CHER can be anything, CHER can do everything คงไม่เป็นการกล่าวเกินจริงไปเลย หากจะบอกว่า “เฌอปราง – เฌอปราง อารีย์กุล” ทัพหน้าผู้สง่างามของวงไอดอลกรุ๊ปแถวหน้าของประเทศไทยแล้ว เป็นได้ทุกอย่าง และทำได้ทุกสิ่ง เพราะนอกจากเธอจะเป็นสมาชิกคนสำคัญของ BNK48 ที่รับบทบาทตั้งแต่กัปตันยันโปรดิวเซอร์สเตจของรุ่นน้อง และล่าสุดกับการก้าวสู่ระดับบริหารในฐานะผู้จัดการทั่วไป หรือชิไฮนินของวง เธอยังโลดแล่นอยู่ในหลากหลายวงการ ตั้งแต่คอสเพลย์ตามตัวละครในอนิเมะที่ชื่นชอบ เป็นนักแสดงสาวเจ้าบทบาท ไปจนกระทั่งถึงการจับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สะท้อนให้เห็นถึงทักษะความสามารถรอบด้าน และความรับผิดชอบมากมายบนบ่าที่เฌอปรางพยายามรับผิดชอบอย่างเต็มที่ที่สุดในทุกวัน ก่อนจะเริ่มต้นหน้าใหม่ บทบาทใหม่ เรื่องราวใหม่ในชีวิตของเธอคนนี้ ขอเชิญชวนมาทบทวนสารพัดบทบาทของเฌอปรางไปพร้อมๆ กันอีกสักครั้งหนึ่ง Research Assistant ไอดอลและวิทยาศาสตร์ เส้นขนานที่มาบรรจบผสมผสานเป็น “เฌอปราง” แรกเริ่มเดิมที เฌอปรางมีความสนใจวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มีที่มาจากความสงสัยว่าสิ่งต่างๆ รอบตัวเกิดขึ้นได้อย่างไร เฌอปรางเป็นนักศึกษาภาควิชาวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี จากวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล (จบการศึกษาด้วยเกรดเฉลี่ย 3.46 และได้เกียรตินิยมอันดับ 2 เชียวนะ) และเคยเป็นผู้ช่วยนักวิจัย ทำงานกับอาจารย์ ดร. ทวีธรรม ลิมปานุภา และรุ่นพี่ ภัคพงศ์ รุ่งเรืองศรี กับโปรเจกต์ “การทดลองขวดสีน้ำเงิน (The Blue Bottle Experiment)” งานวิจัยเกี่ยวกับปฏิกิริยาเคมี สารละลายสีฟ้าในขวดทดลองจะเปลี่ยนไปไม่มีสียามทิ้งไว้ พอเขย่าก็จะกลับมาเป็นสีฟ้าได้อีกครั้ง ปี 2017 ภายหลังจากงานวิจัยชิ้นนี้ประสบความสำเร็จ งานวิจัยก็ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Royal Society Open Science ของประเทศอังกฤษอีกด้วย Cosplayer รู้หรือไม่!? ก่อนเป็นเมมเบอร์ BNK48 เฌอปรางเป็นคอสเพลย์เยอร์มาก่อน ไม่ว่าจะเคยได้ยินผ่านหูหรือไม่ แต่ “Runo Mochi” เป็นชื่อที่เฌอปรางใช้ในวงการ หากนำชื่อนี้ไปค้นหาบนเว็บไซต์ Google ก็จะเจอภาพเก่าๆ หลงเหลือพอให้รับรู้ถึงความจริงจัง ตั้งใจทำทุกสิ่งอย่างให้ดีที่สุดของเธอ เฌอปรางเริ่มแต่งคอสเพลย์ช่วงเข้ามหาวิทยาลัย และเริ่มเก็บเกี่ยวทักษะหลากหลายมากมายจาก ทั้งการตัดเย็บ แต่งตัว ทำอุปกรณ์ประกอบ รวมถึงเรื่องการแต่งหน้า จากเด็กสายวิทย์ที่ไม่สันทัดเรื่องเครื่องสำอาง ก็เริ่มสนุกสนานกับการครีเอตลุคใหม่ๆ ตามตัวละคร ตัวตนแตกต่างไปสุดทั้งทางสายวิทย์และสายศิลป์ ถือเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวอย่างหนึ่งที่ทำให้หลายต่อหลายคนตกหลุมรัก และเฝ้าติดตาม ค้นหาความเป็น “เฌอปราง” หญิงสาวที่ลงมือทำทุกสิ่งอย่างด้วยใจรัก กระทั่งขยายขอบเขตความเป็นไปได้ให้ไร้ที่สิ้นสุด BNK48 ครั้นจะจั่วหัวขึ้นมาเพียงแค่ว่าเป็น BNK48 คงไม่สมกับตำแหน่งและตำนานของเธอผู้นี้เอาเสียเลย เพราะแท้จริงแล้ว เฌอปรางแทบจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของ BNK48 เลยก็ว่าได้ แฟนคลับผู้โชคดีได้รับ DVD จากงานอีเวนต์ WE NEED YOU BNK48 กลายมาเป็นเมมเบอร์รุ่นที่ 1 รุ่นบุกเบิกของ BNK48 เมื่อปี 2017 ตั้งแต่วันที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่แม้แต่จะคุ้นเคยกับคำว่า “ไอดอล” เธอออดิชั่นเข้ามาอยู่จุดนี้ด้วยความรัก แม้ไม่คาดหวัง แม้อาจไม่ใช่ความฝันแต่แรกเริ่ม แต่เฌอปรางก็ตัดสินใจจะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เฌอปรางได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 16 เซ็มบัตสึซิงเกิลแรก “Aitakatta อยากจะได้พบเธอ” ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันวงคนแรกบนเวทีงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ “BNK48 The debut” และยังคงดำรงตำแหน่งเรื่อยมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ช่วงปี 2021 ที่มีเมมเบอร์รุ่นที่ 3 เข้ามาร่วมวง หากใครได้รับชม First Performance “First Rabbit” ต้องจดจำได้ดีถึงสายตาของพี่สาวคนนี้ที่มองน้องๆ อยู่บนเวทีด้วยความภาคภูมิใจและหยดน้ำที่เอ่อคลออยู่บริเวณขอบตา ไม่แปลกเลยที่เฌอปรางจะผูกพันกับน้องๆ เป็นอย่างมาก นอกจากเฌอปรางจะมีบทบาทอย่างมากในการดูแลเหล่ากระต่ายตัวแรก จนหลายคนขนานนามว่าเด็กๆ รุ่นที่ 3 เป็นรุ่นที่พี่เฌอเลี้ยงดูมากับมือ เฌอปรางยังรับหน้าที่โปรดิวเซอร์ประจำสเตจเทรนนี “Ganbare! Kenkyuusei” สเตจที่เปิดโอกาสให้เด็กฝึกแสดงฝีมือร้อง เต้น แสดงบนเวทีเธียเตอร์ โดยเฌอปรางทุ่มเททั้งใจคอยดูแลภาพรวม จัดลิสต์เพลง วางแพทเทิร์น พูดคุยกับคุณครู ผู้บริหาร ไปจนกระทั่งถึงทางญี่ปุ่นเพื่อดึงศักยภาพของรุ่นน้องออกมาให้ดีที่สุด และล่าสุดกับบทบาทของชิไฮนิน (Shihainin) หรือผู้จัดการทั่วไปของวง นำพาเฌอปรางนั่งแท่นระดับของผู้บริหาร ค่อยๆ ก่อร่างสร้างยุคสมัยของ “เฌอไฮนิน” ขึ้นมาตั้งแต่ซิงเกิลที่ 13 “Iiwake Maybe” เป็นต้นมา Actress เส้นทางดวงดาวของเฌอปรางไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นไอดอลเท่านั้น “การแสดง” เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่เข้ามาท้าทายเธอ เฌอปรางแจ้งเกิดในฐานะนักแสดงนำ กับบทบาทของ “พาย” จากภาพยนตร์แนวแฟนตาซีระทึกขวัญเรื่อง “Homestay” จนคว้ารางวัลรองชนะเลิศสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวทีสมาคมผู้กำกับและภาพยนตร์ไทยครั้งที่ 9 ภายหลังจากปี 2018 เฌอปรางก็ยังคงมีผลงานการแสดงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นหนังสั้น ซีรีส์ MV หรือแม้แต่ละครทางโทรทัศน์อย่างผลงานเรื่องล่าสุด “บุษบาลุยไฟ” ละครพีเรียดเรื่องแรก นำพาเฌอปรางย้อนเวลารับบทบาทเป็น “แม่ลำจวน” สาวสุดเฉลียวฉลาด ผู้มีชีวิตอยู่ในยุคต้นรัตนโกสินทร์ที่สตรีไม่ได้มีทางเลือกมากนัก Lifelong learner “นักเรียนรู้ตลอดชีวิต” ฉายาที่อาจไม่มีใครนิยาม แต่ตามมุมส่วนตัวของผู้เขียนเอง คิดว่าเป็นอีกคำหนึ่งที่ขมวดจบ บอกเล่าตัวตนของ “เฌอปราง – เฌอปราง อารีย์กุล” ได้ดี และอยากมอบให้เป็นอีกบทบาทของเธอ ตลอดชีวิตของเฌอปราง คือการเรียนรู้ที่มีหัวใจเป็นเข็มทิศนำทาง เพราะอยากรู้ที่มาที่ไปของสิ่งต่างๆ รอบตัว อยากเข้าใจระบบความเป็นไปของทุกสิ่งอย่าง จึงเดินเข้าไปสัมผัสโลกของวิทยาศาสตร์และการทดลอง เพราะมีไอดอลที่รักและมองเป็นแบบอย่าง จึงตัดสินใจออดิชันด้วยความไม่คาดหวัง แต่โอบกอดโอกาสครั้งสำคัญเอาไว้แน่น ลงมือทำทุกสิ่งอย่างให้ดีที่สุด และเพราะความผูกพันที่มีให้กับวงอันเป็นที่รัก อยากจะเป็นสื่อกลางระหว่างเมมเบอร์และฝ่ายบริหาร เฌอปรางจึงตัดสินใจนั่งลงบนเก้าอี้บริหาร สวมหมวกอีกใบกับหน้าที่ที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ร้องไห้ ผิดหวัง เสียใจ ไม่สมบูรณ์แบบ หากแต่เรียนรู้ที่จะยอมรับ และเติบโตขึ้นในทุกวัน ดวงตาของเฌอปรางเปี่ยมไปด้วยประกายความหวัง กระหายที่จะค้นพบสิ่งใหม่อยู่เสมอ เธอยังมีความฝันตั้งมั่นว่าสักวันหนึ่งจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เปิดโลกทัศน์ เปิดมุมมองใหม่ๆ มีความฝันอยากจะออกไปเยือนอวกาศ ข้ามผ่านชั้นบรรยากาศของโลก แล้วก้มมองโลกทั้งใบด้วยตาตัวเอง อาจจะฟังดูเพ้อฝัน อาจคล้ายว่าาเหนือความเป็นจริง แต่กับเธอผู้นี้ที่ลงไปเรียน ลงไปรู้ ลงไปสัมผัสทุกโอกาสด้วยความตั้งใจ คงไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีกแล้วสำหรับเฌอปราง – เฌอปราง อารีย์กุล การผจญภัยครั้งใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว! พบ “เฌอปราง อารีย์กุล” กับก้าวแรกในบทเรื่องราวบทใหม่ของชีวิตได้ที่งาน “iCreator Conference 2023 Presented by SUPALAI” งานมหกรรมรวมสุดยอดครีเอเตอร์ และแพลตฟอร์มชั้นนำระดับโลก ซึ่งชิไฮนินคนเก่งของพวกเราจะมาแบ่งปันประสบการณ์การทำงานทั้งในแง่ของเบื้องหน้าและเบื้องหลัง พร้อมบอกเล่ามุมมองต่อวงการ เพื่อร่วมเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญเพื่อผลักดัน T-POP ไทยไปให้ไกลยิ่งกว่าที่เคย ซื้อบัตร Early Bird #3 ราคา 2,200.- (จาก 3,500.-) ได้ที่: eventpop.me (จำนวนจำกัด!) อ่านบทความเกี่ยวกับบทบาทของเฌอปราง BNK48 ได้ที่ : Dear Cherprang แด่เธอ เฌอปราง..ผู้เป็นทุกอย่างให้ BNK48 และรับชมสัมภาษณ์ส่งท้าย BNK48 รุ่นที่ 1 ได้ที่