ทุกวันนี้ เรามีเครื่องมือและทฤษฎีต่างๆ เพื่อช่วยในการเรียนรู้และจัดการชีวิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Time Boxing ช่วยจัดตารางเวลา หรือ Pomodoro ที่ทำให้จดจ่ออยู่กับงานจนสำเร็จ คราวนี้เราจะพามาดูกฎ 2 ข้อที่จะทำให้เรียนรู้ได้เร็วจาก Elon Musk ผู้บริหารของเทสลากันบ้าง
อีลอน มัสก์ วิศวกร นักประดิษฐ์ และผู้บริหารที่หลายคนให้ความเคารพในเรื่องความคิดสุดเจ๋ง แต่การจะมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่แค่พรสวรรค์อย่างเดียว ต้องมีพรแสวงอย่างการอ่านหนังสือนับร้อยเล่ม และทำงานร่วมกับนักคิดอีกมากมาย นั่นทำให้เขาได้เรียนรู้และตกผลึกจนกลายมาเป็นสองข้อที่จะช่วยให้เรียนรู้ได้เร็วขึ้น
ทำความเข้าใจกับรากฐาน ก่อนจะไปส่วนต่างๆ ของต้นไม้
คนเรามีความสามารถในการเรียนรู้มากกว่าที่คิด เพียงแต่ว่าส่วนใหญ่มักเป็นการเรียนต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้ศึกษาความรู้พื้นฐานในเรื่องนั้นอย่างถ่องแท้ ทำให้สุดท้ายแล้วไม่สามารถนำข้อมูลมาต่อยอดได้ อีลอนเคยได้ให้ความเห็นไว้ใน Reddit ว่า เป็นเรื่องสำคัญที่จะมองการเรียนรู้เป็นเหมือนองค์ประกอบของต้นไม้ ตรวจสอบรากฐานและลำต้นให้แข็งแรง ก่อนจะไปถึงกิ่งก้านและใบไม้ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีอะไรให้แขวนอย่างมั่นคงเลย
กฎข้อที่ 1 รากฐานที่มั่นคง จะยืนยงได้อีกยาว
ต้นไม้นั้นมีส่วนประกอบมากมาย แต่ละอย่างมีหน้าที่ต่างกัน บางอย่างต้องมี บางอย่างอาจหาสิ่งอื่นมาแทนได้ นั่นแปลว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้มีค่าความสำคัญเท่ากัน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องเรียนรู้ ควรแบ่งออกเป็นสองสิ่ง คือส่วนประกอบที่ไว้ประดับกิ่งไม้ และส่วนประกอบที่อยู่กับฐานลำต้น
หรือเรียกอีกอย่างว่า รอบนอก และ แกนกลางนั่นเอง
อีลอนนั้นเชี่ยวชาญมากในการทำความเข้าใจว่าอะไรคือวัตถุประสงค์ สิ่งที่เป็นแกนกลาง และเมื่อเข้าใจในเรื่องนั้นอย่างลึกซึ้ง ก็สามารถต่อยอดไปยังส่วนอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น
คนส่วนใหญ่ทำในทางตรงกันข้าม เราเต็มไปด้วยความรู้เรื่องยิบย่อยที่สำคัญบ้าง ไม่สำคัญบ้าง แต่มักไม่สามารถเอามาเชื่อมโยงกันได้เท่าไหร่นัก ซึ่งเมื่อสะสมความรู้ในรูปแบบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายจะเปลืองพื้นที่สมองโดยไม่จำเป็น และนั่นไม่เรียกว่าการเรียนรู้ แต่เป็นการยัดเยียด
เปรียบเหมือนแท่งไม้จิ้งฟันขนาดเล็กรวมตัวกัน ดูเหมือนแข็งแรง แต่ก็หักได้ไม่ยากเย็น
ดังนั้นหากอยากเรียนรู้อยากรวดเร็ว ต้องดูว่าเรื่องพื้นฐานใดบ้างที่จำเป็นสำหรับเรื่องนี้ อาจจะช้า และเสียเวลาเพิ่มขึ้นในการวิเคราะห์ หรืออาจทำถึงขั้นย้อนไปเริ่มเรื่องอื่นก่อน แต่รับรองว่าคุ้มค่าแก่การพัฒนาทักษะแน่นอน
กฎข้อที่ 2 ไม่เชื่อมกัน ก็จำไม่ได้
นี่คือวิธีที่อีลอนใช้เพื่อพัฒนาธุรกิจและบริษัทจนเติบโตได้ในราวชั่วข้ามคืน เขาเริ่มจากรากฐานที่มั่นคง คือการเรียนรู้เรื่องเบสิคต่างๆ จนแตกฉาน หลังจากนั้นจึงเอาเรื่องพื้นฐานเหล่านั้นมาเชื่อมกันอย่างคล่องแคล่ว แล้วจึงค่อยขยายไปจนเกิดเป็น innovation ต่างๆ เขาไม่เคยเริ่มเรื่องใดแบบสุ่มหรือคาดเดา ทุกอย่างที่ทำและเกิดขึ้น เชื่อมต่อกลับไปยังฐานที่ลึกและมั่นคงได้ทั้งหมด
เหล่านักเรียนรู้ทุกวันนี้ไม่ใช่นักจัดสวน(แห่งความรู้) มือฉมัง แต่เป็นนักสะสมไม้ เรามักจะเดินไปนู่นมานี่ เก็บทุกสิ่งที่คิดว่าเข้าท่า และเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ จนไม้เล็กใหญ่เหล่านั้นล้นเต็มอ้อมแขน
และเมื่อเรามีไม้ดีๆ อยู่กองเบ้อเริ่ม สัญชาตญาตจะสั่งให้เราทำสิ่งหนึ่งตามธรรมชาติ นั่นก็คือการเผามัน
แน่นอน เราคิดว่าขนาดของเปลวไฟคือขนาดของความรู้ที่ท่วมท้นอยู่ในตัว แต่เมื่อไม้ไม่ใช่ประเภทเดียวกัน สุดท้ายแล้วสิ่งที่หลงเหลืออยู่ในกองไฟเหล่านั้น อาจไม่สามารถเอามาใช้ได้เท่าที่ควร
ขณะที่อีลอนสร้างต้นไม้ โดยเริ่มตั้งแต่ดินที่หนาแน่น รากที่แข็งแรง จนกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่อุดมสมบูรณ์
คุณก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เพียงแค่ต้องสร้างรากฐานที่แข็งแรง และทำทุกอย่างแบบเชื่อมโยงกัน
ที่มา entrepreneurshandbook