category พาไปรู้จักวิธีคิดแบบ Omotenashi วิถีการผลิตสินค้าคุณภาพที่ทำให้ใครๆ ก็หลงรักญี่ปุ่น

Writer : minn.una

: 10 มิถุนายน 2562

ขึ้นชื่อว่า “ญี่ปุ่น” เราว่าหลายคนน่าจะมีภาพในหัวคล้ายๆ กันคือ ความนอบน้อม เป็นระเบียบเรียบร้อย และละเอียดอ่อน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ไปจนถึงงานบริการต่างๆ ที่เมื่อไหร่ที่สินค้านั้นมาจากญี่ปุ่น เราก็มั่นใจได้เลยว่าของชิ้นนี้ผ่านกระบวนการผลิตมาอย่างใส่ใจแน่นอน

ความใส่ใจและพิถีพิถันที่เรามักจะได้เห็นในงานของญี่ปุ่นกันบ่อยๆ นี้ อยู่ภายใต้หลักคิดที่เรียกว่า Omotenashi ที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยรู้จักกับคำๆ นี้มาก่อน

วันนี้ Mango Zero จะพาไปเปิดพจนานุกรม เรียนรู้ความหมาย และวิธีคิดแบบ Omotenashi ว่าอะไรทำให้สินค้าและบริการของญี่ปุ่นโดดเด่นและแตกต่างจากภูมิภาคอื่น มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน!

Omotenashi คืออะไร?

Omotenashi おもてなし (อ่านว่า โอโมเตะนาชิ) มีความหมายแบบตรงตัวเลยก็คือ Hospitality หรือ การเอาใจใส่ เป็นแนวคิดที่ญี่ปุ่นเริ่มหยิบยกมาใช้อย่างแพร่หลายตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา โดยเริ่มต้นจากการสังเกตสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และนำมาพัฒนาต่อ จนกลายเป็นนวัตกรรมที่สามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคได้ดีกว่าเดิมนั่นเอง บางครั้งเราอาจเรียกได้ว่านี่เป็น “การบริการด้วยหัวใจ” จนสามารถสร้างความประทับใจผู้รับได้แบบไม่รู้ตัว

Omotenashi ทำให้ญี่ปุ่นแตกต่าง

เราเชื่อว่าหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้หลายคนหลงรักประเทศหมู่เกาะแห่งนี้ ก็คือความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละ ประสบการณ์หลายอย่างเราไม่สามารถหาได้เมื่ออยู่ที่บ้านเรา หรือแม้แต่การไปประเทศอื่น ความใส่ใจของคนญี่ปุ่นที่ไม่เหมือนใครถูกแสดงออกมาผ่าน 3 หลักการสำคัญคือ

  • Subtle Automation การใส่ใจทำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ให้ลูกค้า
  • ​Hidden Enhancement การแก้ไขปัญหาที่ผู้ใชันึกไม่ถึงมาก่อน
  • Adaptive Interaction การปรับบริการเหมาะสมกับสถานการณ์อย่างถูกที่ถูกเวลา

Omotenashi ความใส่ใจในชีวิตประจำวัน

ทุกวันนี้มีการนำแนวคิด Omotenashi ของญี่ปุ่นมาช่วยอำนวยความสะดวกในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการ อย่างที่เห็นได้ทั่วไปก็เช่น รถแท็กซี่ที่มีประตูระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ เป็นมิตรกับผู้โดยสารในวันที่ถือของเต็มไม้เต็มมือ หรือแท็กซี่เต่าที่ขับช้าสุดๆ เพื่อไม่ให้รบกวนผู้โดยสารเด็กที่หลับในรถ

การสลับด้านรองเท้าของร้านอาหารที่ต้องถอดรองเท้าเข้า เพื่อให้สามารถสวมรองเท้าได้ง่ายขึ้นตอนออกจากร้าน การที่ร้านรวงมีซองใส่ร่มหลายขนาดสำหรับเก็บร่มหลายแบบของลูกค้าที่เดินช็อปปิ้งในช่วงหน้าฝน

รวมไปถึงการที่ปุ่มลิฟต์ในบางสถานที่สามารถกดยกเลิกชั้นได้หากกดพลาด ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนริเริ่มมาจากการสังเกตและใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ท้ังสิ้น

Systema แปรงสีฟันที่ผลิตด้วยแนวคิด Omotenashi

อย่างที่บอกไปว่าแนวคิด Omotenashi เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้สินค้าและบริการของญี่ปุ่นเป็นที่หลงรักของใครๆ และหนึ่งในนั้นก็คือ Systema ผู้ผลิตแปรงสีฟันแบรนด์จากญี่ปุ่น ที่ใช้หลัก Omotenashi คิดค้นคุณสมบัติของแปรงสีฟันที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้ใช้มากที่สุด

จนทำให้ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา Systema ได้คว้ายอดขายอันดับ 1 ในไทย และกลายเป็นแบรนด์แปรงสีฟันที่เข้าไปอยู่ในใจของใครหลายๆ คน เช่น

  • หัวแปรงที่คิดมาเพื่อสรีระช่องปากที่หลากหลายของคนไทย มีให้เลือกถึง 3 ขนาด
  • ขนแปรงเอกลักษณ์เฉพาะของ Systema ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแบรนด์ มีความนุ่ม ยืดหยุ่น ปลายเรียวแหลม สามารถทำความสะอาดได้ถึงร่องเหงือก
  • ด้ามจับกระชับมือ จับถนัด ไม่มีลื่น

และเพื่อเป็นการขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาอย่างยาวนานถึง 20 ปี ในตอนนี้ Systema ก็ได้ออกโปรโมชั่นสำหรับแปรงสีฟันรุ่น Soft & Slim โดยเมื่อซื้อแพ็ค 3 ด้าม รับฟรีไปเลยอีก 1 ด้ามในราคา 135 บาท สำหรับหัวแปรงขนาด original และ 165 บาท สำหรับหัวแปรงขนาด XL ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2562 ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

สำหรับใครที่เป็นครอบครัว Systema อยู่แล้วก็อย่าพลาดด้วยประการทั้งปวง! พุ่งไปห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านกันเลย! 🙂

ที่มา : diyliestyleblogs, marketingoops, medium , ไทยรัฐ

 

Writer Profile : minn.una
อดีตนักเรียนวารสารศาสตร์ รักการอ่าน (มากกว่าการเขียนนิดหน่อย) สนใจการเมืองและ K-POP ในเวลาเดียวกัน และเชื่อว่าตัวเองตลกขบขันอยู่ประมาณนึง
Blog : Social Media : Facebook, Twitter
View all post

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save