จากกระแสล่าสุดที่ WHO ออกมาประกาศเตือน ให้เลี่ยงการใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เพราะมีโทษไม่ต่างจากน้ำตาล ทำให้หลายๆคนลังเล หรือสับสนว่า สรุปแล้วสารให้ความหวานแทนน้ำตาลดีหรือไม่ดี วันนี้แมงโก้เลยหาข้อมูลสรุปมาให้ทุกคนได้อ่านกัน เพื่อจะได้เข้าใจสารให้ความหวานแทนน้ำตาลนี้มากขึ้น ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้าสารให้ความหวานกันก่อนดีกว่า สารให้ความหวาน เป็นวัตถุเจือปนอาหารชนิดหนึ่งที่ใช้เพิ่มความหวานให้กับอาหารและเครื่องดื่มแทนน้ำตาล ซึ่งมีทั้งชนิดสังเคราะห์ขึ้นมาและสกัดจากธรรมชาติ โดยมีทั้งแบบให้พลังงาน และไม่ให้พลังงานเลย เช่น กลุ่มให้พลังงาน : ฟรุกโทส (น้ำตาลจากผลไม้) มอลทิทอล ซอร์บิทอล และ ไซลิทอล กลุ่มไม่ให้พลังงาน (หรือมีน้อยมากๆ) : ซูคราโลส สตีเวีย (สารสกัดจากหญ้าหวาน) แอสปาแตม อะซิซัลเฟม-เค และ แซคคารีน ทำให้เรามักจะใช้สารให้ความหวานนี้เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลและพลังงาน หรือนิยมในผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก แต่ล่าสุด WHO ได้ออกมาประกาศว่า การใช้สารให้ความหวานแทนนํ้าตาล ไม่ได้ช่วยในการคุมนํ้าหนักของเราในระยะยาว” โดยเขาได้ทำการวิเคราะห์ทบทวนงานวิจัยจำนวนมาก และติดตามศึกษาคนกลุ่มใหญ่ในระยะยาว 13 ปีจนพบว่า การใช้นํ้าตาลเทียม ส่งผลต่อการช่วยลดนํ้าหนัก หรือลดน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวานน้อยมาก แทบไม่ต่างกับคนที่กินนํ้าตาลปกติเลย นอกจากนี้ ยังพบว่าคนที่กินสารให้ความหวาน ยังเพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวาน,โรคหัวใจ มากกว่าคนที่ไม่กินน้ำตาลเลยอีกด้วย (แม้จะเสี่ยงเพิ่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น) แต่อย่างไรก็ตามก็มีงานวิจัยจำนวนไม่น้อยที่ชี้ว่ากลุ่มทดลองสามารถลดน้ำหนักได้ด้วยการใช้สารแทนน้ำตาล และไม่พบความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องระหว่างการกินสารแทนน้ำตาลกับโรคมะเร็ง ส่วนผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว การบริโภคสารแทนน้ำตาลก็ไม่ได้ส่งผลบวกหรือลบต่อระดับน้ำตาลในเลือดและระดับอินซูลินแต่อย่างใด นอกจากนี้ ดร. อีแวนเจลีน แมนต์ซีออริส นักโภชนาการจากมหาวิทยาลัยเซาท์ออสเตรเลีย ได้ออกมาชี้แจงถึงคำแนะนำของ WHO ทำนองว่า สารแทนน้ำตาลทุกชนิดยังคงมีประโยชน์ในแง่ที่มันไม่ให้พลังงาน หรือมีแคลอรีที่ต่ำมากจนเหมือนกับไม่มี แต่สามารถให้ความหวานได้สูงกว่าน้ำตาลธรรมดาถึง 400 เท่า จึงสามารถนำสารแทนน้ำตาลมาเติมในอาหารหรือเครื่องดื่มของผู้ป่วยเบาหวานเพื่อเพิ่มรสชาติได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สำหรับใครที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือคุมน้ำตาล วิธีที่ดีและปลอดภัยที่สุดคือ การเลี่ยงของหวานทุกชนิดประกอบกับการออกกำลังกายเป็นประจำนะค้าบ อ้างอิง unifychemical.com , bbc.com