ตีแผ่ระบบ ‘โกงศึกษา’ ในทุกฉากจาก ‘ฉลาดเกมส์โกง’ ‘เป็นคนดีมันอยู่ไม่รอดหรอก’ ‘โรงเรียนหาเงินจากเราได้ แล้วทำไมเราจะหาเงินจากโรงเรียนบ้างไม่ได้’ ‘ทีพ่อยังยัดเงินให้ผมเข้าโรงเรียนได้เลย ผมก็ทำอย่างที่พ่อทำไง’ ‘แกเข้าใจความรู้สึกเราหรือยัง ความรู้สึกที่ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากต้องโกง’ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ห้องสอบวิชา ‘ฉลาดเกมส์โกง’ ขอให้นักเรียนทุกคนทำความเข้าใจรายละเอียดด้านล่างให้ครบถ้วน แล้วจึงเริ่มลงมือทำข้อสอบ และไม่อนุญาตให้ออกจากห้องสอบจนกว่าจะอ่านบทความนี้จบ ข้อควรรู้ก่อนสอบ ‘ฉลาดเกมส์โกง’ จากหนังชื่อเก่า ที่ถูกนำมาเล่าใหม่ในรูปแบบละคร โดยผู้กำกับไฟแรงอย่าง ‘พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์’ ที่ต้องรับบทหนักในการต่อสู้กับภาพจำในเวอร์ชันหนังที่สร้างความประทับใจในหลายประเทศ เมื่อเวลา 2 ชั่วโมงไม่เพียงพอที่จะถ่ายทอดมุมมืดทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ในรั้วโรงเรียน ฉลาดเกมส์โกงในเวอร์ชันละครนี้จึงจับต้นฉบับมาตีความใหม่ และเพิ่มความเร้าใจด้วยการตีแผ่ประเด็นต่างๆ แบบเรียลและลึกกว่าเดิม เรียกได้ว่า ทุบวงการศึกษาแบบแหลกละเอียดกันเลยทีเดียว ผู้เข้าสอบหน้าใหม่ นอกจากเนื้อหาที่เข้มข้นขึ้น ยังมีการเพิ่มรายละเอียดต่างๆ ของตัวละครแต่ละตัวที่ไม่ได้โชว์ในหนัง เพื่อเปิดเผยแง่มุมอื่นๆ ให้เส้นเรื่องดูสมจริงยิ่งขึ้น โดยนักแสดงที่จะมาถ่ายทอดเรื่องราวในครั้งนี้เป็นนักแสดงชุดใหม่ทั้งหมด ได้แก่ จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน (รับบทเป็น ลิน) เจ้านาย-จินเจษฎ์ วรรธนะสิน (รับบทเป็น แบงค์) ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต (รับบทเป็น พัฒน์) และนาน่า-ศวรรยา ไพศาลพยัคฆ์ (รับบทเป็น เกรซ) ผู้เข้าสอบหน้าใหม่ นอกจากเนื้อหาที่เข้มข้นขึ้น ยังมีการเพิ่มรายละเอียดต่างๆ ของตัวละครแต่ละตัวที่ไม่ได้โชว์ในหนัง เพื่อเปิดเผยแง่มุมอื่นๆ ให้เส้นเรื่องดูสมจริงยิ่งขึ้น โดยนักแสดงที่จะมาถ่ายทอดเรื่องราวในครั้งนี้เป็นนักแสดงชุดใหม่ทั้งหมด ได้แก่ จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน (รับบทเป็น ลิน) เจ้านาย-จินเจษฎ์ วรรธนะสิน (รับบทเป็น แบงค์) ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต (รับบทเป็น พัฒน์) และนาน่า-ศวรรยา ไพศาลพยัคฆ์ (รับบทเป็น เกรซ) เริ่มสอบ… จากการหยิบหนังเรื่องเก่ามาร้อยเรียงเรื่องราวใหม่ อาจทำให้หลายคนคิดว่าฉลาดเกมส์โกงเวอร์ชันละครนี้คงไม่แตกต่างจากฉบับภาพยนตร์มากนัก แต่หลังจากเปิดตัวไปได้เพียง 4 ตอนแรก ละครก็ได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า ฉลาดเกมส์โกงเวอร์ชันนี้มีเสน่ห์ที่แตกต่าง ใน 2 ตอนแรก ละครมีการปูเนื้อเรื่องที่ยังคงความเป็นเค้าเดิมไว้ค่อนข้างมาก แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มเรื่องราวและประเด็นใหม่เข้าไปในตอนถัดมา สิ่งที่ต้องชื่นชมคือการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพและมุมกล้องที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว ด้วยการเดินเรื่องที่ฉับไว การตัดต่อที่เร้าใจ ประกอบกับดนตรีจังหวะเร่งเร้า สามารถทำให้คนดูใจเต้นตึกตักเหมือนกำลังดูหนังระทึกขวัญ เรียกได้ว่าโปรดักชั่นอลังการ เหมือนเอาหนังจอยักษ์มาย่อลงในจอทีวีที่บ้านก็ว่าได้ โจทย์ข้อที่ 1: หากเปรียบละครและตัวละครเป็นสี จะเป็นสีอะไร จงอภิปราย เด็กชายพัฒน์: สำหรับละคร ถ้าให้เลือกสีเดียวอาจจะเป็นสีเทาครับ สีเทามันก็…ไม่แน่ใจว่ามันจะขาวหรือดำดีมั้ง มันก็อาจจะเหมือนสิ่งที่ละครพยายามจะเล่าอะไรอย่างนี้ครับ เด็กหญิงนาน่า: ตัวเกรซเป็นสีม่วง เพราะว่าเขาจะมีความสดใส ร่าเริง แต่ก็แอบมีมุมมืดที่เข้าไปเสริมอยู่ เด็กหญิงจูเน่: ไม่รู้ว่าลินเป็นสีฟ้าหม่น ด้วยความที่มีสีฟ้าอยู่แล้ว หรือว่าเขามีความต้องการสีฟ้าในชีวิตเขา สำหรับเน่ สีฟ้ามันเหมือนเป็นตัวแทนของความรัก ความอบอุ่น ความอิสระ พอมันเป็นฟ้าหม่นๆ แล้วมันไม่ได้เป็นสีที่เศร้า แต่มันก็ไม่ได้เป็นสีที่สดใสขนาดนั้น เด็กชายเจ้านาย: สำหรับแบงค์ ผมว่าน้ำตาล เพราะว่าสีน้ำตาลมันเปรียบได้กับของเก่า เขาใช้ชีวิตถึงจุดตกต่ำมากๆ ของชีวิตเขามาแล้ว แต่ว่าโชคดีอย่างหนึ่งคือเขาหัวดี เราก็ต้องไปรอดูว่าสีน้ำตาลนั้นจะเข้มขึ้นหรือจางลง โจทย์ข้อที่ 1: หากเปรียบละครและตัวละครเป็นสี จะเป็นสีอะไร จงอภิปราย เด็กชายพัฒน์: สำหรับละคร ถ้าให้เลือกสีเดียวอาจจะเป็นสีเทาครับ สีเทามันก็…ไม่แน่ใจว่ามันจะขาวหรือดำดีมั้ง มันก็อาจจะเหมือนสิ่งที่ละครพยายามจะเล่าอะไรอย่างนี้ครับ เด็กหญิงนาน่า: ตัวเกรซเป็นสีม่วง เพราะว่าเขาจะมีความสดใส ร่าเริง แต่ก็แอบมีมุมมืดที่เข้าไปเสริมอยู่ เด็กหญิงจูเน่: ไม่รู้ว่าลินเป็นสีฟ้าหม่น ด้วยความที่มีสีฟ้าอยู่แล้ว หรือว่าเขามีความต้องการสีฟ้าในชีวิตเขา สำหรับเน่ สีฟ้ามันเหมือนเป็นตัวแทนของความรัก ความอบอุ่น ความอิสระ พอมันเป็นฟ้าหม่นๆ แล้วมันไม่ได้เป็นสีที่เศร้า แต่มันก็ไม่ได้เป็นสีที่สดใสขนาดนั้น เด็กชายเจ้านาย: สำหรับแบงค์ ผมว่าน้ำตาล เพราะว่าสีน้ำตาลมันเปรียบได้กับของเก่า เขาใช้ชีวิตถึงจุดตกต่ำมากๆ ของชีวิตเขามาแล้ว แต่ว่าโชคดีอย่างหนึ่งคือเขาหัวดี เราก็ต้องไปรอดูว่าสีน้ำตาลนั้นจะเข้มขึ้นหรือจางลง โจทย์ข้อที่ 2: ถ้าเห็นว่าเพื่อนข้างๆ กำลังโกงข้อสอบจะทำอย่างไร จงอภิปราย เด็กชายพัฒน์: ผมจะเดินเข้าไปบอกเขาว่า นายอย่าโกงข้อสอบสิ บ้าเหรอ จะมีที่ยืนไหมหล่ะในห้องนั้นหน่ะ (หัวเราะ) ก็คงจะรอดู เพราะมันเป็นปัญหายอดภูเขาน้ำแข็ง สมมติว่าเราเห็นว่ามีคนโกงข้อสอบอยู่ มันไม่ได้แปลว่าเราจะสามารถเดินเข้าไปบอกเขาว่าอย่าโกง หรือบอกครูให้จับเขา หรือบอกพ่อแม่เขา มันคือการที่เราเตะสกัดเอายอดภูเขาน้ำแข็งที่อยู่เหนือน้ำออก แล้วก้อนที่อยู่ใต้น้ำก็จะลอยขึ้นมาต่อ ก็คงจะรอดูและเรียนรู้ว่าภูเขาน้ำแข็งก้อนนี้จะเป็นอย่างไร เด็กหญิงนาน่า: เขาต้องลองเอง เขาถึงจะรู้ว่าการโกงมันจะให้ผลอะไรกับเขา มันคือชีวิตของเขาที่เขาเลือกที่จะทำแบบนั้น ถึงแม้เราจะเตือนก็เปลี่ยนความคิดเขาไม่ได้ เด็กหญิงจูเน่: ตอนนี้มันยาก เพราะเน่ได้ผ่านประสบการณ์การโกงในเรื่องนี้มาแล้ว เลยทำให้เราเข้าใจว่าทำไมคนๆ นึง ถึงคิดที่จะโกงได้ เหตุผลมันมีเป็นร้อยอย่าง แต่สุดท้ายทุกคนก็จะได้รับบทเรียนจากการกระทำของตัวเอง เด็กชายเจ้านาย: จริงๆ ถ้าเราลองให้เวลาติวกับมันจริงๆ ผมว่าทุกคนทำได้ ถ้าช่วยได้ก็คงจะต้องไปบอกเขาว่าเอาเวลาเตรียมโกงไปติวดีกว่า โจทย์ข้อที่ 3: คิดว่าคนดูจะได้อะไรจากเรื่องนี้ เด็กชายเจ้านาย: ผมว่าทุกคนน่าจะเห็นคุณค่าในสิ่งรอบตัวมากขึ้นครับ เด็กหญิงนาน่า: หนูว่าได้ความสนุกแน่นอนค่ะ ครบรส ดูได้ทุกเพศทุกวัย รวมถึงข้อคิดค่ะ เพราะความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัวจะให้ข้อคิดกับทุกเพศทุกวัยแน่นอนค่ะ เด็กหญิงจูเน่: เน่เชื่อว่าการโกงมันเกิดขึ้นอยู่ตลอด และก็มีอยู่หลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่โกงข้อสอบ แต่รวมถึงกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ด้วย ละครเรื่องนี้อาจจะทำให้เราลองกลับไปสังเกตตัวเองว่า ในชีวิตประจำวันมีเรื่องอะไรที่เรากำลังโกงตัวเอง หรือคนรอบข้างอยู่หรือเปล่า อาจจะทำให้ชีวิตเราปลดล็อคอะไรบางอย่าง และมีความสุขมากขึ้นค่ะ เด็กชายพัฒน์: คาดหวังว่าคนจะได้ดูเยอะๆ ครับ ส่วนเขาจะดูแล้วเอาไปทำอย่างไรต่อ ผมว่ามันเป็นความคิดเห็นของเขาครับ โจทย์ข้อที่ 3: คิดว่าคนดูจะได้อะไรจากเรื่องนี้ เด็กชายเจ้านาย: ผมว่าทุกคนน่าจะเห็นคุณค่าในสิ่งรอบตัวมากขึ้นครับ เด็กหญิงนาน่า: หนูว่าได้ความสนุกแน่นอนค่ะ ครบรส ดูได้ทุกเพศทุกวัย รวมถึงข้อคิดค่ะ เพราะความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัวจะให้ข้อคิดกับทุกเพศทุกวัยแน่นอนค่ะ เด็กหญิงจูเน่: เน่เชื่อว่าการโกงมันเกิดขึ้นอยู่ตลอด และก็มีอยู่หลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่โกงข้อสอบ แต่รวมถึงกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ด้วย ละครเรื่องนี้อาจจะทำให้เราลองกลับไปสังเกตตัวเองว่า ในชีวิตประจำวันมีเรื่องอะไรที่เรากำลังโกงตัวเอง หรือคนรอบข้างอยู่หรือเปล่า อาจจะทำให้ชีวิตเราปลดล็อคอะไรบางอย่าง และมีความสุขมากขึ้นค่ะ เด็กชายพัฒน์: คาดหวังว่าคนจะได้ดูเยอะๆ ครับ ส่วนเขาจะดูแล้วเอาไปทำอย่างไรต่อ ผมว่ามันเป็นความคิดเห็นของเขาครับ เหลือเวลาอีก 5 นาทีสำหรับการสรุปเกมส์โกงบทใหม่ พูดถึงฉลาดเกมส์โกง สิ่งแรกที่เรานึกถึงคงเป็นเรื่องการ ‘โกง’ ในละครเรื่องนี้ไม่ได้บอกเล่าเพียงแค่การโกงของฝั่งนักเรียนเท่านั้น แต่ยังนำเสนอความจริงอีกด้านกับการโกงของบุคลากรทางการศึกษาเองด้วย ไม่ว่าจะเป็นการที่โรงเรียนเก็บค่าแป๊ะเจี๊ยะ หรือการที่ครูทุจริตด้วยการบอกข้อสอบแก่เด็กที่เรียนพิเศษกับตน เรื่องราวเหล่านี้สื่อให้เห็นถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ฝังลึกอยู่ในรากการศึกษาไทยอย่างเด่นชัด นอกจากประเด็นการโกงที่เป็นหัวใจของเรื่องแล้ว ยังมีการต่อยอดเรื่องราวด้านอื่นๆ ของตัวละคร นับได้ว่าตัวละครโดยรวมยังคงเป็นสีเดิม หากแต่มีการแต้มสีเพิ่มในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ รวมไปถึงเรื่องครอบครัว ทำให้เราเห็นอีกหลายมุมของตัวละครที่ไม่เห็นในหนัง และเสริมให้บทมีความสมเหตุสมผลมากขึ้น หากเปรียบหนังเป็นไฟฉายที่ส่องให้เห็นความจริงที่ซ่อนอยู่ในมุมมืด ละครเรื่องนี้คงเป็นสปอร์ตไลท์ดวงใหญ่ที่ส่องไฟได้กว้างกว่า ทำให้เราได้เห็นปัญหาที่มีอยู่ แต่คนส่วนใหญ่ในสังคมเลือกที่จะมองข้าม เชื่อว่าละครเรื่องนี้จะกลายเป็นหนึ่งในละครน้ำดีที่ชี้ให้คนในสังคมเริ่มตระหนัก และย้อนกลับมาถามตัวเองว่า ‘ใครกันแน่ที่เป็นคนโกง’ หมดเวลาทำข้อสอบ ขอให้นักเรียนทุกคนเก็บอุปกรณ์ และออกไปดูละครออนไลน์ ‘ฉลาดเกมส์โกง’ ทาง WeTV ทุกวันจันทร์ – อังคาร เวลา 22.30 น. โดยพร้อมเพรียง