ครบรอบ 1 ปี Mango Zero
พาไปปอกเปลือกมะม่วง เผยเบื้องหลังการทำงานของพวกเรา
ณ ตอนนี้ Mango Zero ของพวกเราก็มีอายุครบ 1 ขวบแล้ว ถ้ากล่าวแบบหลงตัวเองหน่อยๆ เรียกว่าเป็นเว็บไซต์น้องใหม่ที่อยู่ในวัยกำลังน่ารักน่าเอ็นดู และน่าติดตามว่าไอ้บ้าพวกนี้จะทำอะไรกันต่อ
ช่วงตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมาเราก็มักจะทำอะไรที่ชาวบ้านเค้ามักจะไม่ทำกัน สนใจเรื่องที่คนอื่นเค้าไม่ได้สนใจ จึงมีคำถามอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการทำงานของพวกเรา ว่าเราคิดงานกันแบบไหน เราสนใจอะไร เรากินอะไร ฯลฯ
บทความนี้จะตอบคำถามทุกอย่างของหลายคนได้แน่นอน
10.00 – 10.30 น.
Stand-up meeting แบบกลัวเมื่อย
เป็นเวลาที่ทุกคนเดินทางมาถึง (หรือเกือบจะถึง) ออฟฟิศสุดอลังการย่านบรรทัดทอง ตรงข้ามสวน 100 ปีจุฬาฯ หลังจากหม่ำโจ๊กบรรทัดทองสั่งพิเศษใส่ไข่กันจนอิ่มหนำ หัวหน้าเราก็จะเรียกประชุมกันในตอนเช้า ใช่ครับ เรามีการประชุมกองทุกเช้า ทีมงาน Mango Zero ทั้ง 6 คนก็จะมานั่งรวมตัวกันที่โต๊ะ Commom Zone ในออฟฟิศ
เป็นการประชุมสั้นๆ ที่เรียกว่า Stand up Meeting แต่เราก็ไม่ได้ยืนประชุมนะครับ เพราะเมื่อย หัวข้อหลักๆ ของการประชุมในช่วงเช้าก็จะมีดังนี้
ในช่วงนี้มีประเด็นอะไรน่าสนใจในโลก Social?
สำหรับความไวความทันกระแสก็คงไม่พ้นการมานั่งคุยกันว่าเมื่อวานหรือวันนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง เนื่องด้วยพวกเราเป็นวัยรุ่นที่อาศัยอยู่บนโลกโซเชียล ไทม์ไลน์ของพวกเราจึงมีเรื่องที่น่าสนใจค่อนข้างมาก บวกกับเครื่องมือต่างๆ ที่พวกเราใช้มอนิเตอร์ รวมไปถึงการแอบเล่น Facebook และ Twiter ในเวลาทำงานทำให้เราทราบได้ทันทีว่าตอนนี้โลกโซเชียลกำลังสนใจอะไรกันอยู่ ทีมงานแต่ละคนก็จะเอาสิ่งที่พบเจอมาและเห็นว่าเป็นประเด็นมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง พวกเราจึงทราบเรื่องราวที่สดใหม่อยู่เสมอทุกวัน
แล้ววันนี้เราจะทำอะไรกันดี?
เมื่อเราได้เรื่องที่น่าสนใจแล้ว เราก็จะมาคุยกันว่าทำอะไรดี คือเราจะไม่ได้เอาเรื่องราวมาเล่าธรรมดา เราจะใส่ความครีเอทีฟในการนำเสนอ หรือหาตีมบางอย่าง “ครอบ” เรื่องราวเหล่านั้นอีกที เพื่อให้การนำเสนอเรื่องราวนั้นดูมีมิติน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม
10.30 – 12.30 น.
ได้เวลาแยกย้ายทำงาน
พวกเราแยกย้านกันไปทำงานที่ได้รับมอบหมายจากการประชุม หรืองานที่ค้างไว้จากวันก่อนที่โต๊ะทำงานของแต่ละคน บางครั้งก็จะมีไปถ่ายงานตามสถานที่ต่างๆ ข้างนอกด้วย โชคดีที่ออฟฟิศพวกเรานั้นอยู่กลางเมืองใกล้กับ BTS และ MRT ทำให้เดินทางไปเก็บข้อมูลข้างนอกค่อนข้างสะดวกมาก
การออกงานนอกสถานที่เราจะใช้จำนวนคนไ่ม่มากนัก เพียง 1-2 คนต่องานเท่านั้น ด้วยความที่ความสามารถของเราหลากหลาย และเครื่องไม้เครื่องมือยุคใหม่ที่ทำได้ง่ายขึ้น บุคคลกรหนึ่งคนของ Mango Zero สามารถถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ เขียนบทความ โพสต์บทความ ลง Facebook Ads จบครบทุกกระบวนการได้ด้วยคนตัวเดียว
ข้อดีคือเราสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ข้อมูลครบถ้วน บางงานเราเข้าไปถ่าย ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ออกมานั่งร้านกาแฟอีกหนึ่งชั่วโมงก็สามารถโพสต์งานได้ทันที เทียบกับรูปแบบงานโปรดักส์ชั่นใหญ่ๆ ที่ต้องใช้ทีมเยอะๆ ใช้เวลาเดินทางกลับมาส่งงาน ส่งข้อมูลให้ทีมอื่นก็จะเสียเวลาตรงนี้ไป
แต่ตรงนี้อาจจะมีข้อเสียบ้างตรงที่บางครั้งเราไม่ได้เชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ เช่น การทำภาพกราฟฟิกก็อาจจะไม่ได้ละเอียดเท่าการส่งงานให้ตำแหน่งดีไซน์เนอร์ทำต่อ
ถ้าในมุมมองของเราคือทุกคนสามารถทำงานรวดเร็วตามกระแสได้เก่งนั่นเอง (อวดๆ)
12.30 – 13.30 น.
Relax Time
ช่วงเวลาทานข้าว เราก็จะไปทานของกินอร่อยๆ ย่านบรรทัดทอง ในระหว่างทานข้าวก็เป็นการประชุมย่อยๆ แบบไม่ซีเรียส คุยกันว่าช่วงเวลาที่เราแอบเล่น Facebook ระหว่างทำงาน เราไปเจอเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจเพิ่มเติมไหม หรือบางครั้งระหว่างรอเจ๊ปุ้ยทำอาหาร เราก็จะ RoV กันบ้าง แมทช์ สองแมทช์ว่ากันไป
หลังช่วงพักทานข้าวก็จะมีการตบกันเล็กน้อย ยืดเส้นยืดสายแก้ง่วงก่อนทำงาน พวกเราตีปิงปองกันเองได้เก่งมากๆ แต่ถ้าไปตีกับคนอื่นจะกากมากๆ
13.30 – 19.00 น.
กลับมาสู่ช่วงเวลาทำงานอย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่ง สำหรับในช่วงบ่ายจะเป็นช่วงเวลาที่เราจะเริ่มโพสต์งานลงเว็บไซต์ Social Media ต่างๆ ของ Mango Zero เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตอนเช้าจะถูกนำมาแปรสภาพเป็นคอนเทนต์ที่สมบูรณ์
โชคดีอีกเด้งหนึ่งตรงที่ออฟฟิศของพวกเราสวยมากๆ มีต้นไม้ (ต้นมั่งมี) ปลูกอยู่กลางออฟฟิศ มีห้องสตูดิโอแบบจัดเต็ม รวมไปถึงแสงธรรมชาติที่ถูกกรองจากกระจกฝ้าทำให้เราสามารถถ่ายภาพได้แทบทุกมุมในออฟฟิศของเราเอง การถ่ายภาพหรือวิดีโอจึงไม่ใช่เรื่องยาก
เนื่องด้วยงานของเราจะใช้ความครีเอทีฟสูง การอยู่ที่ที่เดิมจึงไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก ระหว่างการทำงานเราก็จะเดินถือโน๊ตบุ๊คย้ายที่ทำงานไปเรื่อยๆ นั่งโซฟาบ้าง นั่งบาร์บ้าง เดินออกไปซื้อเกี๊ยวบ้าง เราเชื่อว่าการที่ได้มองเห็นสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม ทำให้เรามีโอกาสที่ได้ไอเดียและมุมมองใหม่ๆ ในการทำงาน
ในหนึ่งวันของ Mango Zero จะผลิตคอนเทนต์เฉลี่ย 1-2 ชิ้นต่อคน และหลังจากจบหนึ่งวัน ในวันถัดไปเราจะประชุมกันช่วงเช้าและเริ่มงานใหม่ เพื่อให้ได้คอนเทนต์ที่สดใหม่ทุกวัน
ขจร เจียรนัยพานิชย์ (เอ็ม)
บล็อกเกอร์ชื่อดังในนาม @Khajochi ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 600,000 คนในโลกออนไลน์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Mango Zero นั่นเอง เขาคนนี้เป็นบุรุษผู้คลั่งไคล้ทุกอย่างที่เป็น Apple จนได้รับสมญานามว่าเป็น “เกือบ สุดยอดแฟนพันธุ์แท้สตีฟ จ๊อบ” เจ้าของรางวัล Zocial Awards 2014 และติด 1 ใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลในโลกออนไลน์ไทย จัดโดย LIPS Magazine
คำพูดติดปาก : ทุกคน ประชุมมมมม
พลสัน นกน่วม (แซม)
อดีตบก.สัมภาษณ์นิตยสาร 247 ในเครือ GM, อดีตบก.สำนักพิมพ์ Salmon Books, จัดรายการ Podcast ยูธูป ชายหนุ่มผู้ที่ทำให้เรื่องผีเป็นเรื่องสนุกได้ ถ้าคุณได้เจอเค้าครั้งแรกเค้าจะถามคุณว่า “น้อง เคยเจอผีไหม” แซมเป็นเฮอร์คิวลิสประจำ Mango Zero ไม่ว่าจะขยับทำอะไร เขาคนนี้ก็ดูเท่ไปหมด
คำพูดติดปาก : เคยเจอผีไหมคนับ
นเรศ ติยะวัฒน์วิทยา (นกแก้ว)
Blogger สาย Food ชื่อดังบ้างไม่ดังบ้าง ถ้าดึกๆ เห็นภาพหมูกรอบลอยมาก็ไม่ใช่ใคร จากเขาคนนี้นี่เอง เป็นหนุ่ม Geek นักวิ่ง ที่ชื่นชอบการกินเป็นชีวิตจิตใจ ช่วงสิ้นเดือนจะฮอตเป็นพิเศษเพราะคนนี้มักจะมีของกินอร่อยๆ และ Voucher เพียบ!!
คำพูดติดปาก : กูหิว
จีระภา สุริสุข (ไอซ์)
อดีตผู้สื่อข่าวสายเทคโนโลยีจาก Thairath TV ฉายา “ธิดาไอที” ถ้าใครที่ติดตามคลิปของ Mango Zero จะพบไอซ์บ่อยสุด เพราะด้วยสกิลการพูดที่ราบรื่น และใบหน้าแสนหวานที่ขึ้นกล้องนั่นเอง ความสามารถพิเศษคือ ถ่ายคลิปเอง เป็นแบบเอง ลงเสียงเอง เขียนเอง โพสต์เอง และดูเอง
คำพูดติดปาก : ถ่ายหน้าหนูให้ขาวๆ นะคะ
กรศริน ภัทรโสภาคย์ (รีน)
สาวน้อยขี้อายประจำ Mango Zero ด้วยความที่รีนเป็นคนที่มากความสามารถ จึงได้ควบตำแหน่ง Content Creator, Designer, Editor, Photographer และอีกมากมาย รีนเป็นคนร่าเริงและขี้อาย แต่ในปาร์ตี้หลังตี 1 เป็นต้นไปรีนคนใหม่จะปรากฏตัว หัวหน้าก็หัวหน้าเถอะ รีนกอดคอตบไหล่มาแล้ว
คำพูดติดปาก : รีนกลัวววววววววว
ธรัญญา ชัยวงศ์ศรีอรุณ (เตย)
บล็อกเกอร์สาวหมวยแว่นสไตล์หว่อง ที่มาพร้อมกับงานเขียนและงานภาพได้ทุกแนว ตื่นเต้นกับสิ่งใหม่เสมอ ด้วยความสดใสเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ติดตามอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าใครติดตาม Mango Zero แล้วยังไม่เจอเตยแสดงว่ายังเข้าไม่ถึงนะ
คำพูดติดปาก : โหวววววววววววววว
การสร้างเนื้อหาของ Mango Zero ทีมงานพวกเรามีจุดที่เราทุกคนมองไปที่เดียวกัน แนวทางของเราค่อนข้างที่จะชัดเจนในการเลือกทำเนื้อหา มีความเป็นเอกลักษณ์ บางครั้งเรามักจะพูดกันว่า “คนเทนต์นี้มีความแมงโก้มาก” โดย 4 จุดที่เรามองไปด้วยกันมีดังนี้
รวดเร็ว
นอกจากจะประชุมกองเพื่ออัปเดทเรื่องราวที่น่าสนใจในช่วงเช้าแล้ว เรามีการคุยแลกเปลี่ยนกันเป็นรายชั่วโมง เมื่อมีใครพบเรื่องที่น่าสนใจก็จะสะกิดกันดู บางครั้งเราหยุดทุกงานที่ทำอยู่เพื่อไปโฟกัสกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น อย่างเช่นอยู่ๆ มีสาวคนหนึ่งขอเพลงงูในผับ หรือเราไปเจอว่า 7-Eleven มีน้ำแข็งไสขาย เราก็รีบออกไปทำทันที ไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปแน่นอน (อยากกินก็ส่วนหนึ่ง อิอิ)
เข้าใจง่าย
ในวันที่โลกออนไลน์มีแต่ความรวดเร็ว เนื้อหามีมากขึ้น ทุกคนไถฟีดบนโทรศัพท์เร็วขึ้น เราเองก็ต้องทำเนื้อหาให้กระชับ เข้าใจง่าย ให้ทุกคนหยุดไถนิ้วโป้งแล้วกดดูโพสต์ของเรา ถึงแม้ว่า Source บนโลกนี้ก็มีอยู่ไม่กี่แบบ รูปภาพ เนื้อหา วิดีโอ ก็วนไปเท่านี้ แต่เทรนด์บนโลกออนไลน์เปลี่ยนไปเร็วมาก มีการนำเสนอในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น เราต้องติดตามและปรับตัวทุกวันเพื่อที่จะได้ทำเนื้อหาได้ออกมาเหมาะสมกับโลออนไลน์มากที่สุด
สร้างสรรค์
เรานำเสนอเนื้อหาด้วยความครีเอทีฟ เพื่อให้ผู้ชมมีความสนุกร่วมไปกับเรา เนื้อหาที่เราทำจะต้องสร้างสรรค์และมีประโยชน์ต่อผู้ชม หรือถ้าเป็นเรื่องไร้สาระอย่างน้องเขาก็ได้รับความบันเทิง เราจะไม่นำเสนอเนื้อหาที่ดูแล้วทำให้รู้สึกไม่ดี พวกเราชอบที่จะตื่นเช้ามาเปิด Facebook แล้วเจอเนื้อหาดีๆ ที่ทำให้อารมณ์ดีมีกำลังใจทำงานทั้งวัน และอยากส่งต่อความรู้สึกนี้ให้กับผู้ติดตามเช่นกัน
ไม่หยุดนิ่ง
โลกออนไลน์มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมาก การที่เราอยู่กับที่ก็เหมือนยืนอยู่บนสายพานที่พาเราไหลไปข้างหลัง ในยุคนี้เราต้องวิ่งให้เร็วกว่าสายพานที่พาเราถอยหลังไป ทีมงานของเราต้องพัฒนาฝีมือการทำคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการเทรนด์ การออกไปทำงานข้างนอก การติดตามโลกออนไลน์อย่างใกล้ชิด ทำให้เราปรับการทำงานอยู่เสมอ และเลือกใช้เครื่องมือที่ใหม่อยู่ตลอดเวลา
ลองนึกถึงนิตยสารที่มีปกเพื่อบ่งบอกตีมของเนื้อหาหลักในนิตยสารเล่มนั้นๆ เนื้อหาในเล่มจะเจาะลึกเรื่องราวบนปกอย่างจริงจัง เราอยากใช้แนวคิดนี้กับเนื้อหาบนเว็บไซต์ บทความ Longform เป็นบทความเนื้อหาเจาะลึกและจริงจังกับเรื่องที่เราสนใจ
เรามีความตั้งใจที่จะนำเสนอบทความด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามี เท่าที่เทคโนโลยีบนเว็บไซต์สามารถนำเสนอได้ บทความ Longform เป็นบทความพิเศษ Exclusive โคตรๆ เราตั้งใจขนาดที่ทำหน้าเว็บไซต์ขึ้นมาใหม่ 1 หน้า เพื่อใช้นำเสนอบทความนั้นโดยเฉพาะเลยทีเดียว
เมื่อเล่นเราเล่น เมื่อจริงจังเราสุดมาก ทุกครั้งที่ทำบทความ Longform เราจะเข้าถึงเรื่องนั้นให้มากที่สุด อย่างบทความ Longform แรกของเรา “เจาะลึกขั้นสุด !! กระทะใหม่ บาร์บีคิวพลาซ่า ในศาสตร์ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน”
ตอนนั้นที่มีกระแสร้านบาร์บีคิวพลาซ่าเปลี่ยนกระทะใหม่ Blackpan เราหยุดทุกอย่างไว้ตรงนั้น ประชุมด่วนพร้อมวางแผนการทำ Longform ตัวแรก ทำเสร็จแล้วก็หิว จึงเดินทางไปกิน Bar B Q Plaza สาขาที่ใช้ Blackpan เราพยายามหา Spec ของกระทะพร้อมทดสอบการใช้งานจริง ไปจนถึงปรึกษานักศึกษาปริญญาเอกสาขา Chemical Engineering ที่ MIT ประเทศสหรัฐอมริกา
“เจาะลึกเบื้องหลัง The Mask Singer จากทีมงานผู้สร้าง, เผยข้อมูลหน้ากาก และการเก็บความลับ” อีกตัวอย่าง Longform ที่ได้รับความสนใจ เราได้เดินทางไปถึงบริษัท Workpoint สัมภาษณ์ Group Head ฝ่ายผลิตรายการ และ Creative รายการอีกสามท่าน เนื่องจากเราก็เป็นแฟนรายการ The Mask Singer อยู่แล้ว
เราจึงเป็นเหมือนตัวแทนของคนดูที่อยากจะถามคนผลิตรายการ ว่าเค้ามีการเก็บความลับอย่างไร, ร้องสดจริงไหม เป็นต้น จนได้ออกมาเป็นเนื้อหาที่ Exclusive สุดๆ จนถูกหลายที่ก๊อปไปลงเลยทีเดียว (ฮา)
นอกจากนี้เรายังมีบทความชุด Zero to Hero เป็นบทความ Longform ที่ทีมงานจัดทำขึ้นเพื่อเชิดชูกลุ่มคนเบื้องหลังที่ผลิตงานคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ เรามองคนเหล่านั้นเป็นเหมือนกับฮีโร่ของเรา และเราอยากนำเสนอเบื้องหลังพลังพิเศษของฮีโร่ให้คนได้รู้จักพวกเขามากยิ่งขึ้น
1. นกแก้วกับแซมเป็นคนละคนกัน
เนื่องจากนกแก้วกับแซมมีหน้าตาและบุคคลิกที่คล้ายกันมาก ทำให้มีหลายคนทักผิดเป็นประจำ โดยเฉพาะพี่ รปภ. ของออฟฟิศที่อยู่กันมาเป็นปี ยังทักผิดอยู่จนถึงทุกวันนี้
2. Khajochi ไม่ใช่สุดยอดแฟนพันธ์ุแท้สตีฟ จ๊อบ แต่เป็น “เกือบ”
Khajochi หรือ เอ็ม บอสแห่ง Mango Zero ที่หลายคนมักจะมาปรึกษาเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นกับ iPhone หรือ Mac โดยที่เค้าเชื่อใจความเป็นสุดยอดแฟนพันธุ์แท้สตีฟ จ๊อบ แต่ตำแหน่งๆ ของเขาจริงๆ คือ กสยฟพทสตจ. เกือบสุดยอดแฟนพันธุ์แท้สตีฟ จ๊อบ ต่างหาก
3. รีนไม่ชอบกินผลไม้เนื่องจากมีประสบการณ์ที่ไม่ดีในวัยเด็ก
ตอนเด็กรีนไม่ชอบทานกล้วย เพราะไม่ชอบแกนกลางของกล้วย แต่คุณแม่ของรีนของปลอบด้วยการบอกว่ากล้วยมันไม่มีแกนตรงกลางหรอก จึงทำให้รีนไม่ทานผลไม้แทบทุกชนิดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ดังนั้นถ้าจะซื้อของมาฝากรีน อย่าเป็นผลไม้นะจ๊ะ
4. เคยมีคนเข้าใจผิดว่าเราขายของกิน
หลายครั้งที่มีคน Inbox มาหาพวกเราในแฟนเพจ เพื่อขอซื้อมะม่วง ถามทางไปร้านเกี๊ยวซ่า ไปจนถึงชวนไปออกบูธขายผลไม้ ความเป็น Mango ของพวกเราน่ากินจริงๆ
5. หลายคนอยากมาทำงานกับ Mango Zero เพราะของกินเยอะ
ที่ทำงานของ Mango Zero นี่เรียกว่าหัวกระไดไม่เคยแห้ง ไม่ใช่ว่าพวกเรามีคนมาจีบเยอะนะ แต่มีคนแวะเวียนมาร่วมรับประทานของกินกับพวกเรา เพราะเรามีของกินเยอะมาก มาบ่อยขนาดนี้สมัครงานเลยไหมหล่ะะะะ
สรุปแล้ว Mango Zero คือใคร?
พวกเราคือกลุ่มคนบ้าๆ สนุกๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เราสามารถแสดงความสนุกในแบบของพวกเราออกมาได้อย่างเต็มที่ พวกเราชอบคอนเทนต์ที่สนุก และเชื่อว่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นสามารถทำให้สนุกได้ เราเริ่มต้นจากศูนย์ เราทำด้วยใจรัก(และเงินเดือน) มะม่วงลูกนี้จะสร้างสีสันให้โลกออนไลน์ตราบนานเท่านาน
ข่าวดี!! ตอนนี้เรารับสมัครทีมงาน Mango Zero อยู่จ้า สามารถดูรายละเอียดได้ที่ : 10+1 สวัสดิการเจ๋งๆ เมื่อคุณร่วมงานกับ Mango Zero และ ParentsOne
เรียบเรียงโดย
ทีมงาน Mango Zero