เคยรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะช็อคในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าไหม ร่างกายเย็นเฉียบ สายตาพร่าเลือน หูอื้อและมือชา และในวินาทีที่รู้สึกแย่ถึงขีดสุดจนตัดสินใจจะเรียกรถพยาบาล ความรู้สึกทุกอย่างก็หายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น อาการนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ จนเราวิ่งหาหมอเป็นว่าเล่น แต่ผลออกมาว่าเป็นปกติทุกอย่าง สิ่งนี้เรียกว่า Panic Disorder หรือโรคแพนิค ที่ควบคุมได้และไม่น่ากลัวอย่างที่คิด Panic Disorder หรือโรคแพนิค ไม่ใช่โรคที่พบเห็นได้บ่อยนัก แต่ก็มีคนเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ อาการส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นคือการตื่นตระหนก หรือรู้สึกวิตกกังวลอย่างไม่มีสาเหตุอย่างรุนแรง ไม่ใช่แค่เครียดๆ ปลอบแล้วหาย โดยมีอาการแสดงออกทางร่างกาย หัวใจเต้นถี่จนรู้สึกเหมือนหัวใจจะวาย หายใจลำบาก รู้สึกแน่นหน้าอก ตัวสั่น และอาการอื่นๆ ที่ทำให้เราตีความได้ว่ากำลังจะตาย และจะรู้สึกแบบนั้นประมาณ 10 – 20 นาที แล้วหายไป แต่สิ่งที่ยังคงอยู่คือความรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะไม่รู้ว่าเจ้าอาการนี้จะกลับมาอีกเมื่อไหร่ ทำให้เราเริ่มต้นช็อปปิ้งคุณหมอ เมื่อตรวจแล้วร่างกายปกติดีก็ไม่เชื่อ ย้ายไปหาเจ้าใหม่ แต่ผลก็ออกมาแข็งแรงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือนังแพนิคตัวร้ายก็ยังอยู่! ทำไมถึงเป็นโรคแพนิค สำหรับสาเหตุที่แน่นอนนั้นยังไม่สามารถสรุปได้อย่างแน่ชัด เนื่องจากสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน ในทางการแพทย์ โรคแพนิคเกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติ (automatic nervous system) ที่ทำงานมากเกินไปจนทำให้ร่างกายรวน นอกจากนี้ยังมีสภาพแวดล้อมที่กดดันมากเกินไป เหตุการณ์ความหลังที่ฝังใจ และการพบเห็นสิ่งที่เคยกระตุ้นความหวาดกลัวในอดีต การรับมือกับโรคแพนิค หากได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคแพนิคจริงๆ ก็จะได้รับยาที่ช่วยปรับการทำงานของสารเคมีในสมอง นอกจากนั้น ก็สามารถเรียนรู้ที่จะรับมือกับแพนิคด้วยตัวเองได้ ทำความเข้าใจตัวเอง บางครั้งเราอาจเก็บความกลัวบางสิ่งไว้โดยไม่รู้ตัว ลองหาที่เงียบๆ ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง และตอบคำถามต่อไปนี้ ตอนนี้กำลังรู้สึกอะไรอยู่ กังวลเรื่องอะไรมากที่สุด ทำไมถึงกลัว และขณะที่รู้สึกกลัวนั้นมีความคิดอะไรเกิดขึ้นบ้าง นอกเหนือไปจากกลัวความตาย มีความกลัวเรื่องอาการอื่นๆ บ้างหรือไม่ เช่น กลัวเป็นบ้า กลัวเป็นลม หรือกลัวจะอาเจียน โดยในแต่ละข้อ ให้เขียนบรรยายออกมาเป็นคำตอบแบบอธิบายยาวๆ จนถึงจุดหนึ่ง สิ่งที่เรากลัวและรู้สึกจริงๆ จะปรากฏออกมาให้้เห็น หลังจากนั้นให้ลองดูว่าเราจะสามารถทำอย่างไรได้บ้างเพื่อทำให้อาการหรือความกลัวเหล่านี้หายไป หลีกเลี่ยงสถานที่ที่กระตุ้นอาการ หลังเกิดอาการให้สังเกตว่า มีอะไรที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ทุกครั้งที่เรามีอาการแพนิค คนพลุกพล่านวุ่นวาย ความรู้สึกไม่ปลอดภัย ไฟสลัวหรือจ้าเกินไป การทำสิ่งที่ต้องใช้สมาธิ เช่นขับรถ ทำกับข้าว หรือแม้แต่เครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน อย่างกาแฟหรือชาต่างๆ ก็มีส่วนกระตุ้นอาการ รวมไปถึงการใช้โซเชียลมากเกินความจำเป็นที่ทำให้เกิดความเครียดมากขึ้นไม่รู้ตัว จากนั้นก็ลองหลีกเลี่ยงหรือพยายามเข้าใกล้สิ่งเหล่านี้ให้น้อยที่สุด ไม่มีใครควบคุมเราได้ แม้แต่แพนิค การเชื่อมั่นในตัวเองเป็นเรื่องสำคัญมาก ขณะที่กำลังเกิดอาการแพนิค สูดหายใจลึกๆ และย้ำกับตัวเองว่านี่คือการแพนิค อีกไม่นานจะหายไป และเราจะไม่เป็นอะไร ในช่วง 5 นาทีแรกจะรู้สึกเหมือนเราไม่สามารถควบคุมความวิตกกังวลนี้ได้ แต่ขอให้พยายามต่อไปเรื่อยๆเชื่อมั่นในสุขภาพของตัวเอง แล้วอาการจะดีขึ้น เมื่อพบว่าเรามีอาการวิตกกังวลหรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับร่างกายที่พบแพทย์ทั่วไปแล้วไม่พบอะไร ก็ลองไปพบจิตแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาเผื่อว่าเรามีแนวโน้มที่จะเป็นแพนิคได้ โรคนี้ไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงและไม่ก่อให้เกิดปัญหาทางร่างกายใดๆ นอกจากความรำคาญเมื่อเราคุ้นเคยกับมันดี ขอเพียงเราเข้าใจตัวเอง เตรียมตัวรับมือกับมัน ก็สามารถอยู่ด้วยกันเหมือนมีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่งได้ : )