ปฏิเสธไม่ได้ว่าชานมไข่มุก คือเครื่องดื่มที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนี้ นอกจากจะเห็นได้จากร้านชานมไข่มุกที่เปิดแทบทุกตรอกซอกซอย จนเรียกได้ว่าแทบจะเปิดชนกระทบไหล่กันอยู่แล้ว เรายังเห็นได้จากความต้องการของคอชานมที่ยืนต่อคิวรอกันยาวเหยียดไม่มีย่อหย่อน และเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ยืนรอคิวจนแทบจะหลับได้สิบตื่น… ในเมื่อต้องใช้เวลาในการรอเหมือนกัน ทำไมเราไม่ชงเองมันเสียเลยล่ะ? อยากรู้จังว่าถ้าเราปั้นไข่มุกเอง ต้มชาเอง (แต่ไม่ถึงขั้นเก็บใบชาเองนะ) มันจะใช้เวลานานสักแค่ไหนกันเชียว ไม่แน่… อาจติดใจรสมือตัวเอง หรือขอถอดใจรอคิวกันต่อไปดีกว่า เอ้า! ของอย่างนี้มันต้องลอง มาลงมือกันเถอะ! 1. เตรียมอุปกรณ์ ส่วนที่ทำไข่มุก : น้ำตาลทรายแดง หรือ น้ำตาลมะพร้าว ประมาณ 1/3 ถ้วยตวง น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วยตวง ช้อนคันใหญ่ หรือ ไม้พาย ช้อนตะแกรง หม้อต้มน้ำ โหลผสมที่สามารถทนความร้อนได้ กระดานนวดแป้ง หรือ แผ่นซิลิโคนนวดแป้ง (อุปกรณ์เสริม จะมีหรือไม่มีก็ได้) น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (อุปกรณ์เสริม จะมีหรือไม่มีก็ได้) แมว (ไม่เกี่ยวนะ) ส่วนที่ทำชานม (สำหรับแก้ว 16 ออนซ์) ชาดำ (Black Tea) 20 กรัม น้ำร้อน 100 มิลลิลิตร นมผสม (สัดส่วนระหว่างนมข้นหวานต่อนมข้นจืด 1:1) 60 มิลลิลิตร นมสด 45 มิลลิลิตร น้ำแข็ง กาน้ำชา หรือ เฟรนช์เพรส (French Press) หรือ ใช้ต้มในหม้อแล้วกรองผ่านตะแกรงก็ได้ 2. ละลายน้ำตาลทรายแดง + เทแป้งมัน ละลายน้ำตาลทรายแดงปริมาณ 1/3 ถ้วยตวง ด้วยน้ำร้อน 50 มิลลิลิตร คนให้น้ำตาลทรายละลายจนหมด จากนั้นเทแป้งมัน 1/2 ถ้วยตวงตามลงไป แล้วคนให้เข้ากัน หรืออาจใส่แป้งไว้ในโหลผสม แล้วเทตามด้วยน้ำตาลทรายแดงที่ละลายไว้ เพื่อให้ง่ายต่อการนำไปตุ๋นในสเต็ปต่อไป 3. ตุ๋น + ตะล่อมแป้ง ต้มน้ำในหม้อ เพื่อเตรียมตุ๋นส่วนผสมข้างต้น โดยการยกโหลผสมวางบนหม้อต้มน้ำอีกที พยายามคนไปเรื่อยๆ จนกว่าส่วนผสมจะเริ่มหนืด จากนั้นยกโหลผสมออกมาวางนอกเตา โดยยังคงอุ่นน้ำในหม้อต้มเอาไว้เรื่อยๆ จากนั้นค่อยๆ เทแป้งมันที่เหลืออีก 1/2 ถ้วยตวง ใช้ช้อนหรือไม้พายตะล่อมแป้งให้เข้ากันไปเรื่อยๆ จนกว่าส่วนผสมจะค่อยๆ เริ่มเย็นพอที่จะใช้มือนวดต่อได้ 4. นวดแป้ง + ปั้นก้อนไข่มุก ถ้าส่วนผสมแห้งเกินไป ให้ค่อยๆ เติมน้ำร้อนที่อุ่นไว้ในหม้อตามลงไป ย้ำว่าน้ำต้องร้อนและต้องเติมทีละนิดเท่านั้น พยายามนวดแป้งไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสามารถปั้นเป็นก้อนกลมได้ แต่ถ้าส่วนผสมมีความเหลว ไม่แนะนำให้เติมแป้ง แต่ให้นำกลับไปนวดโดยอังบนหม้อต้มน้ำอีกครั้ง แค่ให้พอกลับมาขึ้นรูปได้ ถ้าใครถนัดนวดในโหลผสมก็ได้ หรือจะยกก้อนแป้งออกมานวดบนกระดานนวดแป้งก็ได้ อาจโรยแป้งนวลนิดหน่อย เพื่อไม่ให้เหนียวติดกระดาน และเมื่อขึ้นรูปจับตัวเป็นก้อนกลมดีแล้ว ก็ค่อยๆ แบ่งออกมาปั้นเป็นก้อนกลมเล็กๆ ขนาดเท่าไข่มุกปกติที่เรากินกัน 5. ต้มไข่มุก + ร่อนตะแกรง ต้มน้ำในหม้อจนเดือด แล้วใส่ก้อนไข่มุกที่เราเพิ่งปั้นเสร็จลงไป พยายามใช้ช้อนคนเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ไข่มุกติดกันเป็นก้อน เมื่อไข่มุกทั้งหมดเริ่มลอยตัวขึ้นบนผิวน้ำ ให้ต้มต่อด้วยไฟอ่อนประมาณ 20 นาที จากนั้นปิดไฟแล้วปิดฝาหม้อ ให้ไข่มุกอุ่นต่อในนั้นอีก 10 นาที นำช้อนตะแกรงตักไข่มุกออกมาพักไว้ ล้างด้วยน้ำเปล่าอีกทีเพื่อเอาเมือกออก จากนั้นโรยน้ำตาลทรายประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ หรือจะใช้น้ำผึ้งแทนก็ได้ เพื่อไม่ให้ไข่มุกเหนียวติดกันเป็นก้อน 6. เตรียมนม + ต้มชาดำ ต้มหรือแช่ชาดำ 20 กรัม ด้วยน้ำร้อน 100 มิลิลิตร ประมาณ 10 นาที (ถ้าชอบรสออกเข้ม ลองเพิ่มสัดส่วนของใบชาก็ได้) อาจใช้อุปกรณ์อย่างกาน้ำชาที่มีตะแกรงในตัว หรือเฟรนช์เพรสก็ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นก็สามารถต้มในหม้อแล้วกรองออกด้วยช้อนตะแกรงก็ได้เช่นกัน จากนั้นเทนมผสม 60 มิลลิลิตร และตามด้วยนมสดอีก 45 มิลลิลิตร ก็จะได้เป็นส่วนของชานม ถ้าใครชอบหวานน้อยกว่านี้ก็ลดนมผสมลงอีกได้ตามใจชอบ (สูตรนี้แนะนำสำหรับแก้วไซส์ 16 ออนซ์) 7. พร้อมเสิร์ฟ! ตักไข่มุกลงไปก้นแก้ว ตามด้วยน้ำแข็งนิดหน่อย จากนั้นก็เทชานมตามลงไป เท่านี้ก็อร่อยกับชานมไข่มุกที่เราปั้นยันต้ม… ชงเองกับมือ… รับรองว่าอร่อยสมความพยายาม! อ้อ! ถ้าไข่มุกที่ต้มไว้แล้วใช้ไม่หมด สามารถเก็บในตู้เย็นได้ เพียงเก็บในกล่องไม่ให้โดนอากาศ พอจะนำมากิน ก็เพียงนำไปต้มในน้ำร้อนอีกครั้ง ใช้เวลาสั้นๆ เท่านั้น แค่เพียงให้คลายตัวออกจากกัน จากนั้นตักออกใส่จานแล้วโรยด้วยน้ำตาลทรายแดงหรือน้ำผึ้งเหมือนเดิม เพื่อไม่ให้จับตัวเป็นก้อน ทำชานมไข่มุกทั้งทีก็ต้องเลือกชาสำหรับชงชานมไข่มุกโดยเฉพาะ เพื่ออรรถรส! -> ชาไทยผงปรุงสำเร็จสำหรับชงชานมไข่มุก