึงแม้ว่าจะเป็นบทที่หินพอสมควร แต่เขาก็ทำออกมาได้ดีและทำให้ใครหลาย ๆ คนจดจำเขาได้มากขึ้น

 

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ดราม่า : Glenn Close จาก The Wife

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ดราม่าปีนี้ก็ไม่พ้น “เกล็นน์ โคลส” จากบท โจอัน แคสเซิลแมน ภรรยาที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของสามียอดนักเขียน ซึ่งเกล็นน์สามารถถ่ายทอดเรื่องราวดังกล่าวออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ควรค่ากับรางวัลนี้สุด ๆ

 

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์เพลงหรือตลก : Christian Bale จาก Vice

“คริสเตียน เบล” ที่รับบทเป็นดิ๊ก เชนีย์ รองประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ ในภาพยนตร์ชีวประวัติของรองประธานาธิบดีดิ๊ก เชนีย์ นอกจากการแสดงจะดีแล้ว คริสเตียนยังลงทุนเปลีย่นลุคกันจนแฟน ๆ แทบจำไม่ได้เพื่อบทนี้อีกด้วยนะ

 

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์เพลงหรือตลก : Olivia Colman จาก Favourite

“โอลิเวีย โคแมน” ได้รับรางวัลนี้จากการรับบทเป็นพระราชินีแอนน์ของราชวงอังกฤษนั่นเอง โดยนักแสดงสาวทั้ง 3 คนจากภาพยนตร์เรื่อง Favorite ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมและนักสแดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม และโอลิเวียเป็นหนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัล

 

นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม : Regina King จาก If Beale Street Could Talk

นี่คือรางวัลหนึ่งเดียวจากภาพยนตร์ “If Beale Street Could Talk” ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงถึง 3 รางวัล โดย “เรจินา คิง” ได้รับรางวัลนี้จากการรับบทเป็นแม่ของตัวละครในเรื่องนั่นเอง ใครที่แอบเอาใจช่วยเธออยู่คงจะยิ้มกันจนแก้มปริ เพราะเธอเหมาะสมกับรางวัลนี้จริง ๆ

 

ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม : Justin Hurwitz จาก First Man

ภาพยนตร์เรื่องนี้คงติดตราตรึงใจใครหลาย ๆ คนไว้แน่นอน เพราะนอกจากภาพ และการแสดงที่น่าประทับใจสุด ๆ แล้ว ก็ยังมีดนตรีประกอบนี่แหละ ที่ช่วยเติมเต็มเหตุการณ์ต่าง ๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้ให้น่ากินใจ ตื่นเต้น และน่าประทับใจสุด ๆ

 

เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม : Shallow จากภาพยนตร์ A Star Is Born

เป็นที่พูดถึงกันไปพักใหญ่สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “A Star Is Born” ใครที่ได้เข้าไปดูในโรงภาพยนตร์คงฟินกันสุด ๆ เพราะเพลงในภาพยนตร์เรื่องนี้เพราะมากจริง ๆ ทำให้ไม่ผิดคาดเลยกับเพลง “Shallow” ที่ได้รางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปในปีนี้!

 

รางวัลนักแสดงสบทบชายยยอดเยี่ยม : Mahershala Ali จาก Green Book

ตามคาด! ตัวภาพยนตร์เองยังได้รางวัลลูกโลกทองคำไปถึง 2 รางวัล แน่นอนว่ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมก็ไม่พลาด ถือเป็นอีกหนึ่งรางวัลที่การันตีความดีงามของภาพยนตร์เรื่องนี้

 

รางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม : Roma

ไม่ผิดคาดจริง ๆ กับภาพยนตร์ดรามาที่เป็นที่พูดถึงอย่างมากในช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ หลังถูกนำเข้าฉายบน Netflix และเข้าฮายตามโรงภาพยนตร์ทั่วโลก ทั้งการกำกับการแสดง เนื้อเรื่อง การแสดง และองค์ประกอบต่าง ๆ ทำให้ “Roma” กลายเป็นภาพยนตร์ที่น่าจดจำและเหมาะสมสุด ๆ กับทั้ง 2 รางวัลดังกล่าว

 

สาขาภาพยนตร์โทรทัศน์

ซีรีส์ยอดเยี่ยม ประเภทดรามา : The Americans

นอกจากจะนักแสดงนำชายและนักสแดงนำหญิงจะถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขานักแสดงนำยอดเยี่ยมแล้ว ซีรีส์เองก็ได้รับรางวัลซีรีส์ยอดเยี่ยมประเภทดรามาอีกด้วย จัดให้เป็นซีรีส์มาแรงที่วินาทีนี้ใครไม่ดูถือว่าพลาดแล้วล่ะ

 

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากซีรีส์ประเภทดราม่า : Sandra Oh จาก Killing Eve

ชวดไปหวุดหวิดกับรางวัลซีรีส์ยอดเยี่ยม แต่นักแสดงนำหญิงชาวเกาหลี “ซานดร้า โอ” ก็คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมมาครองได้อย่างน่าภาคภูมิ แถมนี่ยังเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่นักแสดงชาวเอเชียได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากรางวัลลูกโลกทองคำด้วยนะ สุดยอดไปเลย!

 

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากซีรีส์ประเภทดราม่า : Richard Madden จาก Bodyguard

จัดไปอย่าให้เสียกับลุคเท่ ๆ คม ๆ ของ “ริชาร์ด เมดเดน” ลุคแบบนี้บาดใจสาว ๆ ที่ติดตามซีรีส์เรื่อง Bodyguard มานักต่อนักแล้ว สมกับการได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจริง ๆ ใครที่อยากหาซีรีส์เรื่องนี้ดูก็ตามไปดูกันได้เลยที่ Netflix เท่านั้น

 

ซีรีส์ยอดเยี่ยม ประเภทเพลง/ตลก : The Kominsky Method

ใครที่ดูซีรีส์เรื่อง “The Kominsky Method” บน Netflix แล้วก็คงเห็นพ้องต้องกันว่ารางวัลนี้เหมาะสมที่สุดแล้ว! เพราะนี่คือซีรีส์ที่พูดถึงชีวิตในวัยเกษียณได้อย่างแสบ ๆ คัน ๆ และตลกเป็นที่สุด ดูไปขำไปจริง ๆ

 

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากซีรีส์ประเภทเพลง/ตลก : Rachel Brosnahan จาก The Marvelous Mrs. Maisel

อดได้รางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมและซีรีส์ตลกยอดเยี่ยมไปสำหรับ “The Marvelous Mrs. Maisel” แต่นักแสดงนำสาวอย่าง “เรเชล” กลับคว้ารางวัลใหญ่อย่างรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมไปได้ ใครที่ยังไม่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ต้องรีบไปหามาดูเลยแหละ รับรองว่าจะหลงรักลุคสาวสวยของเธอและหลงรักการแสดงของเธอคนนี้อย่างแน่นอน

 

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากซีรีส์ประเภทเพลง/ตลก : Michael Douglas จาก The Kominsky Method

จัดไปอีกหนึ่งรางวัลสำหรับซีรีส์ Netflix สุดกวนอย่าง “The Kominsky Method” กับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากซีรีส์ประเภทตลก บอกแล้วว่าขอเขาดีจริง ๆ แสดงดีจนได้รางวัลลูกโลกทองคำแบบนี้ รับประกันได้เลยว่าซีรีส์เรื่องนี้ต้องฮาแน่นอน

 

มินิซีรีส์ยอดเยี่ยม : Assassination of Gianni Versace : American Crime Story

แฟน ๆ ซีรีส์อย่าง “American Crime Story” เมื่อได้ดูภาคแรกแล้ว ก็คงใจจดใจจ่อรอดูภาพต่อกันอย่าง“Assassination of Gianni Versace” ที่ออกฉายในวันที่ 17 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา นอกจากจะได้รับกระแสที่ดีแล้ว ยังคว้ารางวัลนี้ได้อีกด้วย น่าติดตามจริง ๆ !

 

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทมินิซีรีส์ : Patricia Arquette จาก Escape at Dannemora

“Patricia Arquette” ที่รับบทเป็นผู้คุมนักโทษสาวที่ดันไปมีความสัมพันธ์กับนักโทษก็ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมไปจากประเภทมินิซีรีส์ บทแปลกใหม่และน่าติดตามแบบนี้ ว่าง ๆ คงต้องหาดูบ้างแล้วล่ะ

 

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทมินิซีรีส์ : Darren Criss จาก Assassination of Gianni Versace: American Crime Story

จัดไปอีกหนึ่งรางวัลจาก “American Crime Story” การันตีคุณภาพของซีรีสืเรื่องนี้กันสุด ๆ เอาเป็นว่าใครที่ยังไม่เคยดู ต้องรีบไปหาดูด่วน ๆ ไม่งั้นตกเทรนด์จะหาว่าไม่บอกกันนะจ๊ะ

 

 

นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ประเภทมินิซีรีส์ : Patricia Clarkson จาก Sharp Objects

คว้าไปหนึ่งรางวัลกับซีรีส์เขย่าขวัญอย่าง “Sharp Objects” กับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม “Patricia Clarkson” เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ช่วยเติมเต็มให้ซีรีส์เรื่องนี้ยิ่งน่ากลัวและมีสีสันมากกว่าเดิม!

 

 

นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ประเภทมินิซีรีส์ : Ben Whishaw จาก A Very English Scandal

คุ้นหน้าคุ้นตากันมามากแล้วกับนักแสดงมากความสามารถอย่าง “เบน วิชอวร์” ตอกย้ำความสามารถของเขาไปอีกกับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากบท “นอร์แมน สก๊อต” นั่นเอง

ที่มา : Golden Globe