วันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2564) สถานีเซนต์หลุยส์ ได้เปิดให้บริการแล้วเป็นวันแรก ซึ่งทำให้ตอนนี้มีสถานีในแนวเส้นทางของ BTS รวม 60 สถานี โดยทาง BTS แถลงว่า สถานีที่เปิดใหม่นี้จะไม่ถูกนำมาคิดราคาแก่ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น เนื่องจากอยู่ในแผนก่อสร้างตามแนวเส้นทางเดิมอยู่แล้ว
โดยตำแหน่งที่ตั้งของสถานีเซนต์หลุยส์ (S4) อยู่ตรงกลางระหว่างสถานีช่องนนทรี (S3) กับสถานีสุรศักดิ์ (S5) ตั้งอยู่บนบริเวณถนนสาทร เชื่อมแยกนราธิวาส มีสถานที่ในบริเวณโดยรอบ ได้แก่ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ สถานเอกอัครสมณทูตวาติกัน สถานเอกอัครราชทูตพม่า ธนาคารยูโอบี สำนักงานใหญ่สาทร และโรงแรมแอสคอทท์ รวมถึงสถานศึกษาใกล้เคียงอื่น ๆ ได้แก่ โรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษา โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ตลอดจนบริษัทเอกชนต่าง ๆ
ทว่าการเปิดสถานีเซนต์หลุยส์ในวันนี้ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวโซเชียลมีเดียว่า ในช่วงที่สถานีเซนต์หลุยส์จะยังไม่ถูกเปิดใช้งาน แต่ตัวรหัสสถานี S4 กลับถูกนำเข้ามารวมเป็นหนึ่งในสถานีที่ผู้โดยสารต้องเดินทางผ่าน และถูกนำไปคำนวณเพื่อเรียกเก็บค่าโดยสารตั้งแต่เริ่มถูกก่อสร้างในช่วงวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2562 มาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม BTS ระบุว่า ในการก่อสร้างแต่เดิมที BTS ไม่ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการเติบโตของย่าน จึงไม่ได้สร้างสถานีขึ้น แต่ได้จัดเตรียมตอม่อแบบพิเศษ ที่รองรับการก่อสร้างสถานีในอนาคตแทนการก่อสร้างตัวสถานี และเก็บรหัสสถานีไว้สำหรับการเก็บค่าโดยสาร ก่อนจะมีการเสนอฟื้นฟูโครงการใน พ.ศ.2558 ขึ้นมาใหม่ และเริ่มก่อสร้างใน พ.ศ.2562 จนแล้วเสร็จเมื่อกุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา
การเปิดให้บริการของสถานีเซนต์หลุยส์ถูกคาดการณ์ไว้ว่าจะทำให้จำนวนเที่ยวการเดินทางเพิ่มขึ้นประมาณ 9,500-12,000 คนต่อวัน และทำให้ BTS มีรายได้ค่าโดยสารเพิ่มขึ้นประมาณ 94 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้จากกระแสข่าวที่ BTS จะทำการปรับค่าเดินทางขึ้นในแต่ละรายสถานี จากรายงานระบุว่า BTS ยังจะคงเดินหน้าเพิ่มค่าโดยสารกับผู้โดยสารในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ โดยจะมีอัตราค่าโดยสารตั้งแต่ 15 – 104 บาท ตามที่กรุงเทพมหานครได้ประกาศเอาไว้
ที่มา The Matter