หนึ่งในเทรนด์การลงทุนที่กำลังมาแรงที่สุดใน พ.ศ. นี้ คิดว่าคงไม่มีใครไม่เคยได้ยินคำว่า ‘คริปโทเคอร์เรนซี’ อีกแล้ว โดยก่อนหน้านี้ Mango Zero เองก็เคยได้เขียนถึงความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคริปโทฯ กันมาบ้าง (อ่าน : ข้อควรรู้ก่อนเข้าสู่โลก ‘Cryptocurrency’) แต่ก็ยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าสนใจสำหรับเทรนด์การลงทุนในคริปโทฯ โดยเฉพาะเรื่องของกฎหมายการจัดเก็บภาษีคริปโทฯ ที่กำลังเป็นเรื่องฮอตฮิตและเป็นที่ถกเถียงกันหลากหลายแง่มุม วันนี้เราจึงได้รวบรวมคำถามและข้อสงสัยที่มือใหม่หลายคนอยากรู้ไปปรึกษาคุณวีระพล บดีรัฐ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายพัฒนาการให้คำปรึกษาลูกค้า หรือผู้เชี่ยวชาญ K WEALTH GURU ธนาคารกสิกรไทย เพื่อทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้เข้าใจมากขึ้น หากใครสนใจข้อมูลความรู้เรื่องเกี่ยวกับการลงทุนเพิ่มเติม ก็สามารถติดตามสาระความรู้ดี ๆ ได้ทาง K WEALTH แหล่งรวบรวมความรู้ด้านการลงทุนจากธนาคารกสิกรไทยได้ฟรีที่ www.kasikornbank.com/kwealth กันได้เลย นิยามของคริปโทฯ ตามกฏหมาย ? สำหรับ คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลนั้นตามกฏหมายแล้ว ถือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งไม่นับเป็นสกุลเงินในเชิงกายภาพ เป็นความหมายตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 เพื่อกำหนดนิยาม การกำกับดูแล การเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชน การประกอบกิจการ/เลิก เพิกถอนการอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และ พ.ร.ก. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2561 เพื่อกำหนดเงินได้จากคริปโทฯ ในการเสียภาษี ดังนั้นเงินได้ที่เกิดจากคริปโทเคอร์เรนซี ไม่ว่าจะเป็นการเทรดเพื่อสร้างกำไร, การสเตคเหรียญที่ให้ผลตอบแทนคล้ายเงินปันผล รวมไปถึงการขุดเหรียญและนำไปขาย ก็นับเป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษี ภาษีคริปโทฯ เรียกเก็บตอนไหน ? จากแถลงล่าสุดของกรมสรรพากร เมื่อ 28 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา สรุปได้ว่า เงินได้ของเราที่ต้องเสียภาษีคริปโทฯ กรณีที่ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการถือหรือครอบครองโทเคนดิจิทัล เรียกเก็บในรูปแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา(ภ.ง.ด.) จากเงินได้พึงประเมิน ที่ทุกคนต้องยื่นกันทุกปีนั่นเอง กำไรขั้นต่ำเท่าไหร่ ที่ต้องเสียภาษี ? อีกหนึ่งข้อสงสัยที่มือใหม่อยากรู้ นั่นก็คือ ถ้าเพิ่งเริ่มเข้าวงการเทรด ได้กำไรขึ้นต่ำเท่าไหร่ จึงจะต้องเสียภาษี คุณวีระพล บดีรัฐ K WEALTH GURU เองก็ได้ให้คำตอบว่า นักลงทุนจะต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด. ประจำปี โดยการคำนวณภาษีในอัตราก้าวหน้า 5-35% ซึ่งคิดจากเงินได้สุทธิทั้งปี คือเงินได้จากคริปโท เงินเดือน เงินจากธุรกิจ และรายได้อื่นๆ นำมาหักลบค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆ โดยถ้ามีเงินได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาท จะไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี ดังนั้น ในกรณีที่เป็นคนที่มีเงินได้จากคริปโทเพียงอย่างเดียว สถานภาพโสด และไม่มีรายการลดหย่อนภาษีอื่นๆ จะเสียภาษีต่อเมื่อมีเงินได้ทั้งปีจากคริปโทฯ ตั้งแต่ 210,000 ขึ้นไป ตัวอย่างการคำนวณภาษี ยกตัวอย่างการคำนวณภาษี กรณี นักลงทุน A มีกำไรจากคริปโทฯ 500,000 บาท กับนักลงทุน B มีกำไรฯ 1,000,000 บาท หากสมมุติว่าไม่มีรายได้อื่น ๆ ไม่มีรายการลดหย่อนภาษี และมีสถานภาพโสด จะสามารถลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาทอย่างเดียว อัตราภาษีที่จ่ายก็จะไม่เท่ากัน เนื่องจากการคำนวณภาษีในอัตราก้าวหน้า 5-35% หากเทรดคริปโทฯ ขาดทุน จะนำมาหักลบภาษีได้ไหม ? สำหรับการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.) จากเงินได้พึงประเมินนั้น อัปเดตจากแถลงการณ์ล่าสุดของกรมสรรพากร ณ วันที่ 28 มกราคม 2565 กำลังเสนอให้ออกกฎกระทรวง เพื่อให้นำผลขาดทุนมาหักกลบกับกำไรได้ในปีภาษีเดียวกัน โดยต้องทำการซื้อขายผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. เท่านั้น ถ้าเทรดแล้ว ยังเก็บเงินไว้ใน E-Wallet ยังไม่ถอนออกมา จะโดนหักภาษีไหม ? ในส่วนนี้ถือว่ายังต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเงินได้ หรือกำไรที่เกิดขึ้นแล้ว การยื่นภาษีคริปโทฯ ที่ถูกต้อง ทำอย่างไร? พูดมาถึงตรงนี้แล้ว หากจะต้องยื่นภาษีคริปโทฯ ให้ถูกต้อง นักลงทุนมือใหม่ ควรเตรียมตัวอย่างไร คุณวีระพล บดีรัฐ ก็ได้ให้แนวทางไว้ดังนี้ จดบันทึกกำไร/ขาดทุน ของแต่ละรายการไว้ นอกจากเพื่อยื่นภาษีแล้ว ยังเพื่อรู้สถานะกำไร/ขาดทุน ของแต่ละคน เมื่อครบปี ต้องยื่นภาษีในช่วง ม.ค.-มี.ค. ต้องนำเงินได้มาคำนวณเพื่อเสียภาษีตามอัตราก้าวหน้า 5-35% นอกจากนี้ กรมสรรพากรได้พูดถึงความเป็นไปได้ในการแก้ประมวล รัษฎากรมาตรา 50 ที่เกี่ยวกับภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยให้ทาง Exchange เป็นผู้หัก และนำส่งกรมสรรพากร และการเปลี่ยนประเภทการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีเฉพาะสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีลักษณะเป็นหลักทรัพย์ ซึ่งสองเรื่องนี้ยังคงเป็นประเด็นที่กรมสรรพากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องปรึกษาหารือ รวมถึงเปิดรับฟังความคิดเห็น เพื่อกำหนดนโยบายการจัดเก็บภาษีที่ทำได้จริงและเป็นธรรมกับนักลงทุนมากที่สุด หากมีรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติมหลังจากนี้ คงจะได้มาอัปเดตกันอีกครั้ง สามารถติดตามสาระความรู้ดี ๆ จาก K WEALTH แหล่งรวบรวมความรู้ด้านการลงทุนโดยผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารกสิกรไทยได้ฟรีที่ www.kasikornbank.com/kwealth ได้เลย ที่มา : K WEALTH, www.rd.go.th