ถ้านึกถึง 5G หลายคน คงนึกถึง “ความเร็ว” ที่เร็วมากกก.. มากแค่ไหน ไม่อาจตอบได้ รู้แต่ว่า น่าจะเร็วกว่า 4G หลายเท่า แล้วจะมีประโยชน์เพิ่มขึ้นกับชีวิตเรายังไงบ้าง วันนี้ Mango Zero จะพาคุณไปชมงาน “ทดสอบ 5G” ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย โดยค่ายมือถือ AIS ในงาน “5G the First LIVE in Thailand by AIS” โดยความร่วมมือกับผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง NOKIA ที่เปิดให้เข้าชมฟรีแล้ววันนี้ ที่ AIS D.C. ชั้น 5 เอ็มโพเรียม โดยมีโชว์เคส 5G ให้ดูถึง 5 นวัตกรรมล้ำๆ เพื่อให้คนไทย และภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ได้สัมผัสประสบการณ์การใช้เทคโนโลยี 5G และได้เห็นประโยชน์ของ 5G ที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม 5G Super Speed สิ่งแรกเลยที่ทุกคนอยากรู้ นั่นก็คือการโชว์ความเร็วแรงของเครือข่าย 5G ถ้าได้ใช้งานจริงๆ แล้วจะเป็นอย่างไร จุดนี้ แสดงการปล่อยสัญญาณ 5G ผ่านเสาอากาศ ไปหาเครื่องมือถือ ซึ่งเป็นอุปกรณ์มือถือต้นแบบ (Prototype) ที่มีชิปเซตรองรับ 5G โดยไม่ได้ใช้อุปกรณ์พิเศษ ย้ำ! ว่าเป็นมือถือ 5G ต้นแบบจริงๆ เพื่อจำลองให้ผู้บริโภคได้เห็นถึงสภาวะแวดล้อมเสมือนจริงของการทำงานของสถานีฐานในการส่งสัญญาณผ่านอากาศไปยังมือถือ ทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงประสบการณ์จริง ว่าเมื่อเครือข่าย 5G มาถึง ความเร็วที่ได้รับผ่านมือถือจริงๆ นั้น จะมีความเร็วที่สูงระดับกิกกะบิต และความหน่วง (Latency) ที่ต่ำในระดับ 5ms ขออธิบายเพิ่มเติมว่า ค่าสปีดที่ได้จากการทดสอบนี้ จะแตกต่างจากการทดสอบสปีด 5G ในต่างประเทศ ตามที่เราเคยเห็นในสื่อต่างๆ เนื่องจาก ในต่างประเทศนั้น เป็นการทดสอบสปีดบนวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ด้วยรูปแบบวิธีการที่ต่างกัน กล่าวคือ มีการใช้ตัวรับสัญญาณเป็นอุปกรณ์พิเศษ ที่ไม่ใช่มือถือ และเป็นการทดลองในห้องแล็บที่ไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมจริง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ คือ ค่าสปีดสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางครั้งความเร็วอาจแตะถึงระดับ 15 Gbps ขึ้นไป ซึ่งได้ยินว่า เร็วๆ นี้ เอไอเอสก็จะนำการทดสอบในลักษณะข้างต้นนี้ มาแสดงให้ชมเช่นกัน 5G Ultra Low Latency – Cooperative Cloud Robot นวัตกรรมนี้จะเป็นการโชว์การตอบสนองที่รวดเร็วของเครือข่าย 5G ให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น โดยการใช้หุ่นยนต์สามตัวในการหาจุดสมดุล เพื่อทำให้ลูกบอลอยู่กึ่งกลางกระดาน พร้อมเปรียบเทียบให้เห็นระหว่างเครือข่าย 4G และ 5G ให้เห็นกันชัดๆ ไปเลย ซึ่งผลที่ได้ คือ เครือข่าย 5G นั้นได้เปรียบ ทั้งในเรื่องของความเร็วและความแม่นยำอย่างเห็นได้ชัด เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับรถยนต์ไร้คนขับ รีโมทคอนโทรลสั่งงานเครื่องจักร 5G for Industry 4.0 ในภาคอุตสาหกรรมยุค 4.0 นี้ต้องบอกเลยว่าหุ่นยนต์มีความสำคัญและแอบจำเป็นอยู่มากเลยนะคะ และเพื่อให้การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลิตสินค้าได้ไว การเชื่อมต่อไร้สายจึงเป็นสิ่งสำคัญอีกเช่นกัน ในงานได้สาธิตการทำงานของหุ่นยนต์ YuMi® Dual-Arm Collaborative Robot จาก ABB ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย 5G ที่ต้องบอกเลยว่า ถ้านำไปใช้ให้เกิดขึ้นจริงอย่างเต็มรูปแบบคือว้าวมาก! 5G Virtual Reality – immersive video ปกติเวลาจะดูวิดีโอแบบ VR ถ้าจะให้คมชัดมากๆ ต้องใช้แบรนด์วิทสูงมากและเน็ตก็ต้องแรงตามด้วย แต่ในงานได้โชว์ศักยภาพของเครือข่าย 5G โดยการให้ผู้ใช้สวมแว่นตา VR และดูวิดีโอแบบชมจริง 360 องศา ให้เห็นว่าดูได้อย่างไม่มีสะดุดเหมาะสำหรับการนำไปใช้เพื่อการถ่ายทอดสดหรือ live streaming มาก หลายคนที่เคยมีประสบการณ์ทดลองใช้ VR มาแล้ว อาจจะรู้สึกเวียนหัว เมื่อใช้งานไปสักพัก นั่นเพราะความหน่วงของการรับส่งข้อมูลที่ไม่สัมพันธ์กับภาพที่เราหันไปมองตามมุมต่างๆ แต่เมื่อเล่นบนเทคโนโลยี 5G จะแสดงผลแทบจะเรียลไทม์และไม่หน่วง ช่วยลดอาการเวียนหัวจากการดูวิดีโอผ่านแว่น VR ลงไปด้วย มาลองเล่นกันดู 5G FIFA Virtual Reality ในงานยังเอาใจคอเกมส์กีฬา ด้วยการทดสอบความเร็วเครือข่าย 5G โดยให้เราเตะลูกบอล Virtual Reality ที่จุดโทษไปยังโกลที่มีผู้รักษาประตูรออยู่ ผ่านทางเครือข่าย 5G และ 4G ซึ่งการเซฟลูกจุดโทษของผู้รักษาประตู ก็เปรียบเสมือนความสามารถในการตอบสนองของเครือข่าย ว่าตอบสนองเร็วแค่ไหน พบว่า โอกาสยิงเข้าของเราน้อยกว่าเมื่อใช้สัญญาณ 5G เพราะผู้รักษาประตูสามารถพุ่งเซฟลูกยิงของเราได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง เป็นอีกโซนที่สนุกและน่าเล่นมาก ท้าทายให้เราได้ทดลองความเร็วของเครือข่าย 5G ด้วยตัวเอง เรียกว่าเป็นสัญญาณที่ดีของนวัตกรรมล้ำๆ ที่เราจะได้ใช้จริงๆ ในไทยโดยเฉพาะเครือข่าย 5G ที่กำลังอยู่ในขั้นของการศึกษาและพัฒนา แต่ระหว่างนี้ถ้าใครสนใจอยากไปทดสอบความเร็วแรง 5G นี้ แวะไปได้เลยที่งาน “5G the First LIVE in Thailand by AIS” จัดแสดงตั้งแต่วันนี้-15 ธันวาคม 2561 ณ AIS DC ชั้น 5 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม เข้าฟรีแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายจ้า