เครื่องสำอางและยาที่เราใช้กันอย่างสบายใจว่าปลอดภัยต่อผิวหนัง บางครั้งอาจมีเบื้องหลังที่ไม่สวยงามเท่าไหร่ หากต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดของเหล่าสัตว์ทดลอง ที่เรียกว่า Animal Testing
หลายคนจึงหันมาใช้สินค้าที่ไม่ได้ทำการทดลองกับสัตว์ และหลายแบรนด์ก็เลิกทดลองกับสัตว์ โดยเลือกทำการทดลองแบบอื่นแทน มาทำความรู้จัก Animal Testing ว่ามีการทดลองอย่างไร ทำไมหลายคนจึงไม่สนับสนุน
Animal Testing คืออะไร?
Animal Testing คือ การทดสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์กับสัตว์ทดลอง ก่อนที่จะนำไปใช้กับมนุษย์ มักเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับร่างกายมุษย์โดยตรง เช่น เครื่องสำอาง และยา
โดยสัตว์ที่นำทดลองจะต้องมีผิวหนังที่ตอบสนองไว้และใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด เพื่อผลการทดลองที่แม่นยำ และเป็นสัตว์ขนาดเล็ก เช่น หนูขาว กระต่าย แมว และสุนัข
เครื่องสำอาง ได้รับการทดสอบความปลอดภัยยังไง?
- การทดสอบการระคายเคืองต่อผิว (Skin Irritation Test)
- การทดสอบความเป็นพิษเมื่อเจอแสง (Photo Toxicity Test)
- การทดสอบการระคายเคืองต่อดวงตา (Ocular Irritation Test)
- การทดสอบความสามารถในการซึมซาบสู่ผิวหนัง (Transdermal Permeability Test)
ในการทดลองความปลอดภัยต่อผิวหนัง จะนำสารทดลองทาลงบนผิวหนังสัตว์ทดลอง บริเวณที่โกนขนแล้ว
ส่วน การทดสอบกับดวงตา จะหยดสารทดลองเข้าไปในดวงตาของสัตว์ทดลอง โดยจะมีระยะเวลาทดลองประมาณ 28-90 วัน
ถ้าไม่ใช้สัตว์ทดลองแล้วจะใช้อะไร?
สำหรับการทดลองที่เกี่ยวกับผิวหนังหรือเนื้อเยื่อ ในปัจจุบันมีการทดสอบวิธีอื่น ๆ เช่น การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ หรือสร้างอวัยวะทดแทน โดยการเลี้ยงเซลล์ต้นแบบ (Stem Cell) ให้เติบโตบนไมโครชิปเพื่อเลียนแบบการทำงานของอวัยวะที่ต้องการ
วิธีเลือกเครื่องสำอางที่ไม่ทดลองกับสัตว์
ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทดลองกับสัตว์ จะมีสัญลักษณ์ระบุไว้บนฉลาก มักจะเป็นรูปกระต่าย และมีข้อความว่า
- Cruelty Free
- No Animal Testing
- Not Tested on Animals
- We Never Tested on Animals
แม้ว่าการทดองบางอย่างจะยังมีความจำเป็นต้องใช้สตว์ทดลอง แต่การทดลองที่สามารถใช้วิธีอื่น ๆ ทดแทนได้ ก็ช่วยทดการใช้สัตว์ทดลอง ลดจำนวนสัตว์ที่ต้องได้รบความเจ็บปวดลงไปได้บ้าง
ที่มา