ต้องยอมรับว่าการนอนหลับเนี่ยเป็นเรื่องสำคัญ (มาก) ในหนึ่งวันเราใช้เวลาไปเกือบ 1 ส่วน 3 ไปกับการนอน เพื่อสะสมพลังงานให้มีแรงตื่นไปทำงานที่เรารักและออกไปใช้ชีวิต บางคนอาจหาเวลานอนได้ยากแสนยาก บางคนมีเวลานอนแต่ทำไมนอนแล้วยังรู้สึกเพลียรู้สึกเหนื่อย ไม่สดชื่น ลองมาดูวิธีการพัฒนาการนอนหลับให้เรานอนได้เต็มอิ่ม หลับสบายยิ่งขึ้น จะได้พักผ่อนได้เต็มที่กันในแต่ละวันกันเถอะ ที่มา : Sleepwellnessdoctor , Healthline ปิดเครื่องใช้อิเล็คโทรนิกส์ก่อนนอนอย่างน้อย 30 นาที อย่ากินเครื่อดื่มที่มีคาเฟอีนหลังมื้อเที่ยง เช่น กาแฟ ชา เครื่องดื่มโซดา ช็อกโกแลต ทานกาแฟแค่ 2 แก้วต่อวัน พยายามตื่นเวลาเดิมทุกวัน การนอนหลับเวลาเดิมๆ จะช่วยให้ร่างกายเราจำจังหวะการนอนของเรา และส่งสัญญานให้สมองเราได้พัก และการหลับและตื่นอย่างเป็นเวลายังจะช่วยให้เราไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุกเลยด้วยซ้ำ อย่าเข้านอนเวลาหิว และอิ่มจนเกินไป (ควรเข้านอนหลังมื้อหนัก 3 ช.ม.) การทานมื้อเย็นดึกเกินไป ส่งผลต่อคุณภาพในการนอน มีผลวิจับออกมาว้า หารเราทานอาหารคาร์โบไฮเดรตสูงในมือเย็น ควรนอนหลังจากนั้น 4 ช.ม. จะช่วยให้การนอนหลับได้ไวขึ้น นอกจากนี้ยังมีผลวิจัยที่น่าสนใจที่ว่า การทานอาหารคารโบไฮเดรตต่ำในมื้อเย็น จะช่วยให้การนอนหลับดีขึ้นด้วยนะ ทำบรรยากาศห้องนอนให้เหมาะสม ห้องมืด อุณหภูมิเหมาะสม เตียงนุ่มสบาย ส่วนใหญ่เรามักได้ยินเสียงจ้อกแจ้กจากการจราจร ยิ่งกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ไม่หลับไหลมีเสียงนู่นนี้ตลอดเวลา อาจส่งผลให้เรานอนหลับได้ไม่เต็มที่และส่งผลต่อสุขภาพระยะยาว บรรยากาศการนอนที่ดีควรนอนในห้องที่มืด หลีกเลี่ยงเสียงจอแจ วางมือถือไว้ให้ไกลตัวสักหน่อย (หลีกเลี่ยงไฟจากการแจ้งเตือน) และอย่าลืมปรับอากาศให้เย็นสบาย หากร้อนเกินไปจะรบกวนการนอนหลับของคุณได้ อย่างีบระหว่างวัน เกิน 1 ช.ม. อย่างีบหลังบ่าย 3 ถ้านอนไม่หลับใน 20 นาทีให้ลุกไปหาอะไรทำก่อนค่อยกลับมาลองนอนใหม่ ถ้าตื่นขึ้นมากลางดึกพยามอย่าลืมตา หรือหยิบมือถือมาดู ให้พยามนอนต่อ อย่าดื่มแอลกอฮอล์ ควรนอนหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 ช.ม. ทางที่ดีควรดื่มน้ำเปล่าให้มากและเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนนอนเพื่อให้แอลกอฮอล์ออกจากร่างกายไปให้มากที่สุดก่อนนอนหลับ เพื่อที่จะไม่ต้องตื่นมากลางดึก