ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยรายละเอียดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อีก 3 คนว่า เป็นสองสามีภรรยาที่มีประวัติเดินทางไปเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ฝ่ายชายเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งด้วยอาการไข้ ไอ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นบวก ขณะนี้รับการรักษาที่โรงพยาบาลทรวงอก ส่วนฝ่ายหญิงมีอาการไข้ ไอ หลังจากเดินทางกลับจากญี่ปุ่นได้ 3 วัน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร ผู้ป่วยรายที่ 3 เด็กชายวัย 8 ขวบ ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ แต่เป็นหลานชาย ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 1 อาการป่วยไม่มาก กำลังรักษาที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร
โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ ชี้แจงในวันที่ 26 ก.พ. ว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชายไทยได้เข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลด้วยอาการไข้ ไอ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. โดย “ผู้ป่วยปฏิเสธประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ เบื้องต้นได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นปอดอักเสบ และให้รักษาตัวในโรงพยาบาล”
ต่อมาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด ได้ตรวจอาการผู้ป่วยและสอบถามประวัติการเดินทางไปต่างประเทศอีกครั้ง แต่ผู้ป่วยปฏิเสธ จากนั้นผู้ป่วยได้เปิดเผยในช่วงสายว่าได้เดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง ทางโรงพยาบาลจึงได้แจ้งสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง
และย้ายผู้ป่วยเข้ารักษา ผลตรวจเบื้องต้นที่ออกมาในช่วงเย็นวันที่ 24 ก.พ. พบเชื้อโควิด-19 ปัจจุบันได้ส่งตัวเข้าไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลรัฐแล้ว
กรณีนี้ส่งผลให้บุคลากรทั้งแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลกลุ่มสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 30 คน ทั้งหมดได้รับการตรวจพีซีอาร์และตรวจเลือดเบื้องต้น ผลตรวจเป็นลบ ไม่พบเชื้อไวรัส แต่ยังต้องตรวจซ้ำในช่วง 7-14 วัน
ที่มา bbc.com