สถานการณ์ทีวีดิจิทัลยังคงอยู่ในภาวะวิกฤติจากรายได้โฆษณาที่ลดลงต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมามีช่องโทรทัศน์ 7 ช่องทยอยลาจอกันไป ขณะที่เมื่อต้นปีช่อง MONO เองก็ปลดพนักงาน 200-300 คน ล่าสุดช่อง 3 มีการปรับลดขนาดองค์กร เปิดให้พนักงานสมัครใจ “ลาออก” อีกครั้งสิ้นเดือน ก.พ.นี้ ตั้งแต่ปี 2560 บีอีซี เวิลด์ หรือ ช่อง 3 มีผลประกอบการรายได้และกำไรลดลงมาต่อเนื่อง กระทั่งเริ่มขาดทุนในปี 2561 กว่า 330 ล้านบาท และ ช่วง 3 ไตรมาสแรกปี 2562 ขาดทุน 138 ล้านบาท จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ในปี 2560 ช่อง 3 มีการ “เลิกจ้าง” พนักงานอายุ 60 ปี ที่ยังคงทำงานอยู่ร่วม 100 คน มาในปี 2562 หลังคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล 2 ช่อง ในเดือน ต.ค. จากนั้นได้ “เลิกจ้าง” พนักงานฝ่ายข่าวและอื่นๆ อีก 177 คน ล่าสุดเดือน ก.พ. 2563 เปิดให้สมัครใจลาออก ปัจจุบัน ช่อง 3 มีพนักงาน 1,500 คน ล่าสุดวันนี้ คุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. บีอีซี เวิลด์ ได้จัด Town Hall ชี้แจงกับพนักงานถึงกลยุทธ์และแนวทางการทำธุรกิจของบริษัทในปี 2563 ซึ่งกลยุทธ์ของช่อง 3 จะครอบคลุมด้านคอนเทนต์ ที่จะมีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับผู้ชม โดยเฉพาะการปรับคอนเทนต์ในช่วงไพรม์ไทม์ตั้งแต่เวลา 18:00 ถึง 22:30 น. กลยุทธ์ต่อมาคือการเปิดตัว ‘CH3+’ ออนไลน์แพลตฟอร์มโฉมใหม่ ที่จะเป็นตัวเชื่อมทีวีและออนไลน์เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์ D2C หรือ Direct to Consumers ทำให้เจ้าของสินค้าทำได้มากกว่าการโฆษณาเพื่อการจดจำเท่านั้น แต่จะสามารถเพิ่มยอดขายและจำนวนลูกค้าได้ทันทีที่รับชมอีกด้วย รวมถึงกลยุทธ์การขายคอนเทนต์ของช่อง 3 ไปยังต่างประเทศ ซึ่งการทำกลยุทธ์ทั้งหมดนี้ทำให้ช่อง 3 มีความจำเป็นที่จะต้องลดขนาดขององค์กรลง ดังนั้นบริษัทจึงได้แจ้งต่อพนักงานถึงโครงการสมัครใจลาออก การลดขนาดขององค์กรในครั้งนี้จะทำให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างคล่องตัว กลับมาทำกำไร และเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป แต่การปรับโครงสร้างครั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยว่าจะลดจำนวนพนักงานลงอีกเท่าไหร่ ต้องติดตามดูกันต่อไป ที่มา : Positioning Magazine, Brand Buffet