‘ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน’ ไม่ใช่ชื่อเพลง แต่เป็นประโยคแสดงความไม่ชัดเจน เดี๋ยวนี้มีความสัมพันธ์แบบที่เรียกว่าคนคุย แล้วต้องคุยนานแค่ไหนถึงจะได้คบ?
บางคู่สบายใจกับการคุยกันไปเรื่อยๆ แบบไม่ต้องมีสถานะ แต่จะรู้ได้อย่างไร ว่าเขาจริงจัง หรือแค่มีใจแต่ไม่อยากผูกมัด เอาเป็นว่าถ้าเคยเจอสถานการณ์เหล่านี้ก็เป็นไปได้ว่าเราอาจกำลังมีความสัมพันธ์แบบกลัวการผูกมัด
อาการกลัวการผูกมัด (Commitment Phobia) นอกจากหมายถึงการผูกมัดในความสัมพันธ์ ยังรวมไปถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญที่ต้องมีการให้คำมั่นสัญญากับคนอื่นด้วย
มีคำแสดงความไม่มั่นใจในบทสนทนา
ลองสังเกตดีๆ เวลาคุยกัน คนที่กลัวการผูกมัดมักจะไม่ค่อยใช้คำแสดงความชัดเจน หรือตอบอย่างไม่มั่นใจ เวลาถามอะไรก็มักจะให้คำตอบกว้างๆ แบบไม่ชัดเจน และแทบไม่เคยคุยกันจริงๆ จังๆ ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเรา
คุยทุกวันแต่ไม่เรียกกันว่าแฟน
เดี๋ยวนี้คู่รักมักจะคุยกันไปเรื่อยๆ แบบไม่ต้องมีคำนิยามให้ความสัมพันธ์ ถ้าเป็นแบบนี้แล้วสบายใจทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการความชัดเจน ในขณะที่อีกฝ่ายไม่อยากระบุสถานะ ก็อาจเป็นสัญญาณว่าเขาไม่อยากผูกมัด
ใกล้ชิดทางกาย แต่ใจไม่ผูกมัด
คนที่กลัวการผูกมัดก็ต้องการใกล้ชิดกับใครสักคนเหมือนกัน แต่มักเป็นความใกล้ชิดทางกายมากกว่าความผูกพันทางใจ เพราะฉะนั้นต่อให้ตัวจะอยู่ใกล้ ก็ต้องสังเกตว่าเขาทำให้เรามั่นใจในความสัมพันธ์แค่ไหน
ไม่ค่อยนัดหมายให้ชัดเจน
หลายครั้งที่นัดเพื่อนแล้วล่ม จนต้องนัดล่วงหน้าไม่กี่วัน หรือนัดกันกระทันหันเลยก็มี อันนี้ถือเป็นเรื่องปกติเพราะการจะรวมตัวหลายคนมันยาก แต่นัดเพื่อนไม่เหมือนนัดผู้ ถ้าเขาไม่เคยนัดล่วงหน้าหลายๆ วัน ไม่ค่อยบอกวันที่ชัดเจน ต่อให้เราเป็นฝ่ายชวน ก็จะมีความไม่แน่ใจอยู่ในคำตอบ เช่น เดี๋ยวดูก่อน อาจจะไป แบบนี้ต้องเตรียมเผื่อใจไว้ว่าความสัมพันธ์นี้มีความไม่ชัดเจน เพราะถ้าอีกฝ่ายอยากใช้เวลาร่วมกับเราจริงๆ เขาจะแบ่งเวลาเพื่อมาเจอเราให้ได้ ไม่ใช่ว่างเมื่อไหร่แล้วค่อยไปหา
ไม่เคยบอกรัก
คนกลัวการผูกมัดจะไม่ค่อยเปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง ไม่ใช่ปากไม่ตรงกับใจ แต่ ที่อีกฝ่ายไม่เคยบอกรักเรา ก็เป็นไปได้ว่าเขาไม่อยากรู้สึกผูกมัดทางใจกับใครสักคน
คาดเดาไม่ได้ว่าคิดอะไรอยู่
คนที่เราคิดว่ารู้จักดี จริงๆ แล้วเราอาจไม่รู้จักเขาเลยก็ได้ ถ้าเราไม่เคยคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไร บางวันเขาก็แสนดี แต่วันดีคืนดีอาจจะเฉยชา โดยที่เราไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เป็นแบบนี้ต่อไปอาจจะทำให้เหนื่อยใจและไปต่อไม่ได้ เพราะการกระทำของอีกฝ่ายไม่สม่ำเสมอเลย
เคยมีความสัมพันธ์ระยะสั้นมากกว่าคบกันยาวๆ
ถ้าความสัมพันธ์ที่ผ่านมาของอีกฝ่ายมักเกิดขึ้นในระยะสั้น หรือคบกันแบบไม่ผูกมัด มากกว่าคบกันจริงจังก็ถ้าไม่ใช่เพราะโดนอีกฝ่ายเท หรือมีเหตุผลที่ไปต่อไม่ได้จริงๆ ก็มีแนวโน้มที่เขาจะเป็นคนกลัวการผูกมัด แต่อย่าให้อดีตมากำหนดความสัมพันธ์ในปัจจุบัน ถ้าอีกฝ่ายพิสูจน์ให้เห็นว่าจริงจังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ ก็ไปต่อได้ไม่ต้องกังวล
ที่มา psychologytoday