ฮิตมากกับการเอาการ์ตูนดังหยิบมาทำภาพยนตร์คนแสดง Live Action แต่จะมีสักกี่เรื่องที่ทำออกมาแล้วน่าประทับใจ บ้างก็ดัดแปลงจากเวอร์ชันเก่าให้สนุกขึ้น บ้างก็แปลงจนกลายเป็นไม่สนุกไม่หลงเหลือเค้าโครงเรื่องเดิมเลย งั้นมาดูกันว่าเรื่องไหนดี เรื่องไหนแป้ก เทียบกับรายได้ และ คำวิจารณ์จากผู้ชมละกัน บอกเลยว่าปีหน้า และปีหน้าๆ อีกที ภาพยนตร์ Live Action หลายเรื่องก็จ่อคิวเข้าโรงอีกเพียบ Alice in Wonderland จากการ์ตูนจินตนาการล้ำเลิศ Alice in Wonderland ที่เราเคยดูเหมือนตอนเด็กๆ ปี 2010 ที่เล่าถึง Alice ในวัย 19 ปี หลุดเข้าไปในดินแดนเวทมนตร์ที่เธอเคยไปเมื่อตอนเด็ก พบเพื่อนเก่า Madhatter และคนอื่นๆ พร้อมทั้งต่อสู้กับกองทหารของราชินีแดง ผลงานการกำกับของ Tim Burton ออกฉายช่วงเดือน มีนาคม 2010 กวาดคะแนนเสียงวิจารณ์ไปในทางที่ดี เนื้อหาสนุก ตื่นเต้นผจญภัย เพลิดเพลินกับจินตนาการของทิม ภาพสวย Effect ออกมาดูดี ซึ่งถือว่าทำออกมาแล้วไม่แป้ก รายได้ Box Office ทั่วโลก อยู่ที่ 1.025 พันล้านดอลล่าสหรัฐ ถ้าตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 33,732,750,000 บาท ทำรายได้สูงมากเลยทีเดียว ทุนการสร้างเรื่องนี้ประมาณ 200 ล้าน USD ซึ่งคือ กำไรจ้า แต่ภาค 2 Alice Through the Looking Glass ในปี 2016 อลิสกลับมารอบนี้ถือว่าแป้กเลยทีเดียว วิจารณ์ไปในทางเดียวกันคือ น่าเบื่อ ไม่ได้สนุกลุ้นใจเหมือนภาคแรก คะแนนวิจารณ์จากเว็บวิจารณ์ดังๆ ให้ไปในทางเดียวกัน รวมรายได้ Box Office ทั่วโลกเพียง 299 ล้านดอลล่าสหรัฐ เท่านั้น น้อยกว่าภาคแรกหลายเท่าตัวเลย Red Riding Hood การ์ตูนหนูน้อยหมวกแดงก็ขอทำเวอร์ชั่นคนแสดงบ้าง ได้ผู้กำกับ Twilight มากำกับ เป็นการนำมาเล่าใหม่ให้แตกต่างจากการ์ตูนตอนเด็ก มีเรื่องรักสามเศร้า ล่ามนุษย์หมาป่าดุร้าย เป็นหนังแฟนตาซี สยองขวัญ ซึ่งไม่ได้ดึงความเป็นหนูน้อยหมวกแดงออกมาเลย หนูน้อยหมวกแดงได้ “อาแมนด้า ไซเฟร็ด” มาแสดง การวิจารณ์ไปในทางเดียวกันว่า หนังเรื่องนี้เฉยๆ มาก ออกไปทางแป้ก ทุนการสร้างประมาณ 42 ล้าน USD และ รายได้ Box Office รวมกันอยู่ที่ 89.16 ล้าน USD เท่านั้น เกือบขาดทุนแต่ก็ทำรายได้ไม่ดี Snow White and The Huntsman สโนไวท์และคนแคระทั้ง 7 ที่เราคุ้นเคยดี มาเป็น Version Live Action คนแสดง Snow White and The Huntsman ปี 2012 ปรับบทให้ซับซ้อนขึ้น กลายเป็นหนังแอคชั่น แฟนตาซีหนักๆ โดยได้ผู้กำกับ Rupert Sanders มากำกับ ซึ่งทำออกมาได้ดีพอสมควร เนื้อหาสนุกขึ้น ลุ้นระทึกขึ้น Effect ออกมาดี คะแนนวิจารณ์ออกไปในทางที่ไม่แย่ คะแนนกลางๆ ที่ 6/10 จาก IMDb และ 48% จาก Rotten Tomatoes รายได้ Box Office อยู่ที่ 396.6 ล้าน USD ทุนการสร้าง 170 ล้าน USD ไม่ขาดทุนจ้า ยังได้อยู่ Oz the Great and Powerful มาเงียบๆ แต่มาจริง กับเรื่อง Oz the Great and Powerful ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมชื่อดัง “The Wonderful Wizard of Oz” งานกำกับของผู้กำกับ Spider Man ทั้ง 3 ภาค Sam Raimi ที่ลองมาทำหนังแนวแฟนตาซีดูบ้าง แล้วจะบอกว่าเขาทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ด้วยความผู้สร้าง Disney ภาพสวย องค์ประกอบในเรื่องดี กวาดคะแนนวิจารณ์ในเว็บมะเขือเทศถึง 60% ใครยังไม่ได้ดูลองหาไปดูกัน รายได้ Box Office 493.3 ล้าน USD ทุนสร้าง 200 ล้าน USD Maleficent เมื่อแม่มด Maleficent มีเรื่องราวเป็นของตัวเอง ได้นักแสดงนำคนดังคนสวย Angelina Jolie มาถ่ายทอดเรื่องราวแม่มดร้ายของเรื่อง เจ้าหญิงนิทรา Sleeping Beauty ผลงานกำกับโดย Robert Stromberg เรื่องนี้เราจะได้เห็นมุมที่เราไม่เคยเห็นของแม่มดที่ทุกคนมองว่าร้ายตนนี้ ภาพสวย เนื้อเรื่องสนุกเพลินน่าติดตามทั้งเรื่อง ได้คะแนนจากการวิจารณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า ดี ไม่แป้ก 7/10 จาก IMDb และ 51% จาก Rotten Tomatoes รายได้ Box Office 758.5 ล้าน USD ทุนสร้าง 180 ล้าน USD รายได้ดีทีเดียว และในปี 2020 เราจะได้ดูภาคต่อของ Maleficent ปักหมุดรอดูต่อว่าจะแป้ก หรือ ไม่ ยังไง Cinderella การ์ตูนสุดคลาสิคเรื่องหนึ่งของ Disney ในภาคการ์ตูนประสบความสำเร็จอย่างมากมาย สำหรับเวอร์ชั่นคนแสดง Cinderella ปี 2015 ความคาดหวังของแฟนๆ ก็ต้องมีอยู่แล้ว หนังทำออกมาได้ไม่แย่ ตามสูตรการ์ตูนสุดคลาสิค งาน Costume ดีมาก โดยรวมถือว่าน่าจะถูกใจสาวกโลกเทพนิยาย เพราะ สร้างตามเนื้อเรื่องของการ์ตูนเป๊ะๆ คะแนนวิจารณ์ออกมาในทางที่ดี ไม่แย่ 84% จากเว็บมะเขือเทศ และ 6.9/10 จาก IMDb รายได้ Box Office 543.5 ล้าน USD ทุนสร้าง 100 ล้าน USD The Jungle Book เข้าป่ามาเจอหนุ่มน้อยเมาคลีกัน จากการ์ตูน เมาคลีลูกหมาป่า หรือ The Jungle Book ปี 2016 ผลงานกำกับของ Jon Favreau ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว สมจริง น่ารักด้วย ฉากแอคชั่นก็ดี คือดีอะบอกเลย คะแนนนักวิจารณ์ก็บอกว่าเรื่องนี้ทำได้ดีมาก ไร้ที่ติเลย กวาดคะแนน Rotten Tomatoes ได้สูงถึง 95% และ IMDb ที่ 7.4/10 รายได้ Box Office 966.6 ล้าน USD ทุนสร้าง 177 ล้าน USD The Legend of Tarzan โตขึ้นมาหน่อยกับเด็กหนุ่มโตในป่ารุ่นพี่ “ทาซาน” กับ The Legend of Tarzan ปี 2016 ที่ได้ David Yates ผู้กำกับ Harry Potter ภาค 5-7 และ Fantastic Beasts and Where to Find Them มากำกับเรื่องนี้ เรื่องราวในเวอร์ชั่นนี้จะเป็นตอนที่ทาซานออกจากป่า ไปใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาแล้ว เป็นผู้ดีอังกฤษมียศต่างๆ ส่วน Jane ภรรยาก็ป็นคุณนาย แต่ต้องมีภารกิจที่ต้องเข้าไปในป่าอีกครั้ง แต่ก็จะมีให้เห็นภาพความทรงจำวัยเด็กที่เขาอยู่ในป่าเรื่อยๆ ฉากบู๋มาเต็ม สมกับเป็นทาซาน ฉากห้อยโหน สู้กับลิงมีหมด แต่เนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องอาจจะไม่ถูกใจคนส่วนใหญ่ ภาพสวยแต่แป้ก ได้คะแนนวิจารณ์ไปในทางเดียวกันคือ ไม่ค่อยประทับใจ บทไม่ดี น่าเบื่อ รายได้ Box Office 356.7 ล้าน USD ทุนสร้าง 180 ล้าน USD Beauty and The Beast กลับมาที่การ์ตูนคลาสสิคอีกเรื่องของ Disney อย่าง โฉมงามกับเจ้าชายอสูร Beauty and the Beast ปี 2017 ฮือฮาตั้งแต่หนังไม่ฉาย เพราะ ได้นักแสดงสาวสุดน่ารักมาแสดงเป็น เบล “Emma Watson” และ ได้ฝีมือกำกับของผู้กำกับสุดเก่ง Bill Condon ที่สาวกแฟนดิสนีย์และการ์ตูนเรื่องนี้บอก ใกล้เคียงกับเวอร์ชั่นการ์ตูนมาก นักแสดงดี เอ็มม่าสวย แสดงเก่ง นักแสดงคนอื่นๆ ก็ทำได้ดี งาน Production ดี งานภาพดี เสื้อผ้าหน้าผมดี เก็บดีเทลได้ดียิ่ง เพลงก็เพราะ เหมาะสมกับรายได้ 1.264 ล้าน USD กับทุนสร้าง 255 ล้าน USD กำไรแบบงามๆ เลย Christopher Robin และในปีนี้กับเรื่องราวของเด็กชายเพื่อนสนิทหมีพูห์ Christopher Robin คนแสดง ปี 2018 กับเรื่องราวในช่วงเวลาที่ Christopher โตเป็นผู้ใหญ่มีครอบครัวแล้ว แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้พบกับเพื่อนรักเก่าของเขา “วินนี่ เดอะ พูห์” พร้อมกับการกลับไปยังป่า 100 เอเคอร์เพื่อตามหาเพื่อนๆ ที่หายไป เรื่องนี้ทำให้เราได้หายคิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับ พูห์ และผองเพื่อน ย้อนไปนึกถึงความเป็นเด็กของเรา เป็นหนัง Feel Good เรื่องหนึ่งเลยของปีนี้ และให้แง่คิดอะไรหลายๆ อย่างในชีวิต ค่อนข้างประทับใจ คะแนนนักวิจารณ์ก็ออกมาในทิศทางที่ดี แต่รายได้อาจสวนทาง อยู่เพียง 197 ล้าน USD กับทุนสร้าง 75 ล้าน USD เกือบขาดทุน The Nutcracker and the Four Realms ในเวอร์ชั่นอนิเมชั่นสำหรับเรื่องนี้ทำได้ดีและสนุกมาก เช่น Barbie in the Nutcracker สำหรับการหยิบเรื่องราว The Nutcracker เป็นเวอร์ชั่นคนแสดง ดันออกมาเฉยๆ กระแสไม่ค่อยดี เรื่องราวเดาทางได้ เอานักแสดงที่มีชื่อเสียงมาแสดงแต่ไม่ได้แสดงศักยภาพแบบที่ควรจะเป็น แต่ภาพสวยได้อยู่ แต่เสียงส่วนใหญ่ไปในทางเดียวกันคือ ไม่รอด เฉยมาก แป้กเลย พยายามเหมือนทิม เบอร์ตัน แต่ไม่ถึง ก็ต้องรอลุ้นว่ารายได้ Box Office ทั่วโลกจะไม่ทำให้หนังเรื่องนี้ขาดทุน เพราะ พึ่งปล่อยฉายต้นเดือน November นี้เอง รายได้ล่าสุดตอนนี้ 129.5 ล้าน USD ทุนการสร้างอยู่ที่ 133 ล้าน USD ต้องมาลุ้นกันว่าจะขาดทุน หรือ ได้กำไรเท่าไหร่กัน