ไม่ใช่ใครก็ซื้อคอนโดได้ ขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่จะมีคอนโดเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กจบใหม่ที่เพิ่งก้าวเท้าออกจากรั้วมหาลัยเข้าสู่โลกแห่งการทำงาน และอยากอยู่คอนโดดีๆ ที่ไม่ไกลจากที่ทำงาน แต่ติดตรงเรื่องเงิน กลัวจะกู้ไม่ผ่าน กลัวรายได้ไม่พอ ผ่อนไม่ไหว จนถอดใจว่าคงซื้อคอนโดไม่ได้ จริงๆ ถ้าเราวางแผนและเตรียมพร้อมทางการเงินให้ดี เช็คทุกอย่างด้วยความรอบคอบ ทำตามระบบอย่างถูกต้อง ก็ซื้อได้นะ ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไง Mango Zero ขอแนะนำ 6วิธีเตรียมพร้อมทางการเงินแบบง่ายๆ ลองทำตามแล้วเตรียมเป็นเจ้าของคอนโดกันได้เลย! ดูรายรับรายจ่ายส่วนตัวว่าพร้อมแค่ไหน ถ้าคิดจะซื้อคอนโด ขั้นต้นเลยก็ควรประหยัดรายจ่ายให้ได้มากที่สุด เพราะเดี๋ยวจะต้องมีภาระผ่อนหนี้ให้ต้องจ่ายทุกเดือน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ เกี่ยวกับคอนโด (เช่น ค่าส่วนกลาง) และถ้าเป็นไปได้ ก็ควรมีเงินสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ไม่ให้กระทบกับเงินผ่อนคอนโด และควรผ่อนหนี้ที่ติดค้างอยู่ให้หมดซะก่อนด้วย รายได้จะมากจะน้อยไม่สำคัญเท่าการวางแผนและใช้จ่ายอย่างมีสติ เดี๋ยวนี้ก็มีแอปพลิเคชั่นทางการเงินให้เลือกใช้มากมาย เป็นตัวช่วยในการแพลนรายรับรายจ่ายได้เป็นอย่างดี จัดการ Statement ให้เรียบร้อยก่อนยื่นกู้ ธนาคารผู้อนุมัติสินเชื่อกู้ซื้อคอนโด จะพิจารณา Statement ย้อนหลัง 6 เดือน (โดยส่วนใหญ่) เราจึงต้องเดินบัญชีไว้ตลอด ไม่ควรถอนออกจนหมด เพราะยิ่งมียอดเงินคงเหลือมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อการอนุมัติขอสินเชื่อเท่านั้น อ้อ! ส่วนคนทำงานฟรีแลนซ์ ต้องเตรียมหลักฐานที่แสดงที่มาที่ไปของเงินได้อย่างชัดเจน เช่น บัญชีเงินฝากที่มีเงินเข้าสม่ำเสมอ เพื่อทำให้ธนาคารมั่นใจว่าเราสามารถชำระหนี้คืนได้จริงๆ เช็คเครดิตบูโร ประวัติการชำระหนี้ เครดิตบูโร หรือรายงานข้อมูลเครดิต เป็นข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการชำระหนี้ของเรา เก็บไว้ในระบบฐานข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิต ไม่ว่าจะเคยทำบัตรเครดิตกี่ใบ ขอสินเชื่อรถกี่คัน ขอสินเชื่อบ้านกี่หลัง ก็จะแสดงในรายงานข้อมูลเครดิตทั้งหมด เช่นเดียวกับประวัติการชำระหนี้ไม่ตรงเวลา ก็จะติดแบล็กลิสต์ กลายเป็นผู้กู้ที่มีความเสี่ยงจะเป็นหนี้เสีย และอาจทำให้ธนาคารปฏิเสธการให้กู้ซื้อคอนโดได้ (ทั้งนี้ แล้วแต่การพิจารณาของธนาคาร) สามารถตรวจสอบเครดิต รวมถึงขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (www.ncb.co.th) ตรวจสอบยอดเงินที่สามารถกู้ได้ ก่อนจะกู้ซื้อคอนโด (หรือบ้าน) กับธนาคาร เราต้องตรวจสอบยอดเงินที่สามารถกู้ได้ เพื่อวางแผนทางการเงินต่อไป โดยตัวแปรที่กำหนดความสามารถในการผ่อนหนี้ และยอดเงินที่สามารถกู้ได้ มี 3 ตัวแปร คือ รายได้ ภาระหนี้ และวงเงินกู้ รายได้ – มีผลต่อวงเงินกู้เต็มๆ ธนาคารจะคำนวณรายได้เรา กับอัตราที่ธนาคารปล่อยกู้ โดยยึดหลักที่ 40% ของรายได้ต่อเดือนของเรา ในการคำนวณงวดผ่อนชำระสูงสุดที่จะจ่ายได้ เช่น มีรายได้ 35,000 บาทต่อเดือน สูตรคิดก็จะเป็น 35,000 x 40% = 14,000 บาท เป็นความสามารถในการผ่อนต่อเดือนของเรา ภาระหนี้ หนี้สินอื่นๆ ในแต่ละเดือน – เช่น ค่าผ่อนรถ ผ่อนสินค้า จะถูกเอามาลบกับความสามารถในการผ่อนหนี้ ได้เป็นความสามารถในการผ่อนบ้าน/คอนโด เช่น มีรายได้ 35,000 บาท แต่มีค่าผ่อนอย่างอื่น 5,000 บาทต่อเดือน สูตรคิดจะเป็น (35,000 x 40%) – 5,000 = 9,000 บาท วงเงินกู้ – เมื่อรู้แล้วว่า เงินผ่อนชำระต่องวดสูงสุดต่อเดือนที่เราความสามารถผ่อนได้ เป็นเท่าไร ก็ให้นำเงินจำนวนนั้นไปคิดเป็นวงเงินกู้สูงสุดที่เราจะกู้ได้ โดยคิดจาก “จำนวนเงินผ่อนชำระต่องวด 7,000 บาท จะได้วงเงินกู้ 1,000,000 บาท” ถ้ามีรายได้ 35,000 บาท มีความสามารถในการผ่อนต่อเดือน 14,000 บาท ก็จะมีวิธีคิดวงเงินกู้สูงสุดของการกู้ซื้อบ้าน/คอนโดเป็น (1,000,000 x 14,000) ÷ 7,000 = 2,000,000 บาท ทำเช็คลิสต์ เช็คความคุ้มค่า เมื่อเงินพร้อม ต่อมาคือต้องเช็คว่าคอนโดที่เราจะจ่ายเงินซื้อ มันคุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราแค่ไหนแล้วเช็คอะไรบ้างล่ะ? ก็ตามนี้เลย ที่ตั้ง: เช็คก่อนว่ามันใกล้ที่ทำงานแค่ไหน ต้องนั่งรถกี่ต่อ หรือเดินกี่นาทีถึง ติดรถไฟฟ้าจริงหรือเปล่า นอกจากนั้นก็ควรเช็คด้วยว่า ที่ตั้งมันง่ายต่อการเดินทางไปที่อื่นแค่ไหน เชื่อมต่อกับคมนาคมอื่นนอกจากรถไฟฟ้าไหม สภาพแวดล้อม: รอบด้านเป็นยังไง ความปลอดภัยไว้ใจได้หรือเปล่า ติดสถานบันเทิงที่อาจส่งเสียงดังมาถึงคอนโดหรือเปล่า ถ้าใช้ชีวิตอยู่จริงๆ จะสะดวกสบายไหม สิ่งอำนวยความสะดวก: Facilities ครบครันแค่ไหน มีอะไรอำนวยความสะดวกบ้าง แบรนด์: เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือแค่ไหน เช็คให้ชัวร์ ราคา: เทียบกับความคุ้มค่าทั้งหมดที่ว่ามา สมเหตุสมผลกับราคาไหม เลือกคอนโดที่ซื้อได้ในราคาผ่อน ไม่เกิน 40% ของรายได้ สุดท้าย ยังไงก็ควรเลือกซื้อคอนโดที่มีราคาผ่อนไม่เกิน 40% ของรายได้เรา เพื่อไม่ให้ต้องลำบากจนเกินไปในการผ่อนจ่ายทุกเดือน ซึ่งคอนโด Aspire เอราวัณ ตอบโจทย์ข้อนี้มากๆ มีราคาที่เอื้อมถึง เพียง 1.89 ล้านบาท ผ่อนได้ไม่ลำบาก แถมยังคุ้มค่าสุดๆ ในทุกข้อของเช็คลิสต์ ทั้งโลเคชั่นที่ติดรถไฟฟ้า หน้าสถานี BTS ช้างเอราวัณ สายหลักต่อเดียวถึงสยาม และใกล้กับสายสีเหลืองที่กำลังก่อสร้าง เชื่อมต่อไปยังฝั่งศรีนครินทร์, ถ้าขับรถก็ใกล้ทางขึ้นวงแหวนอุตสาหกรรม และทางด่วนบางนา, สภาพแวดล้อมดี ใช้ชีวิตอยู่สะดวกสบาย มีทั้ง 7-11 ตลอด 24 ชั่วโมง ร้านอาหาร และร้านกาแฟ D’oro มีส่วนกลางสุดชิค นั่งคิดงานก็ดี นั่งชิลล์ก็เพลิน และเป็นแบรนด์ AP ที่น่าเชื่อถือมานานกว่า 27 ปี วันที่ 14-15 ก.ย.นี้ ยังมีโปรโมชั่นพิเศษจากคอนโด จอง 999 บาท จ่ายให้อยู่ฟรี 2 ปี ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน + ของแถม 14 รายการ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ วอลเปเปอร์ และม่าน ลากกระเป๋าพร้อมเข้าอยู่ได้เลย ราคาเริ่ม 1.89 ล้าน ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ https://bit.ly/2kJX130