Mango Zero

รีวิวเท่าที่(ต้อง)รู้ ความน่าสนใจของนาฬิกาสายคูล FENIX 7 vs EPIX จาก GARMIN Smart Watch

รีวิวเท่าที่(ต้อง)รู้ ความน่าสนใจของนาฬิกาสายคูล FENIX 7 vs EPIX จาก GARMIN Smart Watch

ท่ามกลางความอุดอู้ในยุคโควิด คงทำให้เหล่าผู้พิชิตเขาและนักกิจกรรมแห่งความฟิตคิดถึงชีวิตแบบเอาท์ดอร์อยู่ไม่น้อย บวกกับเทรนด์เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นไปบ่อยๆ ทำให้หลายคนอาจมีไอเทมที่อยากได้ ทดไว้ในสมอง และหนึ่งไอเทมที่ฮอต คงหนีไม่พ้น Smart Watch ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

เหมาะเจาะกับช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Garmin (การ์มิน) ผู้นำแห่งวงการนาฬิกาสมาร์ทวอทช์สาย Outdoor เปิดตัวไอเทมซีรีส์ใหม่ที่พร้อมยกระดับแอคทีฟไลฟ์สไตล์รับปี 2022 อย่าง GPS Smart Watch รุ่น FENIX 7 และ EPIX ที่สุดจะฉลาดและสามารถตอบสนองทุกกิจกรรมกลางแจ้งและในร่ม

ซึ่งทาง Mango Zero ก็ได้มีโอกาสไปทดลอง ไอเทมทั้ง 2 รุ่นพร้อม ๆ กัน (นาฬิกาเต็มแขน..แต่ไม่ได้ยืมเพื่อนมานะค้าบ) ฉะนั้น วันนี้เราจะมาขายของ..ไม่ชั้ยย! จะมารีวิวเท่าที่(ต้อง)รู้ กับไอเทมที่เรียกได้ว่าเป็นขั้นกว่าของสมาร์ทวอทช์ หลังจากที่ได้ลองไปใส่เดินป่ามาด้วย 4 กิโล!  

มาทำความรู้จักกับซีรีส์ใหม่ของ Garmin ทั้งตัว FENIX 7 และ EPIX กันว่ารุ่นนี้ได้พัฒนาจากซีรีส์ก่อนและมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ~ 

หน้าจอแสดงผล 

มาเริ่มต้นกันที่หน้าจอแสดงผล ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจะมีความโดดเด่นที่ไม่แพ้กัน แต่ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ภาพรวมของตัว FENIX 7 จะถูกออกแบบมาเพื่อไลฟ์สไตล์สมบุกสมบันและการผจญภัยอย่างแท้จริง ขณะที่ตัว EPIX จะเพิ่มระดับความหรูหราขึ้นมาอีกนิด ด้วยสโลแกน ‘WEAR EPIX, BE EPIC’ ตอบรับวิถีชีวิตแบบคนเมืองที่ชอบออกกำลังกาย 

สำหรับ FENIX 7 (7S / 7 / 7X)

>>  จะมีขนาดหน้าจอให้เลือกหลากหลาย ซึ่งตัวที่เราได้ เป็นรุ่น 7 ปกติที่มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 1.3 นิ้ว โดยสิ่งที่โดดเด่นอย่างมากในรุ่นนี้คือ หน้าจอแบบ Power Sapphire Solar ที่ทนทานต่อรอยขีดขวน และสามารถชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งในรุ่น 7X จะพิเศษขึ้นอีกนิด ด้วยการมีไฟฉายในตัว พร้อมด้วยไฟแฟลชสีแดง (SOS) ที่จะกระพริบเป็นรหัสมอร์สเพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดอันตราย

สำหรับ EPIX  

>> มีขนาดหน้าจอเดียวคือ 1.3 นิ้ว ที่มาพร้อมกับประเภทหน้าจอแบบ AMOLED ซึ่งมีความคมชัดยิ่งขึ้นและทำงานตลอดเวลา

**ทั้ง 2 รุ่นนี้ เป็น Touch Screen (ระบบสัมผัส) เหมือนกันจ้า 

**ข้อมูลของเราที่ขึ้นบนหน้าจอ จะเป็นการเชื่อมต่อกับแอป Garmin Connect ที่เราโหลดในมือถือน้า ซึ่งเราสามารถดูการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ หรือกิจกรรมต่างๆบนแอพได้ด้วยเช่นกัน

แบตเตอรี่อัพเกรด

เป็นอีกจุดหนึ่งที่โดดเด่นมากๆ และพัฒนาไปจากรุ่นก่อน ด้วยการอัพเกรดระบบแบตเตอรี่ให้สามารถใช้งานได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะตัว FENIX 7 ที่เขาเคลมว่ามีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานกว่าเดิม 3 เท่า

FENIX 7

>> โหมดนาฬิกาอัจฉริยะ : 18 วัน (ด้วยแสงอาทิตย์นานสุด 22 วัน)

>> โหมดประหยัดแบตเตอรี่ : 57 วัน (ด้วยแสงอาทิตย์นานสุด 173 วัน)

EPIX

>> โหมดนาฬิกาอัจฉริยะ : 16 วัน

>> โหมดประหยัดแบตเตอรี่ : 21 วัน

โหมดกีฬาในตัว (Multisport)

ส่วนนี้ถือว่าตอบโจทย์คนที่ชอบออกกำลังกายอย่างมาก เพราะทั้ง 2 รุ่นรองรับ Exercise ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมกลางแจ้งหรือว่ากิจกรรมในร่มที่มีมากกว่า 40 หมวด ซึ่งเราสามารถเลือกเข้าคอร์สของตัวเองได้ด้วยว่า ต้องการเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมประเภทไหนบ้าง 

เช่น เดินป่า ปีนเขา วิ่งเทรล ปั่นจักรยาน ไปจนถึงวินด์เซิร์ฟหรือดำน้ำ โดยตัวเครื่องได้ผ่านการทดสอบ United States Military Standard 810 ที่ช่วยการันตีความทนทาน ทนต่อแรงกระแทก  และอยู่ได้แม้ในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำ รวมถึงทนต่อฝุ่นละอองต่างๆที่ได้พบเจอ  

Adventure Vibes 

สำหรับฟีเจอร์สาย Adventure เป็นส่วนที่น่าประทับใจ เพราะนับว่าเป็นตัวช่วยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ดีมาก ๆ โดยเฉพาะตัวชูโรงของทั้ง 2 รุ่นอย่าง Real-time Stamina ที่ผู้ใช้จะสามารถติดตามศักยภาพร่างกายของตัวเองในขณะทำกิจกรรมได้แบบเรียลไทม์ เพื่อปรับกำลังและความพร้อมให้เหมาะสมกับภาวะร่างกายปัจจุบัน

ถ้าให้พูดง่ายๆก็คือ Real-time Stamina เป็นระบบที่ช่วยจัดการการออกแรง หรือใช้แรงของเราให้ได้ประสิทธิภาพนั่นเอง

อีกระบบที่ชอบคือ ClimbPro เป็นเครื่องมือช่วยวางแผนการปีน จากแผนที่ที่ดาวน์โหลดไว้ล่วงหน้า ให้เราได้เห็นพื้นที่ลาดเอียง พื้นที่ราบและวางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น

รวมถึงระบบ Up Ahead ก็เป็นตัวที่ช่วยกำหนดแผนก่อนการเดินทาง/ทำกิจกรรม ทั้งเส้นทาง จุด Checkpoint ที่ปักหมุดไว้ล่วงหน้า จุดดื่มน้ำและเส้นทางอื่น ๆ

Sleep & Stress

อาจจะเป็นฟีเจอร์ที่มีใน Smart Watch ยี่ห้ออื่นหรือทั่วไป แต่ก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่เราได้ลองใช้กับนาฬิการุ่น EPIX (ลองใส่นอนด้วย) กับระบบวิเคราะห์การนอนและความเครียดต่างๆ ที่เราได้พบเจอมาในแต่ละวัน 

ซึ่งฟีเจอร์ Sleep นั้นก็จะตรวจจับการนอนเราแบบละเอียดมาก ๆ แบ่งเป็น 4 ขั้นให้เราเห็นแบบชัดๆ ตั้งแต่ Deep / Light / REM / Awake และใช่ค่ะ คืนนั้นเรานอนไป 4 ชั่วโมงกว่า ตื่นมา โดนในแอปขึ้นคุณภาพการนอนว่า ‘Poor’ (เหมือนโดนดุไปด้วยเลย55555)

เช่นเดียวกับระบบติดตามความเครียด การ์มินก็ได้ช่วยวิเคราะห์แบบละเอียดว่า วันๆเราเครียดไปกี่นาที และเครียดระดับไหนบ้าง ถึงแม้ในวันที่มีความรู้สึกว่าสนุกมากๆ แต่นาฬิกาก็สามารถจับความเครียดโดยไม่รู้ตัวของเราได้ด้วย .. เหมือนว่าจะเป็นไฟตรงหลังหน้าปัดที่ผ่านเข้าชั้นผิวหนังและตรวจจับความเครียดของเรา

ปล.วันนั้นเครียดจัดไป 1 นาทีถ้วน เซอร์ไพร์สมาก เพราะไม่รู้ว่าตัวเองเครียดตอนไหน55555

ฟีเจอร์ทั่วไป

 

ส่วนสุดท้ายนี้เป็นฟีเจอร์ทั่วไปที่มีอย่างการบอกสภาพอากาศ, Daily Routine ของเราอย่างการเดิน การใช้พลังงาน การเต้นของหัวใจและตัวชี้วัดสุขภาพอื่น ๆ อย่างการเผาผลาญแคลอรี่ และฟีเจอร์ที่เหมาะสมในสถานการณ์แบบนี้ หนีไม่พ้น การวัดระดับออกซิเจนในเลือดที่มีในนาฬิกาทั้ง 2 รุ่นนี้ด้วย 

นอกจากนี้ยังมีระบบติดตามการหายใจ ตั้งแต่ตอนหลับหรือแม้แต่ตอนเล่นโยคะ รวมถึงมีระบบติดตามพลังงานอย่าง Body Battery ซึ่งจะช่วยบอกกับเราว่า เมื่อไหร่ที่สามารถทำกิจกรรม หรือเมื่อไหร่ที่ต้องการพักผ่อน จากการวัดความแปรปรวนระบบร่างกายต่าง ๆ ทั้ง การเต้นหัวใจ ความเครียด การนอน และข้อมูลอื่น ๆ ร่วมกัน

 

ทั้งหมดนี้ จึงเป็นเหตุผลที่เราต้องบอกว่า Garmin เป็นไอเทมหนึ่งที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับผู้คนที่มาทางแอคทีฟไลฟ์สไตล์ สายเอาท์ดอร์ หรือสายคนเมืองที่ชอบออกกำลังกาย และเป็นตัวเลือกที่คิดว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย ตอบโจทย์กิจกรรมที่หลากหลาย

ส่วนตัวหลังจากที่ลองใช้แล้ว เราชอบรุ่น EPIX เพราะโดยรวมมีความหรูหราในแบบที่ผู้หญิง(รวมถึงผู้ชาย)ส่วนใหญ่น่าจะชอบกันนะฮะ