โดยปกติเราอาจคุ้นเคยกับโฆษณาของบริษัทประกันที่ค่อนข้างจริงจัง และไม่ค่อยจะเห็นโฆษณาประกันต่างชาติที่เล่าเรื่องเล่นๆ แต่พูดถึงปัญหา และการแก้ปัญหาในแบบจริงจังลงไปในโฆษณาสักเท่าไหร่ เนื่องจากคำว่าประกัน ดูเป็นโปรดัคที่จริงจัง น่าเชื่อถือเกินกว่าจะทำอะไรเล่นๆ แต่ Generali เห็นต่าง พวกเขาเชื่อว่าโฆษณาประกันใส่ความสนุกลงไปได้
ล่าสุดเจนเนอราลี่ ที่สเปน ปล่อยโฆษณาตัวใหม่เพื่อเล่าถึงแคมเปญ ‘Grand Problem, Grand Solution’ หรือ ‘ปัญหาใหญ่ก็แก้ให้ใหญ่’ นำเสนอทางออกที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าเสมอ ซึ่งถือเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจของเจนเนอราลี่ ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยด้วย
จุดเด่นของโฆษณานี้ก็คือการเล่าถึงวิธีแก้ปัญหาให้ลูกค้าด้วยวิธีคิดที่ว่า ‘แก้ปัญหาอย่างไรให้ใหญ่กว่าปัญหาของลูกค้า’ โดยโฆษณาเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ 3 แบบคือ ประกันชีวิต, ประกันภัยรถยนต์ และประกันภัยบ้าน ทุกชิ้นดูแล้วชวนอมยิ้ม และฟีลกู้ด ด้วยโปรดัคชั่นระดับฮอลลีวูดส์ ซึ่งเราจะมารีวิวโฆษณาทั้งสามชิ้นนี้กัน
ประกันชีวิต – ไม่ว่าจะสูงงงงง แค่ไหนก็ไปถึง
โฆษณาในหมวด ‘ประกันชีวิต’ ไอเดียก็คือการตั้งโจทย์ว่าคนเราถ้ามันจะดวงกุดสุดๆ แบบฉุดไม่อยู่ คิดว่าควรจะตกอยู่ในสภาวะไหนของชีวิตดี และโฆษณาเลือกที่จะเล่าว่าถ้าสมมติคุณไปปีนภูเขาน้ำแข็งแล้วเผลอติดอยู่บนนั้นใครจะไปช่วยคุณ แค่จินตนาการก็นึกไม่ออกแล้วว่าเจอปัญหาใหญ่ระดับนี้ใครจะไปช่วย
แต่อย่างที่บอกว่าคอนเซปต์ของโฆษณาคือคิดให้ใหญ่กว่าปัญหา ซีนต่อมาเจนเนอราลี่ ก็จัดเฮลิคอปเตอร์ไปช่วยเหลือพร้อมกับตัวช่วยที่แสนจะเซอร์เรียล คือแบกไดร์เป่าผมยักษ์ขึ้นไปด้วย (โอโห้! เซอร์เรียลอย่างกับหนังไมเคิล เบย์ )
แล้วกระบวนการช่วยเหลือก็เริ่มขึ้น ก่อนจบลงโดยสื่อให้เห็นถึงความสำคัญชีวิตของลูกค้าเจนเนอราลี่ ที่ไม่ว่าจะสูงแค่ไหนก็ไปถึง ไม่มีคำว่าสูงงงง วัดได้ถ้าใจถึงงงง (พอ! ร้องจนจบเพลงเลยไหม)
ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่นี่
ประกันภัยรถยนต์ – ลุยมากกว่านี้ก็อินเดียน่า โจนส์ แล้ว
โฆษณาในหมวด ‘ประกันภัยรถยนต์’ ก็มีการตั้งคำถามอีกเช่นกันว่าคนขับรถถ้าไม่ได้เจออุบัติเหตุแบบทั่วๆ ไป เขาควรจะตกอยู่ในสภาวะไหนที่ซวยในระดับที่ว่าไม่น่าจะมีใครช่วยได้ หรือจินตนาการไม่ออกเลยว่าทำไมถึงจะดวงตกได้ขนาดนี้
และภาพในโฆษณาก็ตัดมาเป็นผู้ชายคนหนึ่ง กับรถของเขาที่ไปตกอยู่กลางบึงน้ำในป่าดงดิบที่ไม่รู้ว่าจะมีใครโผล่มาช่วย และไม่รู้ว่ามาโผล่กลางบึงได้อย่างไร
แต่เจนเนอราลี่ ก็มาช่วยด้วยการขับรถฝ่าเข้ามาในป่าดงพงไพร พร้อมกับโยนฟองน้ำขนาดยักษ์ (….เห็นแล้วถึงกับอุทานว่า เช้ดดดดด เอาอะไรคิด) ลงไปแล้วดูดน้ำออกมาจนหมดบึง (น่ะ…นี่มันจะเซอร์เรียลเกินไปแล้ว) ถึงค่อยส่งทีมงานกู้ภัยลงไปช่วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งชิ้นที่เล่นใหญ่ และไปสุดจริงๆ
ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่นี่
ประกันภัยบ้าน – หมีบุกก็หยุดเราไม่ได้
โฆษณาในหมวด ‘ประกันภัยบ้าน’ ก็ถือว่าสร้างสรรค์ในการมองหาว่าคนหนึ่งคนจะพบความวิบัติของบ้านได้ด้วยวิธีไหนที่เห็นแล้วต้องอุทานว่า โห้ววว!
โดยเงื่อนไขคือต้องโอโห้ว มากกว่าปัญหาเบสิคอาทิ ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือโดนพายุ ซึ่งเหมือนจะซวยแต่ยังไม่สุดในทางนี้ ว่าแล้วทางครีเอทีฟก็เนรมิตรปัญหาให้มีหมีมาโจมตีบ้านเลย จบ เวรี่สร้างสรรค์
ส่วนโฆษณาก็โชว์ความสร้างสรรค์ในการจัดการปัญหาด้วยวิธีคิดใหญ่แบบเจนเนอราลี่ ด้วยการส่งทีมไล่หมีที่เอาน้ำผึ้งไปล่อด้วยรถขนน้ำผึ้งคันใหญ่ (เพิ่งรู้ว่ามันไล่หมีได้ง่ายขนาดนี้เลยเหรอ) แล้วค่อยส่งทีมงานเข้าไปซ่อมบ้านภายหลัง โฆษณานี่แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าภัยของบ้านจะเกิดจากธรรมชาติ สัตว์ หรืออุบัติเหตุ ก็พร้อมดูแล
ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่นี่
เบื้องหลังของความเล่นใหญ่
โปรดักชั่นส์ของโฆษณาทั้งสามชิ้นนี้จะบอกว่าจริงจังก็คงได้ เพราะทุกตัวใส่เทคนิคระดับจริงจังเข้าไปเพียบเทียบชั้นโปรดัคชั่นส์ซีรีย์ทุนสูง หรือภาพยนตร์เลยทีเดียว อย่างโฆษณาในชุด ‘ประกันชีวิต’ ก็ถ่ายทำในฉากกรีนสกรีน และพิถีพิถันกับการถ่ายทำทุกชุด ส่วนโฆษณาชุด ‘ประกันภัยรถยนต์’ ก็เซ็ตฉากรถตกน้ำกลางป่าขึ้นมาอย่างจริงจัง ประดิษฐ์ฟองน้ำยักษ์ขึ้นมาเองจริงๆ และค่อยไปซ้อนฉากป่าดงดิบอีกที
ส่วนโฆษณาในหมวด ‘ประกันภัยบ้าน’ ชุดหมีที่เห็นไม่ใช่กราฟฟิค แต่เป็นชุดหมีจริงๆ ที่สร้างขึ้นมา และมีคนใส่เจ้าหมียักษ์นั่นอยู่มองเผินๆ นึกว่าเอาหมีจริงๆ มาเล่นจริงๆ ทว่าไม่ใช่เลย ที่น่าชมเชยคือหมีน่ารักมาก
สัญญะที่แฝงในความจริงจัง
ถึงจะเหมือนเอาฮา ไม่เน้นขาย แต่ในความเป็นจริงหากพิจารณาดูโฆษณาทั้งสามชิ้นดีๆ เราจะเห็นสัญญะที่เจนเนอราลี่ อยากจะสื่อสองประเด็นคือ หนึ่ง ‘จริงจังกับการแก้ปัญหา’ จะเห็นว่าทุกปัญหามีความพยายามในการหาทางออกที่เราก็คาดไม่ถึง (หากเป็นชีวิตจริงก็เป็นทางออกที่มีความเป็นไปได้กว่าในโฆษณานะ) เสมอและมาพร้อมกับความช่วยเหลือที่จริงจัง (จะเรียกว่าเวอร์ก็ได้)
สอง ‘ใส่อารมณ์ขันให้’ ความตลกคือความบันเทิงที่เข้าถึงง่าย และยังทำให้ผู้ชมรู้สึกเป็นมิตรกับเจนเนอราลี่ มากขึ้น หากสังเกตดูทุกวิธีการแก้ปัญหาจะมีบางสิ่งที่เราคิดไม่ถึงโผล่มาในโฆษณาเช่น ไดร์เป่าผมยักษ์, ฟองน้ำยักษ์ และโหลน้ำผึ้งไซส์บิ๊ก ก่อนจะปิดท้ายให้คนจดจำด้วยการ ‘ขาย’ ว่าบริการนี้คือใคร และพวกเขาช่วยอะไรคุณได้บ้าง
บทสรุปของความเล่นใหญ่ ไม่ได้ ‘เล่นๆ’ แต่ ‘ทำจริง’
โดยรวมแล้วตัวโฆษณาสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ และตอกย้ำว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ไหนของชีวิต จะติดบนภูเขา หลงไปอยู่กลางบึง หรือเจอหมีมาดึงประตูบ้านเจนเนอราลี่ ยินดีที่จะให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไข นั่นหมายถึงถ้าสมมติว่าคุณตกอยู่ในอันตรายที่เข้าเงื่อนไขการคุ้มครอง ก็มั่นใจได้ว่าปลอดภัยชัวร์
แนวคิดนี้ไม่ครอบคลุมแค่ในสเปน แต่ยังเป็นนโยบายดูแลลูกค้าที่เจนเนอราลี่ ทุกสาขาทั่วโลกกว่า 60 ประเทศ รวมไปถึงในประเทศไทย ก็ได้รับการดูแลอย่างไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด
หากสนใจที่จะได้รับการดูแลแบบ ‘เล่นใหญ่’ ก็ลองปรึกษาเจนเนอราลี่ ประเทศไทยเพื่อให้ได้รับการคุ้มครองแบบยิ่งใหญ่ จริงจัง และกันเอง