**ข้อมูลเมื่อ 9.30 น. วันที่ 27 ธันวาคม
โครงการก้าวคนละก้าว โครงการสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีของพี่ตูนที่ทำให้คนประเทศร่วมใจกันเห็นถึงความสำคัญของศักยภาพการรักษาของโรงพยาบาล ซึ่งในที่สุดโครงการนี้ก็ได้บรรลุเป้าหมายไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ที่ผ่านมา ที่นับว่าเป็นการเฉลิมฉลองสิ้นปีให้คนไทยทั้งประเทศได้รับความสุขจากการให้ และได้ส่งแรงใจไปถึงพี่ตูนและทีมงานก้าวกันเป็นเวลากว่า 55 วัน
55 วันนี้ ทางทีมงาน Mango Zero ก็เป็นอีกกลุ่มคนเล็กๆ กลุ่มหนึ่งที่เอาใจช่วยพี่ตูนและทีมงานอยู่เสมอ เราจึงขอสรุปตัวเลขต่างๆ ในโครงการนี้ให้ได้ชมกันถึงความสำเร็จที่เกินคาดและยิ่งใหญ่ของโครงการนี้กัน
**ข้อมูลเมื่อ 9.30 น. วันที่ 27 ธันวาคม 2560
ยอดเงินบริจาคประมาณ 1,228,963,086.15 บาท มอบให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โดยตอนนี้ยอดบริจาคก็ยังวิ่งไปเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดชะงักลง โดยสามารถเข้าไปดูยอดบริจาคได้ที่นี่
โดยยอดบริจาคของโครงการก้าวคนละก้าวนั้นพี่ตูนได้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 700 ล้านบาท ซึ่งพี่ตูนได้กล่าวไว้ว่า ถ้าคนไทยช่วยคนละ 10 บาท การก้าวไปสู่ 700 ล้านบาทนั้นไม่ใช่เป้าหมายที่ไกลเกินเอื้อม แต่พี่ตูนก็ได้ก้าวไปไกลกว่าเป้าหมาย เพราะตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม ยอดบริจาคก็พุ่งไปถึง 725 ล้าน บาทแล้ว
นอกจากยอดบริจาคจากทางช่องทางต่างๆ พี่ตูนยังได้เปิดประมูลรองเท้าที่ใช้ในการวิ่งซึ่งพี่ตูนได้เซ็นลายเซ็นและตั้งชื่อให้รองเท้าตามเหตุการณ์ที่เจอระหว่างก้าว รวมรองเท้าที่พี่ตูนเอามาประมูลทั้งหมด 12 คู่ ได้เงินบริจาคมาอีก 6.67 ล้านบาท
รวมรองเท้าประมูล 12 คู่ ที่พี่ตูนใส่ใน โครงการก้าวคนละก้าว กับเรื่องราวความประทับใจในทุกๆ ก้าวของแต่ละคู่
ระยะทางจากใต้ขึ้นเหนือ เบตงสู่แม่สาย เป็นระยะทางกว่า 2,191 กิโลเมตร ที่เป็นระยะทางที่มากกว่าคนบางคนวิ่งทั้งชีวิตด้วยซ้ำ แต่พี่ตูนก็ทำสำเร็จในช่วงระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน มีบาดเจ็บจนต้องหยุดพักไปบ้าง แต่พี่ตูนก็ทำได้ตามระยะเวลาที่วางไว้อย่างไม่น่าเชื่อ และยังวิ่งเกินระยะที่กำหนดไว้ด้วย โดยพี่ตูนวิ่งไปทั้งหมด 2,215.4 กิโลเมตร ซึ่งถ้าเราลองมาคำนวณดู จะพบว่าถ้านับว่าพี่ตูนวิ่งเต็มๆ 55 วัน จะเท่ากับว่าพี่ตูนวิ่งวันละประมาณ 40 กิโลเมตร หรือเท่ากับระยะมาราธอนทุกวัน !!
ส่วนระยะเวลาวิ่งทั้งหมดนั้นรวมเป็นเวลากว่า 382 ชั่วโมง หรือถ้าตีเป็นวันโดยประมาณจะได้ทั้งหมด 15 วันเต็มๆ
นอกจากเป้าหมายที่พี่ตูนวางไว้โครงการนี้ยังเกินความคาดหมายกลายเป็นกระแสดังๆ ในโลกโซเชียลที่ทำให้เราได้เห็นน้ำใจของคนไทยมากมาย ทั้งหลากหลายชีวิตที่มาร่วมแบ่งปันกันในโครงการ และผู้คนที่ต้อนรับพี่ตูนอย่างหลนหลามในทุกพื้นที่
รวมไปถึงปรากฎการณ์ต่างๆ บนโลกออนไลน์ ทั้งแฮชแท็ก #savetoon ที่รณรงค์ให้พี่ตูนวิ่งไปถึงเป้าหมายอย่างปลอดภัย เซลฟี่อย่างสุภาพ และยังรวมไปถึงการทำเฟรมภาพให้เหมือนได้ถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดกับพี่ตูนที่ได้กลายเป็นไวรัลในช่วงระยะเวลานั้น
ถึงแม้ว่าในตอนประกาศเริ่มโครงการนี้จะมีข้อถกเถียงและข้อสงสัยมากมาย แต่เวลาทั้งหมด 55 วัน และระหว่างทางที่พี่ตูน “ก้าว” ตั้งแต่ใต้สุดจนเหนือสุดของไทย น่าจะช่วยให้หลายคนหายสงสัย และเห็นถึงความตั้งใจจริงของพี่ตูนที่อยากให้ทุกคนมองเห็นปัญหานี้ได้ชัดขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งของทางเลือกในการแก้ปัญหานี้ในรูปแบบหนึ่งซึ่งเราขอชื่นชมในความสุดยอดของทีมงานทุกคนในโครงการนี้ที่ได้บรรลุเป้าหมายได้สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ <3