ว่ากันว่าการคิดจะเปลี่ยนแปลงสิ่งใดสิ่งหนึ่งในโลกนี้ให้ดีขึ้น จุดเริ่มต้นที่ง่ายและใกล้ตัวที่สุดก็คือการเริ่มเปลี่ยนแปลงมันจากตัวเราเองนี่แหละ! แนวคิดนี้สามารถใช้ได้กับหลายอย่างที่เกิดขึ้นในสังคม และนั่นรวมไปถึงสิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงอย่างแนวคิดรักษ์โลกง่ายๆ แค่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใกล้ตัวเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น วันนี้เป็นคิวของเหล่ามนุษย์ออฟฟิศ มาดูกันว่าเราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในออฟฟิศให้ช่วยโลกได้ยังไงกันบ้างงง พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย บิงโก! ใช้ภาชนะใส่อาหารแบบใช้ซ้ำได้ ไม่ว่าจะเป็นจาน ชาม ช้อน ส้อม แทนที่จะใช้ภาชนะจำพวกที่ใช้ได้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเลย ลองเปลี่ยนมาใช้ภาชนะที่สามารถล้างเก็บไว้ใช้ครั้งต่อๆ ไปได้เพื่อลดขยะกัน แยกขยะก่อนทิ้ง ในหลายออฟฟิศมักจะมีการรณรงค์เรื่องนี้กันอยู่แล้ว การแยกขยะจะช่วยให้สามารถนำขยะของเราไปจัดการได้ง่ายขึ้น โดยแยกถังออกเป็นขยะทั่วไป ขยะเศษอาหาร ขยะรีไซเคิล ส่วนขยะรีไซเคิลเช่น แก้วกาแฟ แก้วชานมไข่มุกทั้งหลาย ถ้าเป็นไปได้ควรล้างให้สะอาดก่อนทิ้ง จะช่วยให้นำไปรีไซเคิลได้ง่ายที่สุด ไม่ทานข้าวเหลือ กินน้อยสั่งน้อย ถ้าคิดว่าทานไม่หมดก็ลองแกล้งๆ บอกคุณป้าร้านข้าวดูว่าไม่ต้องให้หนูเยอะค่ะป้า นั่นก็เพราะว่าพวกเศษอาหารเหลือต่างๆ จะกลายเป็น Food Waste ซึ่งกระบวนการทำลายขยะเหล่านี้นำมาซึ่งก๊าซมีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำลายชั้นบรรยากาศ ปฏิเสธถุงพลาสติก ออกไปร้านสะดวกซื้อแต่ละทีก็มักจะได้ถุงพลาสติกมาแบบนับไม่ถ้วน สถิติจากสำนักงานจัดการมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล เมื่อปี 2561 ระบุว่า คนกรุงเทพฯ 1 คน ใช้ถุงพลาสติกเฉลี่ยวันละ 8 ใบ ซึ่งการที่เราใช้ถุงเหล่านี้เพียงไม่กี่นาที หลังจากเลิกใช้ไปแล้วกลับต้องใช้เวลาย่อยสลายถึง 450 ปี!! ดังนั้นมาปฏิเสธถุงลาสติกไปด้วยกันเถอะ ใช้กระดาษทั้ง 2 ด้าน แม้ว่าการผลิตกระดาษมักจะใช้ต้นไม้ที่ปลูกขึ้นมาใหม่เพื่อไม่ให้รบกวนธรรมชาติ แต่ในกระบวนการผลิตกระดาษ 1 ตัน นอกจากต้นไม้แล้วยังต้องใช้ไฟฟ้ามากถึง 10,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง ดังนั้นมาใช้กระดาษให้คุ้มค่าด้วยการใช้ทั้ง 2 ด้านกันเถอะ!! งดใช้หลอดพลาสติก หลายคนอาจจะสงสัยว่าแค่การใช้หลอดพลาสติกของเรา สามารถไปมีผลถึงเต่าทะลได้ยังไง นั่นก็เพราะว่าปัจจุบันบ้านเรายังมีการกำจัดขยะมูลฝอยที่ไม่ถูกวิธีอยู่มากถึง 81% นั่นทำให้มีขยะจำนวนไม่น้อยถูกทิ้งให้ลอยอยู่ในทะเล จนกลายที่มาว่าทำไมหลอดพลาสติกที่เราใช้กันมันถึงสามารถเข้าไปอยู่ในจมูกเต่าได้นั่นเอง พกขวดและแก้วน้ำส่วนตัว ร่างกายคนเราต้องการน้ำสะอาดวันละประมาณ 2 ลิตร ดังนั้นสิ่งที่ตามมากับน้ำดื่มก็หนีไม่พ้นขยะขวดพลาสติก ลองเปลี่ยนมาใช้แก้วน้ำหรือขวดน้ำของตัวเอง นอกจากจะประหยัดแล้วยังช่วยโลกได้จริงๆ นะ! ปิดหน้าจอคอมช่วงพักเที่ยง เมื่อออกไปทานข้าวเที่ยง การปิดหน้าจอคอมด้วยสวิตซ์ปิด Sleep หรือโหมด Screen Saver สามารถช่วยเราประหยัดพลังงานได้ 30-60% เมื่อไม่ใช้งานก็อย่าจากน้องไปเฉยๆ กดปิดน้องสักนิดก็จะช่วยทั้งรักษาจอคอมของเราและประหยัดไฟได้แล้ววว ใช้ขนส่งสาธารณะ ข้อนี้ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว มันอาจจะยากสักหน่อยในแง่การปฏิบัติเพราะขนส่งสาธารณะในบ้านเราก็ไม่ได้เอื้อต่อการเดินทางในตอนเช้าตรู่มากนัก แต่หากเป็นไปได้ก็ใช้การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ หรือถ้าเป็นรถยนต์ ทางเดียวกัน มาด้วยกันได้ก็จะดี ปรินท์เฉพาะเอกสารที่จำเป็น เชื่อว่าหลายออฟฟิศยังคงต้องใช้การพิมพ์เอกสารออกมาเป็นแผ่นกระดาษมากกว่าการทำงานกับไฟล์ในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต แต่เรื่องนี้มันเริ่มต้นกันได้! ลองลดการใช้เครื่องปรินท์เอกสารให้เหลือเท่าที่จำเป็นจริงๆ หันมาใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ลดการใช้พลังงานทั้งจากเครื่องปรินท์ ลดการสิ้นเปลืองจากตลับหมึกและกระดาษได้ด้วย! ลดความถี่ในการซื้อเสื้อผ้า สำหรับหลายคน การเดินทางไปทำงานทุกวันคือรันเวย์ แฟชั่นต้องมาก่อน แต่รู้ไหมว่ากว่าจะได้เสื้อผ้าแต่ละตัว (ที่บางครั้งเราได้ใส่จริงๆ ก็ไม่เกิน 3 ครั้ง ที่เหลือเก็บเข้าตู้) ต้องผ่านกระบวนการผลิตที่เสียทั้งน้ำ พลังงานไฟฟ้า รวมถึงสร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมผ่านการซัก ฟอก ย้อมสี และการตัดเย็บ ดังนั้นคิดให้มากขึ้นก่อนจะซื้อกันเถอะ นำเสื้อผ้าเก่าไปบริจาคบ้าง เสื้อผ้าตัวเดิมที่เราเบื่อแล้ว ก่อนที่มันจะกลายไปเป็นขยะและผ่านกระบวนการทำลายต่อไป ลองยืดอายุให้กับเสื้อผ้าเหล่านี้สักนิดด้วยการนำเสื้อผ้าเก่าแต่ยังสภาพดีไปบริจาคให้กับคนที่เขาต้องการ เช่น มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิบ้านนกขมิ้น วัดพระบาทน้ำพุ เป็นต้น ไม่กดลิฟต์ชั้นติดกัน ข้อนี้อาจจะยากสักหน่อยสำหรับออฟฟิศที่มีระบบความปลอดภัยเรื่องลิฟต์ที่ทำให้ไปได้แค่ในชั้นที่เราอยู่เท่านั้น แต่สำหรับออฟฟิศไหนที่สามารถใช้ลิฟต์ไปชั้นอื่นได้ ลองใช้วิธีการลงลิฟต์ชั้นเดียวกับคนที่อยู่ชั้นติดกับเรา แล้วเดินขึ้นหรือลงอีก 1 ชั้น เพื่อลดพลังงานในการเปิดปิดประตูลิฟต์ไปได้อีกชั้นหนึ่ง กินอาหารที่ร้านมากกว่าสั่งเดลิเวอรี่ วิถีมนุษย์ออฟฟิศที่มักจะเบื่อหน่ายกับอากาศร้อนๆ และคนเยอะๆ ข้างนอกทุกวันนี้ ก็คือการใช้บริการ Food Delivery แทนการเดินออกไปทานด้านนอก แต่สิ่งที่เราหลงลืมกันไปคือ การสั่งอาหารแบบกลับบ้านมาทาน 1 ครั้ง ตามมาด้วยขยะพลาสติกอีกหลายชิ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นกล่องใส่ข้าว ถุงใส่น้ำซุป ช้อน ส้อมพลาสติก และยังมีถุงพลาสติกที่พี่แกร็บใช้หิ้วมาถึงออฟฟิศเราอีก ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ออกไปทานข้าวในร้านที่ใช้ภาชนะแบบล้างได้ หรือถ้ากลัวว่าออกไปแล้วจะไม่มีที่นั่ง นำภาชนะไปใส่จากที่ร้านกลับเข้ามาก็ไม่เสียหาย! ใช้ปากกาแบบเติมหมึก เพราะปากกาแบบใช้แล้วทิ้งที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั้นไม่สามารถทำไปรีไซเคิลต่อได้ สร้างขยะย่อยสลายไม่ได้นับหมื่นล้านด้ามต่อปีจากทั่วโลก ลดการใช้ทิชชู่ ไม่ว่าจะเป็นบนโต๊ะอาหาร โต๊ะทำงาน หรือในห้องน้ำ ใครที่เคยชินกับการเข้าห้องน้ำแล้วดึงทิชชู่ออกมายาวหลายตลบ ลองเบามือกับการใช้ทิชชู่กันนิดนึง หยิบออกมาเท่าที่ใช้ก็ช่วยโลกได้แล้วนะ : ) ที่มา : Upppackaging, Thainews , RePlanet, Matichon