“แค่อยากเป็นคนที่ถูกร้ากกกกก….” ได้ยินท่อนนี้ทีไรใจมันสั่นอยากจะวิ่งหาตู้คาราโอเกะแล้วร้องดังๆ สักที เพราะฟังแล้วเหมือนความทรงจำเก่าๆ มันกลับมาอีกครั้ง และเมื่อวันก่อนเพิ่งจะเป็นวันเกิดครบอายุ 40 ปีของพี่ตูน (อาทิวราห์ คงมาลัย) นักร้องนำของวง Bodyslam วงดนตรีไทยระดับประเทศที่ใครๆ ก็ต้องรู้จัก ทีมงาน Mango Zero จึงอยากชวนทุกคนมาย้อนความทรงจำกับ 11 เพลงฮิต ของ Bodyslam กัน และต้องบอกเลยว่าคัดเลือกเพลงยากมากๆ เพราะเพลงเขาฮิตทุกเพลงจริง ๆ งมงาย (2545) อัลบั้ม : Bodyslam เพลงจากอัลบั้มแรกของวง Bodyslam สมัยที่ยังมีกัน 3 คน พี่ตูน เป็นนักร้องนำ พี่ปิ๊ด (ธนดล ช้างเสวก) เป็นมือเบส และ พี่เภา (รัฐพล พรรณเชษฐ์) เป็นมือกีตาร์ แม้จะเป็นเพลงจากอัลบั้มแรก แต่เพลงงมงายยังเป็นเพลงที่ฮิตติดหูมาจนถึงตอนนี้กับเนื้อหาเศร้าๆ ของคนที่งมงายรอคนรักแต่เขาไม่ก็กลับมาแล้ว ซึ่งเพลงนี้ที่มาก็ไม่ได้อยู่ไหนไกล เพราะมาจากตัวพี่ตูนเองที่ในตอนนั้นรอแฟนเก่าที่ไปอยู่ต่างประเทศ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่กลับมา อย่างนี้เลยเรียกว่า ‘งมงาย’ หวั่นไหว (2546) อัลบั้ม : Drive เพลงฮิตจากอัลบั้มที่ 2 ที่สุดจะโดนใจเหล่าคนแอบรักทั้งหลายไปตามๆ กัน เพราะเนื้อเพลงนั้นจี๊ดถึงชีวิตคนแอบรักที่เจอเขาทีไรก็อดไม่ได้ต้องหวั่นไหวทุกที และต้องไม่พลาดเก็บเอาเรื่องคนนั้นไปฝัน เนื้อหามันช่างตรงกับชีวิตคนแอบรักอะไรขนาดนี้ ขนาดทำเป็นไม่สนใจเขาแล้วนะเนี่ย แต่สุดท้ายก็เผลอมองจนได้ ทำให้เพลงนี้แม้จะผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว แต่เนื้อหายังโดนใจอยู่เสมอ ขอบฟ้า (2548) อัลบั้ม : Believe มาถึงอัลบั้มที่ 3 กับเพลงจังหวะมันส์ๆ แต่ความหมายสุดเศร้า สำหรับใครที่ต้องปล่อยคนรักไป สิ่งที่เราทำได้ก็มีเพียงแค่ยอมรับเท่านั้น สำหรับอัลบั้มนี้ต้องบอกว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่ของ Bodyslam กับค่ายใหม่ genie records นั่นเอง และหลังจากพี่เภาออกจากวงไป ก็ได้สมาชิกใหม่เพิ่มมา 2 คน คือ พี่ยอด (ธนชัย ตันตระกูล) มือกีตาร์ และ พี่ชัช (สุชัฒติ จั่นอี๊ด) มือกลอง ที่ทั้งสองยังคงเป็นสมาชิกของวงอยู่จนทุกวันนี้ คนที่ถูกรัก (2548) อัลบั้ม : Believe เพลงนี้ต้องว่าเลยว่าเป็นเพลงฮิตของคนโสดที่อยากถูกใครสักคนรักและเข้าใจ ได้ยินเพลงนี้ทีไรก็อยากร้องตะโกนว่า ‘แค่อยากเป็นคนที่ถูกรัก’ ให้สุดเสียง กับจังหวะสนุกๆ ที่ทำให้หลายคนต้องกระโดดพร้อมกัน และลีลาการแต่งเพลงในท่อนฮุคที่มีเนื้อร้องท่อนแรกกับท่อนหลังไม่เหมือนกัน จนบางคนเผลอร้องผิดบางครั้ง แต่ถ้าแฟนตัวจริงต้องไม่พลาด เพราะท่อนแรกต้องร้องว่า ‘แค่อยากเป็นคนที่ถูกรัก’ ส่วนท่อนหลังต้องร้องว่า ‘แค่อยากเป็นคนที่เธอรัก’ ตรงนี้ต้องจดไว้ ห้ามลืมนะ! ความรักทำให้คนตาบอด (2550) อัลบั้ม : Believe เพลงช้า ความหมายเศร้า แต่ยังคงสไตล์ Bodyslam เอาไว้ กับเนื้อเพลงความหมายซึ้ง โดนใจใครหลายคนที่มีความรักทั้งที่รู้ว่าตัวเองต้องตัดใจ รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ ถึงจะรู้ทั้งรู้แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะความรักทำให้ตาบอดไปซะแล้ว นอนฟังเพลงนี้คงน้ำตาไหลอาบหมอน แต่ถ้าฟังตอนอาบน้ำคงต้องเปิดฝักบัวใส่หน้า ให้น้ำมันไหลชะน้ำตาให้หมดไป ยาพิษ (2550) อัลบั้ม : Save My life ตามมาด้วยอัลบั้มที่ 4 เพลงฮิตที่ทำให้หลายคนต้องโยกหัวกับจังหวะเร้าใจ หรือกระโดดสุดตัวในคอนเสิร์ต ทำให้เพลงนี้กวาดรางวัลไปถึง 4 รางวัลในปีนั้น ทั้งด้านเพลงและมิวสิควิดีโอ เพราะคุณภาพของจังหวะมันส์ๆ กับความหมายเพลงที่พูดเรื่อง ‘คำคน’ คือ ‘ยาพิษ’ ที่ร้ายแรง ถ้าหากคนๆ นึงพูดออกไปโดยไม่ได้คิดก่อน คำนั้นอาจทำร้ายคนฟังกรีดลึกถึงหัวใจ ทั้งเนื้อหาคุณภาพและดนตรีที่อัดแน่นขนาดนี้ ไม่แปลกที่เพลงยาพิษจะกวาดมาได้หลายรางวัล อกหัก (2550) อัลบั้ม : Save My life เพลงฮิตสุดมันส์ ติดชาร์ตอันดับ 1 ในขณะนั้น ถ้าใครอกหักก็ต้องนึกถึงเพลงนี้ กับเพลงความหมายดี ที่ช่วยให้เหล่าคนอกหักได้ร้องตะโกนออกมาให้สุดเสียง ระบายความเจ็บช้ำภายในใจ รวมถึงให้กำลังใจเตือนสติคนอกหักว่า ‘คนๆ เดียวมันไม่มีสิทธิขนาดนั้น ไม่ทำให้ช้ำถึงตาย’ กับเพลงที่จี๊ดถึงใจขนาดนี้ หลายคนต้องไม่พลาดขอเพลงกับดีเจ หรือเป็นลิสต์เพลงที่ต้องร้องทุกครั้งเวลาไปคาราโอเกะแน่นอน ความรัก (2553) อัลบั้ม : คราม สำหรับอัลบั้มที่ 5 เพลงความรักกับมุมมองใหม่ๆ ที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ด้วยทำนองเพลงช้า แต่ยังคงสไตล์ร็อคด้วยจังหวะหนัก กับเนื้อหาที่พูดถึงความรักที่ไม่ว่ามันจะจบลงอย่างไร แต่ก็ยังคงสวยงามเสมอ ใครดูมิวสิควิดีโอแล้วก็คงจะซึ้งน้ำตาไหลไปกับเพลง โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเลิกกับแฟนเก่าคงจะจี๊ดไปตามๆ กัน คิดฮอด (2553) อัลบั้ม : คราม เพลงสนุก มันส์โดนใจ ที่ featuring ได้ลงตัวสุดๆ กับการร่วมกันของศิลปินแถวหน้าของวงการดนตรีเมืองไทย ฝั่งป็อปร็อค Bodyslam และฝั่งหมอลำ ศิริพร อำไพพงษ์ ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวแม่ของวงการหมอลำ ผสานออกมาเป็นดนตรีแนวใหม่ที่มีจังหวะสนุกเร้าใจ แต่ยังคงความเป็นดนตรีสไตล์ Bodyslam ที่หลายคนได้ฟังต้องลุกขึ้นมาเต้นตามกันซักหน่อยนะ อ้ะ อ้ะ อ้ะ อ้ะ เรือเล็กควรออกจากฝั่ง (2556) อัลบั้ม : ≠ dharmajāti ( ดัม–มะ–ชา–ติ ) เข้าสู่อัลบั้มที่ 6 กับเพลงความหมายลึกซึ้งที่เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตมากขึ้น และสไตล์ดนตรีใหม่ที่ใหม่ละทิ้งกลิ่นอายของ Bodyslam อีกทั้งอัลบั้มนี้ยังมีสมาชิกใหม่ พี่โอม (โอม เปล่งขำ) มือคีย์บอร์ดมากฝีมือ มาร่วมในวงด้วยแบบเต็มตัว หลังจากเข้ามาเล่นแบ็คอัปให้กับ Bodyslam ในอัลบั้มก่อนๆ และเพลงนี้ยังมีมิวสิควิดีโอที่ร้อยเรียงเรื่องราวสวยงาม การันตีด้วยยอดวิวมากกว่า 100 ล้านใน YouTube พร้อมวลีฮิตติดปาก ‘จะออกไปแตะขอบฟ้า’ ใครคือเรา (2561) อัลบั้ม : วิชาตัวเบา เพลงในอัลบั้มที่ 7 ซึ่งเป็นอัลบั้มใหม่ล่าสุด หลังจากที่ห่างหายไปนานถึง 5 ปี การกลับมาครั้งนี้ต้องบอกเลยว่าสไตล์เพลงนั้นเติบโตขึ้นอีกขั้น ใครที่เป็นแฟน Bodyslam ก็คงจะรู้สึกเติบโตไปด้วยกันในเส้นทางดนตรีสายนี้ และเพลงนี้ยังเต็มไปด้วยเนื้อหาที่มีความหมายลึกซึ้ง ประกอบกับมิวสิควิดีโอที่ใครหลายคนดูแล้วก็ต้องขบคิดตีความกัน ย้อนกันมาตั้งแต่อัลบั้มแรกจนอัลบั้มล่าสุดของ Bodyslam เส้นทางของบทเพลงเหล่านี้ก็เหมือนกับการเดินทางในแต่ละช่วงของชีวิต หลายคนคงโตมากับเพลงเหล่านี้ พอฟังแล้วความทรงจำเก่าๆ ในช่วงเวลานั้นคงกลับมา และต้องยอมรับว่าเพลงเขาฮิตจริงๆ จนไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุค ก็อดที่จะร้องตามไม่ได้