เข้าสู่ช่วงปิดเทอมใหญ่ของชาวมหาลัยที่เรียกได้ว่านานนนนจนไม่รู้จะทำอะไรดี ซีรีส์ก็ดูวนเป็นสิบ นัดเจอเพื่อนจนน่าจะเบื่อกันไปข้าง แต่จะปล่อยทิ้งเวลาว่างๆ ไปเรื่อยๆ ก็น่าเสียดาย ลองมาใช้เวลาทำกิจกรรมดีๆ เหล่านี้กันเถอะ เขียนแผนชีวิต เรากำลังกลายเป็นผู้ใหญ่ในอีกไม่ช้า การวางแผนล่วงหน้าเป็นเรื่องสำคัญ ค้นคว้าหาข้อมูลความเป็นไปได้ของเส้นทางที่เราจะเติบโตในอนาคต ลองถามตัวเองว่าต่อไปเราต้องการทำอะไร และตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการสร้างสิ่งนั้นให้เกิดขึ้นจริงอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่ จะต้องแก้ไขอย่างไรบ้าง และถ้าอยู่ในเส้นทางนั้น จะทำให้มันดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร ควรระบุให้ละเอียดในทุกขั้นตอน ตั้งเป้าระยะเวลาเป็นรายสัปดาห์ได้ยิ่งดี เพราะความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เกิดขึ้นได้จากสิ่งเล็กๆ ทั้งนั้น ฝึกงาน หากไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เรากำลังเรียนอยู่เป็นสิ่งที่เราชอบหรือถนัดจริงๆ หรือไม่ ลองเรียนรู้ด้วยการไปฝึกงาน แม้งานที่จะได้ลองทำอาจไม่หนักเท่างานจริง แต่การเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมนั้นๆ เจอเคสลูกค้า เรียนรู้ปัญหาและวิธีการรับมือในรูปแบบต่างๆ สังเกตการณ์ในการประชุมแต่ละครั้ง จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าเราพร้อมที่จะทำงานนี้ไปอีกหลายปีได้หรือไม่ Part Time ลองเป็นผู้ใหญ่ด้วยการทำงานพาร์ทไทม์ อาจะเป็นพนักงานร้านหนังสือ บาริสต้าชงกาแฟ หรืองานอื่นๆ เป็นการสร้างสีสันและเพิ่มทักษะให้กับชีวิต แล้วยังได้ฝึกบริหารจัดการเงินเดือนตัวเองอีกด้วย ไม่แน่ว่าพอเป็นเงินที่มาจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง อาจจะใช้จ่ายอย่างประหยัดขึ้นอีกหลายเท่าตัว หรือถ้าเอาไปให้ที่บ้าน ก็คงน่าชื่นใจไม่หยอก Work and Travel อีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตของชาวมหาลัย โครงการ ‘เวิร์คแอนด์ทราเวล’ ให้นักศึกษาได้ไปลองใช้ชีวิตทำงานพาร์ทไทม์ที่สหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 3 เดือน รูปแบบการทำงานก็มีหลากหลาย ตั้งแต่พนักงานร้านค้าทั่วไป แม่บ้าน ไปจนถึงพนักงานคาสิโน เรียกได้ว่า ได้ทั้งประสบการณ์ แถมยังได้มิตรภาพดีๆ กลับมาเพียบ ใช้ชีวิตในที่ๆ ไม่เคยไป กว่าจะผ่านไปได้ในเเต่ละเทอมไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อปิดเทอมก็ต้องทุ่มเทกับการใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าเช่นเดียวกัน ตามสูตร Work Hard, Play Harder ซึ่งคุ้มค่าในที่นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรที่เอ็กสตรีมหวือหวาแบบปีนเขาเอเวอเรสต์ แค่เป็นสิ่งที่ทำแล้วทดเเทนช่วงเวลาที่เราทุ่มให้กับการเรียนได้ อาจจะเป็นการไปเที่ยวต่างประเทศแบบจองไปเพื่อหลงแบบสั้นๆ คนเดียว หรือลองปฎิบัติธรรมสักหนึ่งอาทิตย์ อาจจะได้อะไรดีๆ กลับมาก็เป็นได้นะ ออกค่ายอาสาสมัคร การช่วยเหลือผู้อื่น เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เราโตขึ้น และอาจเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเดิมเมื่อเป็นการออกค่ายอาสาสมัคร แม้จะได้ชื่อว่าเป็นการช่วยเหลือผู้อื่น แต่สิ่งนี้ก็มอบอะไรกลับมาให้เราได้อย่างมากมายเช่นเดียวกัน บางค่ายทำให้เราได้อยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มที่ เพราะไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอกได้ บางค่ายเราต้องเป็นเวรทำกับข้าว ทาสี ผสมปูน หรือสอนน้องๆ นับเลข เราเรียนรู้วิถีชาวบ้านที่ไม่สามารถพบเห็นได้ในเมือง เราใช้ชีวิตกับธรรมชาติแบบโฮมสเตย์ที่ไหนก็ให้ไม่ได้ มีประชุมรอบกองไฟก่อนเข้านอน และกิจกรรมอื่นๆ ที่สร้างประโยชน์และสร้างความสุขชนิดที่ว่าจดจำไปได้อีกนาน แค่ฟังดูก็น่าสนุกแล้วใช่ไหมล่ะ เรียนรู้ทักษะใหม่ เพราะการเรียนรู้ ไม่มีวันสิ้นสุด การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ จะเพิ่มความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น อาจเป็นภาษาที่สาม สี่ ห้า หรือเป็นงานฝีมือเช่น การเย็บผ้า ปั้นเซรามิค หรือการทำอาหาร สิ่งเหล่านี้ยังเป็นการเพิ่มเซลล์สมองให้มีการพัฒนา เพิ่มความครีเอทีฟให้กับเราด้วยนะ และเพื่อผลลัพท์ที่ดีกว่าเดิม ควรเรียนรู้ไปอย่างสุดทาง ทุ่มเทให้มีความถนัดในระดับหนึ่ง เพราะเจ้าทักษะเหล่านี้สามารถใส่เป็นข้อมูลลงในพอร์ทโฟลิโอได้ หากเป็นการเรียนภาษาก็ควรไปสอบวัดระดับ หรือถ้าเป็นทักษะงานฝีมือ ก็อาจทำแบบหลายๆ ชิ้น ไม่แน่ว่าอาจต่อยอดเป็นงานอดิเรกที่ทำรายได้ให้เราในอนาคตได้ อยู่กับครอบครัว สำหรับนักศึกษาที่ใช้ชีวิตมหาลัยส่วนใหญ่อยู่ที่หอ บางครั้งกิจกรรมดีๆ ก็ไม่ต้องบุกน้ำลุยไฟหรือไปที่ไหนไกลเลย แต่เป็นการกลับไปใช้เวลาอยู่กับครอบครัว เล่าเรื่องราวระหว่างที่เราอยู่ในรั้วมหาลัย หรือจะเป็นการไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ที่อยู่ต่างจังหวัด ต่างประเทศ เติมพลังทั้งเราและครอบครัว พร้อมกลับมาเรียนครั้งต่อไปในเทอมหน้า สำหรับใครที่ออกไปผจญภัยในช่วงปิดเทอมใหญ่ แล้วอยากได้เครื่องยืนยันถึงประสบการณ์ใหม่ๆ ที่สนุกสุดเหวี่ยง ก็สามารถเลือกซื้อกล้องคู่ใจได้ ที่นี่