ตอนนี้หลายคงน่าจะคุ้นเคยกับหน้าตาใหม่ของ K PLUS กันบ้างแล้ว หลังจากยกเครื่องครั้งใหญ่ จนแรกๆ ทำให้ต้องงมกันใหญ่ว่า เฮ้ย! มันโอนเงินยังไงล่ะ แล้วปุ่ม K+ Market นี่อะไรล่ะเนี้ยน้องงง แต่หลังจากที่ได้ลองใช้แอป K PLUS ในฐานะคนที่ใช้งานจริงๆ มาตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้อัปเดทใหม่ เราเจอฟีเจอร์ลับที่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ามี หรือ เฮ้ย! มีด้วยเหรอก็หาตั้งนานแน่ะมาบอก จะได้ใช้งาน K PLUS ได้ดีขึ้นมาแนะนำกัน ตั้งค่าแจ้งเตือนเงินเข้า – ออกผ่านแอปได้เลย ตอนที่อัปเดท K PLUS ใหม่บางคนอาจไม่รู้ว่าแอปนี้มีการแจ้งเตือนเงินเข้า – ออกด้วย ซึ่งเราสามารถเข้าไปตั้งค่าเองได้ง่ายๆ ทีนี้ เงินจะเข้า จะออก รู้หมด หายห่วง สำหรับฟีเจอร์นี้สามารถเข้าไปลองใช้ได้ที่ กดเข้าไปที่เมนู ‘การตั้งค่า‘ จากนั้นเลือกที่เมนู ‘ตั้งค่าแอปพลิเคชัน‘ > ‘ตั้งค่าการแจ้งเตือน‘ ภายในฟีเจอร์จะมีการตั้งค่าแสดงผลแจ้งเตือนทั้งหมด 7 ฟีเจอร์ หนึ่งในนั้นคือ การตั้งค่าเตือนเงินเข้า – ออก จากการทดสอบนั้นแอปจะแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหวของเงิน รวมถึงการใช้บัตรเครดิตด้วย นอกจากนี้ฟีเจอร์นี้ยังสามารถตั้งแจ้งเตือนอื่นๆ ได้แก่ แนะนำสินเชื่อ, แนะนำการลงทุน, แนะนำรายการจ่ายบิล/เติมเงิน, แนะนำโปรโมชั่นสินค้า, แนะนำผลิตภัณฑ์ของธนาคาร สรุปการใช้แอปในการทำธุรกรรมของเราทุกเดือน ข้อดีของการมีแอปโมบายแบงค์กิ้งคือทำธุรกรรมทางการเงินได้ง่ายมากๆ เป็นสาย #โอนไว แต่ความที่เงินเราออกไวเกินไปนี่แหละทำให้บางทีก็งงว่า เฮ้ย! เดือนนี้เงินเราไปไหนหมด ใช้จ่ายไปกับอะไรบ้างวะเนี้ย แต่หลังจากนี้ เราจะดูได้แล้วว่าเดือนๆ นึงเราโอนรัวๆ ไปกับค่าอะไรบ้าง แค่สละเวลานิดหน่อยก่อนกดยืนยัน เลือกว่าเรากำลังจะจ่ายเงินสำหรับค่าอะไร จะค่าช้อปปิ้ง ค่าอาหาร ค่าเดินทาง จ่ายบิล ค่าของขวัญ ก็ใส่ได้หมด เป็นระบบการเก็บข้อมูลเพื่อสรุปการทำธุรกรรมผ่านแอป K PLUS อย่างละเอียดมากๆๆ หมดปัญหาจำไม่ได้ว่าเงินไปไหนหมดได้เลย เป็นฟีเจอร์ที่ดีมากๆ สำหรับคนที่ขี้ลืม หรือจ่ายบ่อยจนงง สำหรับฟีเจอร์นี้สามารถเข้าไปลองใช้ได้ที่ กดเข้าไปที่เมนู ‘ธุรกรรม‘ เลือกที่เมนู ‘บริการอื่นๆ‘ ในเมนูบริการอื่นๆ จะมีฟีเจอร์ที่ชื่อว่า ‘สรุปยอดค่าใช้จ่าย‘ ซึ่งจะมีรายละเอียดทั้งการถอนเงิน, การโอนเงิน, ชำระบิล รวมถึงการทำธุรกรรมอื่นๆ ซึ่งจะมีการเก็บข้อมูลไว้ แต่จะไม่เรียลไทม์ จะช้าไป 1 วัน การแสดงผลนั้นก็แสดงผลออกมาเป็นกราฟที่ดูง่าย แบ่งสีและประเภทของธุรกรรมชัดเจน และดูย้อนหลังแต่ละเดือนได้ นอกจากนี้ในเมนู “บริการอื่นๆ” ยังมีบริการ ที่สามารถสมัครหรือใช้บริการได้เช่นสมัครบัตรเดบิต, เปิดบัญชีเงินฝาก, สมัคร SMS ขยันบอก, ซื้อประกันการเดินทาง,สมัครพร้อมเพย์ และสร้างบิลเรียกเก็บเงินผ่านพร้อมเพย์ ทั้งหมดนี้ตั้งค่าหรือสมัครบริการได้ที่เมนูนี้เลย ปุ่มสแกนใช้จ่ายบิลได้ด้วย หนึ่งในฟีเจอร์ที่คนกรีดร้องมากที่สุดว่าหายไปไหนคือการสแกนบาร์โค้ดเพื่อจ่ายบิล ทำไมเวอร์ชั่นใหม่ถึงต้องให้ใส่หมายเลขอ้างอิงของบิลต่างๆ เอง ตัวเลขทั้งหลายหลัก ใส่ผิดจะทำยังไงเอาฟีเจอร์สแกนบาร์โค้ดจ่ายบิลคืนมา เราอยากจะบอกว่า ใจเย็นๆ พี่น้อง K PLUS ใหม่ เค้าย้ายฟีเจอร์นี้มาอยู่ในปุ่มสแกนเลย ทำให้จ่ายบิลได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเข้าไปในเมนูธุรกรรมก็จ่ายได้ รวดเร็วเหมือนเดิม สำหรับฟีเจอร์นี้สามารถเข้าไปลองใช้ได้ที่ กดเข้าเมนู ‘สแกน’ ที่แถบเมนูด้านล่าง เลือกว่าจะสแกนคิวอาร์โค้ด หรือบาร์โค้ด จากนั้นก็สแกนโค้ดที่อยู่บนบิล ตรวจสอบความถูกต้อง และกดยืนยัน แล้วรอรับ e-Slip เป็นหลักฐาน สมัครสินเชื่อโดยไม่ต้องไปที่สาขา ความง่ายอีกอย่างหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาใน K PLUS เวอร์ชั่นใหม่ก็คือการบริการทางการเข้าถึงสินเชื่อผ่านออนไลน์โดยที่ลูกค้าไม่ต้องไปถึงสาขาเพื่อทำเรื่องขอสินเชื่ออีกต่อไป แต่จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาเมื่อเราเลือกว่าสนใจสินเชื่อประเภทไหน ทั้งสมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อเงินส่วนบุคคล, สมัครบัตรกดเงินสด, สินเชื่อธุรกิจ SME, สินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่, สินเชื่อรถช่วยได้, สินเชื่อบ้านกสิกรไทย, สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ และ สินเชื่อบ้านช่วยได้ สำหรับฟีเจอร์นี้สามารถเข้าไปลองใช้ได้ที่ เลือกที่เมนู ‘ธุรกรรม’ จากนั้นเข้าไปที่ ‘สินเชื่อ’ เลือกสินเชื่อที่เราสนใจ หรือมีความจำเป็นต้องแล้วกดเข้าไปดูรายละอียด จากนั้นหากสนใจก็กดยืนยันเพื่อให้พนักงานติดต่อเข้ามานำเสนอสินเชื่อ พร้อมกับขอเอกสารโดยที่เราไม่ต้องไปที่สาขาก็สามารถสมัครบริการสินเชื่อได้ง่ายๆ เพิ่มบัตรสมาชิกของบริการต่างๆ ไม่ต้องพกบัตรแข็งแล้ว หลายคนมีบัตรสมาชิกของบริการและห้างร้านต่างๆ มากมายที่สมัครแล้วได้ส่วนลด สะสมคะแนนเพื่อแลกสิทธิพิเศษ ซึ่งเมื่อก่อนเราต้องพกบัตรมากมาย ให้กระเป๋าเงินตุงเล่นมองไกลๆ นึกว่าเงินเยอะ จริงๆ บัตรทั้งนั้น (…โธ่ เศร้า) แต่ตอนนี้ K PLUS เพิ่มฟีเจอร์ให้เราสามารถเพิ่มบัตรสมาชิกเข้าไปในแอปได้เลย และสามารถใช้งานได้จริงเสมือนพกบัตรพลาสติก โดยเบื้องต้นตอนนี้มีบัตรสมาชิกที่เข้าร่วม 4 รายคือ The1, Boots Advantage Card, AIS Point และ PTT Blue Card แต่อนาคตเราคาดว่าจะมีบัตรสมาชิกอื่นๆ เพิ่มอีก พร้อมสิทธิพิเศษแน่นอน สำหรับฟีเจอร์นี้สามารถเข้าไปลองใช้ได้ที่ เมื่อเข้าสู่แอป K PLUS หน้าแรกมองมุมซ้ายบนจะมีเมนู ‘บัตรสมาชิก‘ เมื่อกดเข้าไปจะเจอ 2 เมนูคือ เพิ่มบัตรสมาชิก และสมัครบัตรสมาชิก สำหรับคนที่มีบัตรสมาชิกอยู่แล้วและข้อมูลตรงกับเบอร์โทรศัพท์ที่สมัคร K PLUS สามารถกดพิ่มบัตรสมาชิกได้ทันที แล้วข้อมูลทุกอย่างจะปรากฎมาในบัตรทันที ส่วนคนที่ยังไม่มีบัตร แน่นอนว่าก็ต้องไปสมัครบัตรกับแบรนด์นั้นๆ ก่อน แต่ความพิเศษอยู่ตรงที่บางแบรนด์เราสามารถสมัครผ่าน K PLUS ได้เลย ซึ่งตอนนี้แบรนด์ที่สามารถทำได้คือ The1 และในอนาคตจะมีแบรนด์ดังอื่นๆ ตามมาอีกแน่นอน ค้นหาตำแหน่งของ KBank ทุกบริการ สมัยก่อนเวลาเราไปต่างถิ่น หรืออยู่ในจุดที่ไม่คุ้นแล้วมีความจำเป็นที่จะต้องไปธนาคาร หรือไปหาตู้เอทีเอ็มของ KBank ก็อาจจะเปิด google map แล้วพิมพ์คีย์เวิร์ดลงไปโอกาสเจอก็มี แต่โอกาสที่จะวืดก็มีเหมือนกัน K PLUS เลยใส่ฟีเจอร์ช่วยให้เราสามารถหาสาขาของธนาคารกสิกรไทย หรือตู้เอทีเอ็มที่อยู่ใกล้เราได้เลย และยังมีระบบนำทางพาไปยังจุดนั้นได้พร้อมบอกระยะห่างให้เสร็จสรรพ จัดว่าดี จบปัญหาที่เคยหาตู้ไม่เจอในทันที สำหรับฟีเจอร์นี้สามารถเข้าไปลองใช้ได้ที่ กดเข้าไปที่เมนูคำว่า ‘อื่นๆ’ จะเจอฟีเจอร์ที่เขียนว่า ‘ค้นหา KBANK’ ภายในฟีเจอร์นี้สามารถค้นหาได้ทั้ง สาขา, ตู้เอทีเอ็ม, The Wisdom, สำนักงานแลกเปลี่ยนเงินฯ, ศูนย์ธุรกิจ SME และศูนย์บริการธุรกิจต่างประเทศ ติดต่อ KBANK ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที ต้องมีบ้างแหละที่ลูกค้าของ KBank มีปัญหาที่อยากสอบถาม หรือขอให้ทางธนาคารช่วย ซึ่งเมื่อก่อนก็จะโทรไปที่ K Contact Center แต่ตอนนี้การติดต่อกับทางธนาคารบนช่องทางออนไลน์สามารถทำได้ง่ายขึ้นผ่าน K PLUS โดยที่เราไม่ต้องโทรไปสอบถามอีกต่อไป แค่เข้าไปที่ K PLUS ก็สามารถติดต่อกับทางธนาคารผ่านช่องทางออนไลน์ที่เราสะดวกได้ทันที บนช่องทางเหล่านั้นก็จะมีแชทบอทคอยรับทราบปัญหาเบื้องต้นแล้วให้คำแนะนำทันที แต่ถ้าเป็นปัญหาที่ซับซ้อนมาก จะมี K Contact Center ติดต่อมาทางช่องทางที่เราสอบถามไปอย่างรวดเร็ว วิธีนี้ทำให้เราเข้าถึงการแก้ปัญหาได้เร็วมาก สำหรับฟีเจอร์นี้สามารถเข้าไปลองใช้ได้ที่ กดเข้าไปเมนู ‘อื่นๆ’ จะเจอฟีเจอร์สุดท้ายเขียนว่า ‘ติดต่อเรา’ ภายในฟีเจอร์นี้จะมีช่องทางติดต่อออนไลน์ทุกช่องทางของ KBank ลูกค้าสะดวกทางไหนเลือกทางนั้นได้เลยโดย facebook และ LINE นั้นจะมีแชทบอทให้บริการ ส่วนช่องทางอื่นอย่าง Twitter IG Youtube และ e-mail จะมีทีมงานคอยดูแลแก้ปัญหาให้เหมือนกัน