[NEWS] ชัชชาติ เบอร์ 8 กวาดคะแนนเลือกตั้งผู้ว่ากทม.สูงสุดในประวัติศาสตร์ ไปกว่า 1.3 ล้านคะแนน นับเป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่าหลังจากที่มีการเปิดตัวแคนดิเดตผู้ว่ากทม.คนใหม่ ในที่สุดก็ถึงวันชี้ชะตาชีวิตชาวกรุงเทพฯ ครั้งใหญ่กับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครหรือ สก.ในรอบ 9 ปี ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ของวันนี้ (22 พฤษภาคม) เป็นบรรยากาศที่ประชาชนส่วนใหญ่ตื่นตัวและออกไปใช้เสียงเลือกผู้นำท้องถิ่นกันมากขึ้น ตอกย้ำจุดยืนของคนเมืองที่ต้องการผู้นำที่แข็งแกร่ง เพื่อแก้ไขปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสิ้นสุดในเวลา 17.00 น. และมีการนับคะแนนเสียงซึ่งผลปรากฏว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระเบอร์ 8 เป็นว่าที่ผู้ว่ากทม.คนที่ 17 ด้วยคะแนนเสียง (อย่างไม่เป็นทางการ เวลา 23.00 น.) 1,375,978 คะแนน ชนิดที่ว่าเขียวยกแมพ คะแนนนำทุกพื้นที่ ขณะที่แคนดิเดตอีก 2 ลำดับถัดมาได้รับคะแนน ดังนี้ ที่ 2 สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เบอร์ 4 ได้ 252,922 คะแนน ที่ 3 วิโรจน์ ลักขณาอดิศร เบอร์ 1 ได้ 252,233 คะแนน โดยในช่วงที่คะแนนนำลิ่วเกินกว่า 50% ชัชชาติได้ออกมาแถลงขอบคุณ พร้อมระบุ “แปดปีที่แล้ว ผมถูกคลุมหัว ไม่ได้โกรธแค้น แต่เป็นความทรงจำที่เตือนใจเรา เมื่อไรที่ประชาชนทะเลาะกัน สุดท้ายแล้วจะมีกลุ่มคนที่ได้ผลประโยชน์ไป นี่คือบทเรียนสำคัญ” ซึ่งผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ทำให้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กลายเป็นว่าที่ผู้ว่ากทม.คนที่ 2 ถัดจาก จำลอง ศรีเมือง ที่สามารถชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงมากกว่า 50% ของผู้มาใช้สิทธิ (Absolute Majority) รวมถึงทำลายสิถิติ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ในปี 2556 ด้วยคะแนนเสียงเกิน 1.3 ล้านสูงสุดในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ ทางฝั่งพัทยายังมีการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาคนใหม่ โดยผู้ที่คว้าชัยคือ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ จากกลุ่มเรารักพัทยา ผู้สมัครเบอร์ 1 ซึ่งนับเป็นการเลือกตั้งผู้นำท้องถิ่นครั้งใหม่ในรอบ 10 ปีที่ชาวพัทยารอคอย และในขณะที่ทุกคนกำลังลุ้นตัวโก่งไปกับการเลือกตั้งผู้ว่า วันนี้ 22 พฤษภาคม ยังนับเป็นวันครบรอบ 8 ปี จากเหตุการณ์รัฐประหารที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช.ด้วย ถึงแม้จะได้ว่าที่ผู้ชนะในสมรภูมิเลือกตั้งครั้งนี้ เรายังคงต้องติดตามกันผลงานและการทำหน้าที่ของผู้นำคนใหม่ว่าเขาจะพากรุงเทพมหานครของชาวไทยเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนได้บ้าง ก็ต้องขอแสดงความยินดีและฝากความหวังไว้ด้วยนะฮะะ ให้สมกับการเป็น ‘อาสาผู้นำแห่งความหวัง’ มาร่วมทำงาน ทำงาน ทำงาน ไปด้วยกันทุกภาคส่วน ที่มา Thairath, Workpoint Today, iLawclub, มติชน
