หากใครที่ติดตามข่าวแวดวงรองเท้า มาตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้ก็น่าจะพอเห็นว่าแบรนด์ที่ขยับตัวเคลื่อนไหวออกโปรดัคอย่างถี่ก็เห็นจะมีแต่ Adidas นี่แหละ จึงไม่แปลกอะไรที่ปีนี้ Adidas กลายเป็นแบรนด์กีฬาเบอร์หนึ่ง แซง Nike และ Under Armour ได้สำเร็จ Yahoo Finance ผู้จัดอันดับครั้งนี้พูดถึงภาพรวมของแบรนด์สินค้าสปอร์ตแวร์ที่ได้รับความนิยมที่สุดประจำปี (ได้รับความนิยม แต่ไม่ได้หมายถึงทำกำไรสูงสุดนะ) ว่า Adidas สามารถโชว์ฟอร์มโดดเด่นในตลาดอเมริกา และตลาดโลก หลังสร้างความนิยมให้กับตัวสินค้าได้ โดยรองเท้าเป็นโปรดัคสุดฮิตที่ทำให้ Adidas ติดโผเบอร์หนึ่ง ซึ่งก็คือรองเท้าสนีกเกอร์ในตระกูล NMD และตระกูล Yeezy กับรองเท้าในสายสปอร์ต UltraBoost ซึ่งนี่แหละคือเคล็ดสำเร็จของ Adidas ในปีนี้ ถอดรหัสความนิยมการสู่แชมป์แบรนด์กีฬาเบอร์หนึ่งของ Adidas Yahoo Finance รายงานว่า สาเหตุที่ Adidas กลับมาได้ ก็เพราะปีนี้ พวกเขาคิดค้นนวัตกรรมพื้นรองเท้าแบบโฟมเต็มผืนที่ชื่อว่า Boost ได้ หลังใช้เวลาพัฒนาร่วมสามปี และออกโปรดัคที่ใช้โฟมเป็นวัสดุรองพื้นรองเท้ามาหลายรุ่น จนสุดท้ายมาจบที่รุ่นที่ใช้วัสดุ Boost เต็มพื้นรองเท้า ซึ่งนอกจากจะมีความนุ่มสบายแล้วยังเท่ในสายตาสนีกเกอร์เฮด และคนทั่วไปที่อยากได้รองเท้าสายสปอร์ตแต่ใส่สบายอีกด้วย เมื่อสินค้าเป็นมากกว่าแค่การใส่ออกกำลังกาย แต่เป็นสินค้าในเชิงแฟชั่นไลฟ์สไตล์ Adidas เลยได้รับความนิยมโดยที่คนใส่ไม่จำเป็นต้องเล่นกีฬา ก็อยากได้รองเท้า และยังจับจุดถูกด้วยการเอาสองนักร้องดัง ‘คานเย เวสต์’ และ ‘ฟาเรล วิลเลี่ยม’ มาทำโปรดัคพิเศษ ก็เลยยิ่งทำให้รองเท้าของ Adidas เป็นมากกว่ารองเท้ากีฬา แต่คือรองเท้าที่คนในสายสตรีทแฟชั่น ทุกคนอยากได้ เพราะมันลิมิเต็ด เท่ และมีสไตล์ ที่มาของการพัฒนาพื้น Boost คลิปที่อธิบายการทำงานของพื้น Boost รู้จักกับ 3 เรือธงของ Adidas ประจำปี 2016 ถ้า Air Jordan คือรองเท้าระดับซิกเนเจอร์ของ Nike ที่รีโปรดัคออกมาทีไรก็ขายดีเหมือนแจกฟรี ฝั่ง Adidas ก็มีเช่นกัน โดยรองเท้าของ Adidas ที่ขายโคตรดีในระดับที่มีเท่าไหร่ก็ขายหมดนั้น อย่างที่เราเกริ่นไปว่า NMD – Yeezy – Ultra Boost คือ Unit Hero ของ Adidas ประจำปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัย และปีหน้าก็ยังจะทำให้ Adidas ได้กอบโกยกำไรจากรองเท้าสามรุ่นนี้เช่นกัน โดยรายละเอียดแต่ละรุ่นคือ 1) Adidas NMD R1 เรือธงลำแรกที่ Adidas ปล่อยออกสู่ตลาดเมื่อธันวาคมปี 2015 โดย NMD R1 เป็นรองเท้าที่พัฒนามาจาก รองเท้าสามรุ่นในยุค 80s คือ Micropacer, Rising Star และ Boston Super แล้วนำมาพัฒนาใหม่โดยใส่เทคโนโลยี Boost เข้าไปพร้อมกับออกแบบใหม่ให้ดูร่วมสมัย เสริมเอกลักษณ์ด้วย ‘ปลั๊ก’ สีต่างๆ ที่อยู่ด้านข้างรองเท้าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ NMD R1 สวมใส่สบาย เท่ด้วย ความที่ Adidas ไม่ได้ปล่อยออกมาเยอะ จึงทำให้รองเท้าคู่นี้เป็นที่ต้องการของตลาด ‘Adidas NMD R1 PRIMEKNIT S79478 Oreo’ คู่แรกเดินทางมาถึงเมืองไทยเมื่อต้นเดือนมกราคมปีนี้ และความที่สินค้าได้รับความต้องการสูงจึงเกิดการจราจลย่อยๆ NMD รุ่นนั้นเลยได้ฉายาจากคนไทยว่า ‘NMD ซอมบี้’ บรรยากาศซอมบี้บุก NMD รุ่นห้างแตก ตลอดทั้งปี NMD ก็ผลิตออกมาหลายสี และมีเพิ่มมาอีกสองรุ่นคือ NMD XR-1 และ NMD R2 แน่นอน…หมด ที่สำคัญ NMD ทำให้ Adidas สามารถแย่งมาร์เก็ตแชร์ ในตลาดรองเท้าของสหรัฐฯ และทั่วโลกได้อีกครั้งหนึ่งหลังจากไม่มีรองเท้าอะไรเด่นๆ ออกไปสู้รบปรบมือกับชาวบ้านมานาน และยังได้ ‘ฟาเรล วิลเลี่ยม’ มาทำโปรเจคออกแบบ NMD รุ่นพิเศษ Pharrell x adidas NMD ซึ่งก็ขายดีเช่นกัน โดยราคารีเซลของ NMD รุ่นปกติจะแพงกว่าราคาป้ายราวๆ 3,000 – 5,000 บาท ส่วนรุ่นระดับลิมิเต็ด นี่ก็ให้เอาสองหรือสามไปคูณราคาปกติได้เลย 2) Adidas Yeezy Boost 350 สุดยอดสนีกเกอร์ ที่เหล่าสนีกเกอร์เฮดทุกคนหวังอยากจะมีในครอบครอง โดย Yeezy Boost 350 เป็นผลงานการร่วมกันพัฒนารองเท้าแฟชั่นระหว่าง Adidas กับ ‘คานเย เวสต์’ แร็ปเปอร์ ชื่อดังที่มาออกแบบโปรดัคให้ แล้วก็รุ่ง ออก Yeezy มากี่สีก็ขายดีเวอร์ เนื่องจากรูปร่างที่สวย และคนออกแบบก็คือคานเย สาวกสนีกเกอร์เฮดทั้งหลายเลยอยากได้ตาเป็นมัน ทำให้ราคารีเซล ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แพงกว่าราคาป้าย 2 – 4 เท่าก็มี Yeezy รุ่นแรกถูกปล่อยไปเมื่อปี 2015 ก็ขายดีหมดอย่างไวเหมือนแจกฟรี พอปี 2016 กระแส Yeezy ก็ยังแรงไม่ตก Adidas ก็ปล่อย Yeezy Boost 350 v2 ออกมา ตอนแรกก็โดนวิจารณ์ว่าไม่สวยเลย รุ่นแรกสวยกว่า แต่…วิจารณ์ไปก็เท่านั้น เพราะก็ขายดี ใครๆ ก็อยากจะเอามาใส่เป็นบุญเท้าสักครั้งก่อนจะขายต่อออกไปด้วยราคาระดับเดียวกับ iPhone 7ใครมีอยู่ในตัวไม่ต่างอะไรกับมีทองคำหนึ่งบาทในรูปแบบรองเท้าเลย ‘คานเย เวสต์’ กับรองเท้าที่เขาออกแบบ Adidas Yeezy Boost 350 3) Adidas Ultra Boost รองเท้าสายสปอร์ตที่สามารถใส่เท่ๆ เป็นสนีกเกอร์ได้ ซึ่งเป็นรองเท้าที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบเดียวกับ NMD คือใช้พื้น Boost เต็มผืน และตัวรองเท้าเป็นผ้าใย Primeknit ที่พัฒนาแล้วพัฒนาอีกจนออกมาเป็นรองเท้าวิ่งที่พื้นโคตรนุ่มในระดับที่นุ่มมาก สวมใส่สบายเนียนนุ่ม Ultra Boost ได้รับความนิยมดีมาก ขนาดที่บางรุ่น บางสีหมดอย่างรวดเร็ว กลายเป็นรองเท้าวิ่งระดับแรร์ที่ราคารีเซลแพงกว่าเดิม 2,000 บาทขึ้นไป สาเหตุที่ Ultra Boost ขายก็เพราะ Adidas ไม่ได้ทำให้รองเท้าคู่นี้เป็นแค่รองเท้ากีฬา แต่สร้างภาพลักษณ์ให้เป็นเรื่องเท้าที่ใส่ในเชิงแฟชั่นได้ด้วยนั่นเอง จนเป็นที่มาของการออก Ultra Boost อีกรุ่นที่ชื่อ Ultra Boost Uncaged ที่ก็ขายดีอีกเช่นกันเนื่องจากรูปทรงโน้มเอียงไปทางรองเท้าสายแฟชั่นมากกว่ารองเท้ากีฬา แต่สามารถใส่วิ่งได้ด้วยเทคโนโลยี Boost “Ultra Boost คือตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานระหว่าง รองเท้าวิ่งกับรองเท้าสายแฟชั่นซึ่งมันไม่ง่ายเลย แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีที่เราทำได้” ‘มาร์ค คิงส์’ ประธาน Adidas ในอเมริกาเหนือพูดถึงรองเท้ากีฬาระดับเรือธง ที่ได้รับรางวัลรองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดในโลกด้วย การเติบโตของ Adidas ในปี 2016 แม้ Adidas จะไม่ได้เป็นแบรนด์ที่ทำกำไรสูงสุดแห่งปี แต่อันดับก็ขยับมาอยู่ที่อันดับสองตามหลัง Nike ผู้นำอยู่เท่านั้น และแซง Under Armour ได้สำเร็จ แต่ในแง่ของการถูกพูดถึง Adidas ถูกยกให้เป็นแบรนด์กีฬาแห่งปีมากกว่า ส่วนสาเหตุที่ Adidas ทำได้ก็เป็นเพราะ Adidas วางโปรดัคให้เป็นสินค้าไลฟ์สไตล์มากกว่าเจาะจงว่านี่คือรองเท้ากีฬา ที่สำคัญสินค้ารองเท้าที่ออกมาจากภายใต้แบรนด์ Adidas Original ยังสร้างให้เกิดแฟชั่นเทรนด์ขึ้นมาได้ ยิ่งการเลือกผนึกมือกับคานเย เวสต์ กับ ฟาเรล วิลเลี่ยม มาช่วยสร้างเทรนด์ ก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดี และอันที่จริงคานเย และฟาเรล ไม่ใช่ศิลปินคนแรกที่มีส่วนกับการช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้สินค้า แต่ก่อนหน้านั้นเมื่อ 30 ปีก่อนศิลปินวง RUN – DMC ก็เคยแต่งเพลงชื่อ My Adidas ให้ Adidas มาแล้ว และตอนนั้นศิลปินทุกคนใส่ Adidas Stan Smith เลยทำให้รองเท้ารุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก แม้กระทั่งวันนี้ก็ตาม ‘ฟาเรล วิลเลี่ยม’ กับรองเท้าที่เขาออกแบบ อนาคตของ Adidas ในปี 2017 ส่วนในปี 2017 มีการคาดการว่า Adidas ก็อาจยังครองตลาดสนีกเกอร์ อยู่ดี และมีแนวโน้มที่จะขึ้นมาครองบัลลังค์เบอร์หนึ่งได้ เนื่องจาก NMD กับ Yeezy 350 จะมีคอลเลคชั่นใหม่ออกมา ขณะที่ Ultraboost ซึ่งปัจจุบันเพิ่งปล่อย รุ่น 3.0 ออกไปแค่ 5 สีก็ยังมีโอกาสที่จะโกยเงินได้อีกตั้งแต่ต้นปี ไม่เพียงแต่รองเท้าสามรุ่นที่เล่าไปแต่รองเท้ารุ่นอื่นๆ อย่างเช่นสองตำนานอย่าง Stan Smith กับ Adidas Super Star หรือรองเท้ารุ่นใหม่อย่าง Tubular หรือ ZX Flux ก็ได้รับความนิยม ซึ่งเราก็เชื่อว่าความนิยมจะยังมีอย่างต่อเนื่องจากกว่าจะโดนใครมาท้าชิงบัลลังค์อีกครั้ง อีกทั้งดูเหมือนว่า Adidas จะเลือกใช้นวัตกรรมใหม่ๆ มาสร้างโปรดัคในอนาคตด้วยอย่างเช่นการออกรองเท้ารุ่นลิมิเต็ดที่ใช้วัสดุแปลกๆ เช่น Adidas Futurecraft Biofabrics ซึ่งยังเป็นรุ่นต้นแบบอยู่ Adidas Futurecraft Biofabrics 10 รองเท้า Adidas รุ่นที่น่าสนใจในปี 2016 1.Adidas NMD R1 PK OG Core Black 3.Pharrell x Adidas NMD Human Race 5.Adidas NMD City Sock 7.Adidas Yeezy Boost 750 9.Adidas UltraBoost Triple Black 2.Adidas NMD R1 PK OG white 4.Adidas NMD R1 PK Oreo 6.Adidas Yeezy Boost 350 8.Adidas Yeezy Boost 350 V.2 10.Adidas UltraBoost Uncaged x Parley ที่มา – yahoo