ถึงแม้จะไม่มีผลวิจัยออกมาชัดเจนว่า “การไปเที่ยว” มีข้อดีอะไรบ้าง แต่สมองและร่างกายเราแน่นอนว่าต้องการเวลาพักผ่อน ที่ได้พัก หยุดเพ่ง หยุดใช้ความคิดจดจ่อกับการแก้ปัญหาและหยุดความคิดเครียดๆ เอาไว้ก่อน
เคยสังเกตุกันไหมว่าบางทีเราต้องการชาร์จแบตให้ร่างกายและสมองกันทั้งนั้น เรามักรู้สึกมีแรง สดชื่นกันในวันจันทร์ (ถ้าไม่นับเรื่องตื่นเช้า) เพราะเราได้หยุดพักในวันเสาร์อาทิตย์นั่นเอง ซึ่งการพักนี่แหละที่ทำให้เรารู้สึกสดชื่นและการทำงานของร่างกายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นไม่มากก็น้อย
มนุษย์ชาวทำงาน ไม่ว่าจะพนักงานออฟฟิศหรือคนทำงานทั่วๆ ไป ที่มีวันทำงานกว่า 5 วันในหนึ่งอาทิตย์ซ้ำๆ กันมีวันลาก็ไม่ได้ใช้กลัวเคลียงานไม่เสร็จ พอจะลาก็ดันติดโปรเจคใหญ่ ต้องหอบงานไปทำตอนเที่ยวอีก เรามาดูผลวิจัยจาก Expedia เกี่ยวกับมนุษย์ชาวทำงานกันหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง
- 80% รู้สึกเครียด
- 92% ทำงานกว่า 40 ช.ม. ต่อสัปดาห์
- 57% ไม่ได้ใช้วันลาจนสิ้นปี
ไปเที่ยวดียังไง ?
ต่อสมอง
- พัฒนาความจำและการเรียนรู้ใหม่ๆ
- แก้ปัญหา และมีไอเดียใหม่ๆเพิ่มขึ้น
- ตัดสินใจได้ดีขึ้น ผลสำรวจบอกว่าหลักจากเรามีสภาวะผ่อนคลายเช่นหลังเดินเล่น หลังงีบ กระบวนการตัดสินใจของเราจะดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะสมาธิและความจำ ซึ่งจะช่วยให้เรามีการตัดสินใจที่ดีขึ้น
- จากผลวิจัยของ Harvard Medical School พบว่าเมื่อสมองและจิตใจได้พักผ่อนเราจะปลดล็อคความสามารถใหม่ๆ และเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น และเร็วขึ้น
ต่อสุขภาพ
- อายุยืนขึ้น คนทำงานที่ไปเที่ยวบ่อยๆ จะลดความเสียงโรคได้ถึง 21% (โรคหัวใจ, ปอด และเลือด)
- หัวใจแข็งแรง ผลวิจัยจาก Framingham Heart Study พบว่าคนที่ไม่ไปพักร้อนเลยใน 2-3 ปีจะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจวายถึง 30%
ต่อคุณภาพชีวิต
- เพิ่มแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์
- นอนหลับเต็มอิ่มมากขึ้น
- ทุกๆ 10 ช.ม. ที่ได้เวลาพักผ่อนจากงาน เราจะทำงานได้ดีขึ้นอีก 8% จากการประเมินศักยภาพการทำงานทั้งปีนั้นๆ (ข้อมูลจาก Ernst & Young,2006)
- หดหู่น้อยลง
ใครเห็นแบบนี้แล้ว ถ้าวันลายังเหลือ เคลียงานให้เรียบร้อยแล้วหาวันเหมาะๆ แล้วไปพักร่างพักสมองสัก 2 – 3 วัน เพื่อชาร์จแบตตัวเอง อย่าหักโหมทำงานจนร่างกายพังกันนะ
ที่มา : Expedia Canada, CNN, DailyMail