[NEWS] ชาวเน็ตร่วมวิจารณ์ ดราม่า #บีมศรัณยู สะท้อนปัญหาความหละหลวมของกฎหมาย และพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนน ติดเทรนด์ทวิตกันแบบข้ามวัน กับกระแสพลังใบที่แบ่งเสียงออกเป็น 2 ฝั่ง หลังจากที่ ‘บีม ศรัณยู’ ได้มีคลิปอภินิหารพลังใบ เคี้ยวใบกระท่อมโชว์ จนเกิดอาการคึกคะนอง เป็นท่าทีและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างการขับรถด้วยเข่า ขับรถข้ามเกาะกลางถนน ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยไปจนถึง ไปจนถึงไลฟ์สดระหว่างขับรถที่อาจทำให้คนลอกเลียนแบบได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ บีม ศรัณยู มีคลิปที่เคี้ยวใบกระท่อมพร้อมขับเรือสปีดโบ๊ทและถ่ายวิดีโอไปพร้อมกัน นับว่าเป็นพฤติกรรมที่ค่อนข้างโลดโผน โดยเสียงของชาวโซเชียลก็มี 2 ทาง ส่วนหนึ่งมองว่าเป็นการทำคอนเทนต์เพื่อสร้างความขำขัน และส่วนใหญ่อีกด้านเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ชวนตั้งคำถามถึงความเข้มงวดของกฎหมาย เนื่องจากการกระทำของนักแสดงหนุ่มสามารถก่อให้เกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุกับผู้ร่วมใช้ถนนได้ง่ายๆ และไม่มีภาคส่วนไหนที่ออกมาดำเนินการอย่างจริงจัง เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีข่าวอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ทำให้เราสูญเสีย ‘หมอกระต่าย’ บุคลากรทางการแพทย์คนสำคัญไป จนเกิดเป็นความตื่นตัวและสร้างความตระหนักของมารยาทบนท้องถนนและทางม้าลาย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก (แต่ก็ยังมีให้เห็นอยู่) ถึงแม้ปัจจุบัน ใบกระท่อม จะไม่ได้ผิดกฎหมายในไทย และชาวเน็ตมองว่าไม่ได้ทำให้มึนเมาจนคึกคะนองขนาดนั้น จึงอาจจะต้องมองความผิดนี้ที่พฤติกรรมของนักแสดงหนุ่มเองด้วย หากมอง ‘บีม ศรัณยู’ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ข่าวคราวถึงเรื่องพฤติกรรมต่างๆในอดีตอย่าง ชนแล้วหนี, ขับรถเร็วเกินกำหนดบนทางด่วน, รวมถึงแต่งรถเลียนแบบตำรวจด้วย ล่าสุด บีม ศรัณยู ก็ได้ออกมาไลฟ์ขอโทษแบบเปิดใจ พร้อมตบหน้าตัวเองเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีสติครบถ้วน ไม่ได้มึนเมา “ผมขอย้ำว่า การเคี้ยวใบกระท่อมไม่ได้ทำให้เมา โดยเฉพาะผมเอง ที่ออกกำลังกายมาทั้งชีวิต ก็ไม่ได้ส่งผลอะไร เพราะถ้าผมไม่ไหว ผมก็พอ คนเราต้องรู้ข้อจำกัดของตัวเอง แต่เรื่องอะไรที่ผมเคยทำ แล้วมันดูไม่เหมาะสม ก็อยากขอโทษจากใจ” อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวยังคงเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรมองข้าม เพราะแสดงถึงความประมาทซึ่งอาจสร้างความอันตรายถึงชีวิต แล้วยิ่งเมื่อเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง มีผู้ติดตามมากมาย วัยรุ่นที่มีสื่อในมืออาจเลียนแบบได้และเกิดความสูญเสียในสังคมง่ายกว่าเดิม ประเด็นดังกล่าวทั้งเคสของหมอกระต่ายและบีม ศรัณยู สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้าง ในส่วนของการจัดการและการบังคับใช้กฎหมายที่หละหลวมจนเกินไป จนเกิดเป็นคำถามที่ว่า “เราจะต้องรอจนถึงเมื่อไหร่ ที่ภาครัฐจะให้ความใส่ใจและผู้คนทั่วไปจะตระหนักได้พร้อมปฏิบัติตามกฎหมายจราจร ?” ที่มา คมชัดลึก