อีกไม่กี่วันเราก็กำลังจะเดินทางข้ามผ่านปี 2019 กันไปอีกปีแล้ว ช่วงนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่หลายคนเริ่มจะเคลียร์ตัวเอง ทั้งเรื่องงาน ภารกิจที่คั่งค้างในปีนี้ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่ใช้แล้ว เตรียมโกยทิ้ง โบกมือลาสิ่งเก่าๆ เพื่อเตรียมต้อนรับสิ่งใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในปี 2020 กันแล้ว แต่สำหรับใครที่เป็นสายแฟชั่น สายอัพเดตทันทุกสถานการณ์ เขาฮิตอะไร พี่ไปช้อปหมด แน่นอนว่าต้องมีสิ่งของให้ทิ้งเยอะขึ้นหน่อย แต่ก็มีบางไอเท็มที่ยังเก็บไว้ใช้ได้ ไม่เอ้าท์ไปง่ายๆ พร้อมไปต่อกับเราในปีหน้าได้อีกเรื่อยๆ วันนี้เรารวมไอเท็มสุดฮิตที่เก็บไว้ใช้ต่อถึงปีหน้าได้อีก รับรองว่ามีไว้ไม่มีเอ้าท์ จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย 1. หลอดใช้ซ้ำ “หลอดใช้ซ้ำ” ไอเทมตัวช่วยสำหรับดื่มน้ำที่มาพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มเย็นๆ ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้เราทุกวัน มองเผินๆอาจจะดูมีประโยชน์ที่ช่วยให้เราอร่อยกับเครื่องดื่มได้ง่ายๆ แต่ขณะเดียวกันประโยชน์เพียง 5-10 นาทีของมันกลับสร้างขยะย่อยสลายยากจำนวนมหาศาลในทุกๆ นาที ในปีที่ผ่านมาเราจึงเริ่มเห็นคนออกมารณรงค์ใช้แก้วน้ำและหลอดดูดน้ำ Reuse กันมากขึ้น ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งออกมาแจกหลอดใช้ซ้ำให้ลองใช้กันฟรีๆ เลยก็มี แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าเกิดเราซื้อมาใช้ไปนานๆ เข้า มันจะสกปรก เป็นที่กักเก็บเชื้อราหรือเปล่า วันนี้เลยขอแชร์เคล็ดลับการทำความสะอาดหลอดใช้ซ้ำให้สะอาด เพื่อความสบายใจในการใช้งานครั้งต่อไปได้ ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือ เราควรจะล้างหลอดด้วยหัวแปรงสำหรับล้างหลอดโดยเฉพาะ ยิ่งใครที่ชอบดื่มเครื่องดื่มที่มีความมันและน้ำตาลเยอะๆ ยิ่งควรจะล้างหลอดหลังจากรับประทานเสร็จแล้วทุกครั้ง เพื่อให้คราบมันไม่ติดฝังลึกเกิดเป็นสนิมด้านใน และไม่ควรเก็บหลอดไว้ในที่ที่ชื้นมาก หากมีเวลาควรนำหลอดมาผึ่งแดดฆ่าเชื้อบ้าง รวมไปถึงการเลือกซื้อหลอดใช้ซ้ำ ในปัจจุบันมีหลอดใช้ซ้ำดีไซน์ด้วยวัสดุที่หลากหลายมากขึ้น หากใครไม่มั่นใจกับฝีมือการทำความสะอาดของตัวเอง ก็ควรเลือกหลอดที่มีความใส สามารถมองเห็นด้านในได้ชัดเจน จะดีกว่าหลอดดื่มน้ำประเภทสแตนเลสหรือสีทึบที่ทำความสะอาดยากนะ 2. ถุงผ้า นอกจากหลอดใช้ซ้ำแล้ว สิ่งที่ปีนี้ฮิตมาติดๆ กันเลยก็คือ “ถุงผ้า” นั่นเอง ขณะนี้ทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาจำนวนขยะถุงพลาสติกล้นโลกต้องใช้เวลาย่อยสลายนานถึง 450 ปี ประเทศไทยเองก็มีปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วในประเทศไทยมีจำนวนมหาศาลถึง 45,000 ล้านใบต่อปีเชียวนะ! (ข้อมูลกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) เห็นได้จากข่าวการเสียชีวิตของเหล่าสัตว์ในท้องทะเลมากมาย ที่ล้วนแล้วแต่มีสาเหตุมาจากขยะพลาสติกที่กินเข้าไปทั้งนั้น ปีนี้จึงเป็นปีที่ไทยเราหันมาสนใจในประเด็นนี้กันอย่างจริงจังมากขึ้น โดยในปี 2020 ที่กำลังจะถึงนี้ ก็มีเครือข่าย 43 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังทั่วประเทศ จะดีเดย์พร้อมใจกันงดแจกถุงพลาสติกแล้ว แน่นอนว่าถุงผ้าจะยิ่งเป็นสิ่งที่ขายดีมากขึ้นไปอีก แบรนด์แฟชั่นหลายๆ แบรนด์เริ่มออกแบบกระเป๋าผ้า ถุงผ้าลายเก๋ๆ มาขายให้คุณได้เลือกซื้อกันเยอะแยะไปหมด มั่นใจได้ว่าไอเท็มไม่มีเอ้าท์แน่นอน แต่การซื้อถุงผ้าไว้ในครอบครองเยอะเกินไป อันที่จริงแล้วอาจจะไม่ได้ช่วยลดโลกร้อนได้จริงๆ นะ เพราะงานวิจัยจากประเทศเดนมาร์ก ก็เคยออกมาเผยว่า คนส่วนใหญ่ใช้ถุงผ้าผิดวิธี จนแทนที่จะช่วยลดปริมาณขยะจากถุงพลาสติก กลับกลายเป็นยิ่งทำลายธรรมชาติยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะเมื่อเปรียบเทียบวัตถุดิบที่นิยมนำมาผลิตถุงผ้าหลายๆ ชนิดแล้ว ลองเอามาวัดผลหาความอันตรายต่อธรรมชาติ 16 วิธีด้วยกัน ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ทำให้ประหลาดใจ สาเหตุก็เพราะกระบวนการผลิตถุงผ้า ต้องใช้ทรัพยากรมากจนทำให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอยู่เหมือนกัน ทั้งทรัพยากรน้ำและป่าไม้ เช่น ถุงผ้าที่ทำจากฝ้ายออร์แกนิก จำเป็นต้องถูกใช้ซ้ำถึง 20,000 ครั้ง จึงจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยเท่าถุงพลาสติก ขณะที่ถุงผ้าที่ทำจากฝ้ายทั่วไปที่ผ่านการตัดต่อยีนนั้นต้องถูกใช้ซ้ำ 7,000 ครั้ง ดังนั้นทางที่ดี ก่อนซื้อถุงผ้าควรเลือกลายที่ถูกใจจริงๆ เก็บไว้ใช้ซ้ำบ่อยๆ จนคุ้มดีกว่า ถึงจะเป็นการช่วยโลกที่ดีที่สุดนะจ๊ะ 3. Sneaker ไอเท็มยอดฮิตที่จะปีไหนก็ไม่เคยเอ้าท์ก็เห็นจะเป็นรองเท้าสนีกเกอร์นี่แหละ รองเท้าประเภทเดียวที่ซื้อติดบ้านไว้ไม่มีเสียดายแน่นอน เพราะเป็นรองเท้าที่ให้ความคล่องตัวยามสวนใส่ ไปไหนไปกัน เหมาะกับหลายโอกาส จะใส่เดินเล่น ไปเที่ยว ไปทำงาน หรือวันไหนๆ ถ้าเลือกสีมิกซ์แอนด์แมทซ์กับเสื้อผ้าดีๆ ก็ใช้ได้ยาวๆ เหมือนกัน โดยเฉพาะสนีกเกอร์รุ่นยอดฮิต สไตล์มินิมอลสีพื้นๆ เช่น ขาว ดำ สีเข้มหลายๆ เฉด การซื้อรองเท้าสนีกเกอร์ดีๆ เก็บไว้ซักคู่นึง ก็ใช้ใส่ได้หลายโอกาสเลยนะ แถมบางรุ่นก็ดีไซน์มาให้ถนอมส้นเท้า จะเดินเยอะแค่ไหนก็ไม่เมื่อย ปลอดภัย กว่ารองเท้าเปิดส้นแบบอื่นๆ ไปอีก 4. ชุดออกกำลังกาย ส่วนเทรนด์ชมรมคนรักสุขภาพในปีนี้ก็ยังไม่หมดไปง่ายๆ เห็นได้จากในทุกเดือนที่ผ่านมา เรามักจะเห็นอีเวนท์งานวิ่งมาราธอน งานปั่นจักรยาน มาให้เห็นอยู่ทุกเดือนไม่ขาด พ.ศ.นี้คนหันมาสนใจสุขภาพกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงต้นปีหน้า เชื่อว่าปณิธานในใจหลายๆ คน จะต้องมีเรื่องอยากออกกำลังกายให้มากขึ้นอยู่ในนั้นแน่ๆ ธุรกิจฟิตเนสและร้านอาหารคลีนดูจะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงนั้น ฉะนั้นรับรองได้เลยว่าไอเทมชุดออกกำลังกาย จะไม่มีทางเอ้าท์ไปไหนแน่นอน อีกอย่างข้อดีของการมีชุดออกกำลังกายซักชุดไว้ก็ดีอยู่ ตรงที่ถ้าเราเลือกซื้อชุดออกกำลังกายที่ดี ชุดจะช่วยซับพอร์ตร่างกายของเราตอนออกกำลังกายได้คล่องตัวมากขึ้น ยืดหยุ่นมากขึ้น แถมเนื้อผ้าซักง่ายแห้งไว เพราะงั้นมีไว้ซักชุดยังไงก็คุ้ม 5. กล้องฟิล์ม อีกหนึ่งเทรนด์ฮิตในอดีตที่กลับมามีชีวิตอีกครั้งใน พ.ศ. นี้ แม้ว่าเทคโนโลยีเราจะก้าวไกล มีกล้องเจ๋งๆ ออกมามากมาย ทั้งกล้อง DSLR เลนส์คมชัดเห็นทุกอณูทะลุรูขุมขน กล้อง Mirrorless ตัวเล็ก พกพาง่าย แต่คุณภาพไม่เล็กอย่างที่คิด กล้อง Action Camera ตัวจิ๋วแต่เก็บภาพ VDO ได้ระดับ 4K รวมไปถึงกล้องในสมาร์ทโฟนปัจจุบันนี้ ก็พัฒนาไปไกลเทียบเท่ากล้องโปรดีๆ หลายรุ่นกันแล้ว แต่หลายคนกลับคิดถึงเสน่ห์ของเสียงลั่นชัตเตอร์ ที่เมื่อกดถ่ายไปครั้งนึงแล้ว ก็ต้องลุ้นกันอีกทีว่ารูปจะออกมาเป็นยังไงตอนที่ล้างออกมา บางคนหลงรักในสีของภาพฟิล์ม ทำให้กล้องฟิล์มกลับมาเป็นไอเทมฮิต ทั้งในหมู่วัยรุ่น ศิลปิน ดาราทั่วโลก ร้านขายกล้อง ร้านล้างฟิล์มหลายเจ้าที่อยู่มาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ ก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง จากกระแสฟีเวอร์กล้องฟิล์มในปีนี้ ยิ่งกล้องฟิล์มรุ่นดังๆ ราคาขึ้นกันแทบจะเท่าราคากล้องรุ่นใหม่ในตลาดเลย จะพกไว้ถ่ายเล่นซักตัวยามไปเที่ยวกับเพื่อนก็น่าสนุกนะ 6. บัตรเดบิต BLACKPINK กสิกรไทย นาทีนี้คงไม่มีใครไม่เคยเห็นบัตรเดบิต BLACKPINK กสิกรไทย บัตรเดบิตที่ฮอตสุดๆ จากโปรเจคท์ยักษ์ KBank x BLACKPINK #แค่เชื่อก็เป็นได้ ที่โดนใจคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ BLINK ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งคอลเลคชั่นนี้มีลายหน้าบัตรสวยๆ จัดเต็มมาให้เลือก 5 ลาย พร้อมเซ็ตกระเป๋าสุดคิ้วท์ มีสายคล้องกระเป๋า สมุดบัญชีเงินฝาก (แต่ถ้าสมัครผ่าน K PLUS จะได้สมุดโน้ตลายเดียวกันแทน) และโค้ดดาวน์โหลดธีมบน K PLUS นอกจากนี้ตัวบัตรยังมีสิทธิประโยชน์มากมายทั้งคูปองส่วนลดต่างๆ และที่สำคัญยังมีสิทธิ์ลุ้นไปงาน KBank x BLACKPINK FAN MEETING ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2563 ด้วย จากความคุ้มค่าทั้งด้านการเงินและด้านจิตใจขนาดนี้ ทำให้บัตรเดบิตรุ่นนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก และเปิดให้สมัครเป็นเจ้าของกันได้ในระยะเวลาจำกัด ซึ่งถ้าหมด ก็จะไม่มีการผลิตซ้ำอีกแล้ว ตอนนี้ใครยังไม่มีรีบไปสมัครกันด่วนๆ เลย จะสะดวกที่สาขากสิกรไทยก็ไปได้ทุกสาขา หรือจะสมัครผ่าน K PLUS ก็ทำได้ง่ายๆ ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 750 บาท ฟรีค่าธรรมเนียมรายปีในปีแรก ปีถัดไป 350 บาท รับรองมีไว้ไม่มีเอาท์แน่นอน