เราเคย Bully คนอื่นไหม ? คำตอบแรกอาจจะตอบว่า “ไม่” แล้วเรามั่นใจได้ยังไงว่าเราไม่เคยทำร้ายคนอื่น บางทีเราอาจจะทำร้ายคนอื่นโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้ พฤติกรรมตามน้ำ เพราะ เพื่อนเราทำ หรือ การที่เพิกเฉยต่อพฤติกรรมเหล่านั้น เพื่อที่จะเป็นที่ยอมรับในสังคมส่วนใหญ่ เหตุผลอะไรที่ทำให้คนบางคนต้อง Bully คนอื่น? เพื่อความสุข สะใจ ยกตัวเองเป็นใหญ่ หรือ จริงๆ แล้วมีเหตุผลอะไรมากกว่านั้น ความเครียด เหตุผลแรกที่ทำให้คน Bully คนอื่นนั้นคือ “ความเครียด” คนเรามีวิธีการจัดการกับความเครียดได้แตกต่างกัน บางคนเมื่อเครียดจะมีทางออกในการแก้ปัญหาเชิงบวก เช่น นั่งสมาธิ เล่นกีฬา ไปเจอเพื่อน หรือ ทำกิจกรรมที่ชอบ แต่ก็จะมีบางประเภทที่หาทางออกด้วยการกลั่นแกล้งคนอื่น แสดงความรุนแรง จนถึงพึ่งแอลกอฮอร์ ซึ่งเป็นการปกปิดปัญหาที่อยู่ในใจของบุคคลนั้น แต่เป็นการแก้ไขปัญหาชั่วคราวแต่จะส่งผลเสียในระยะยาว บางคนไม่สามารถหาทางออกของปัญหา เป็น พฤติกรรมเชิงบวกได้ จึงหาทางออกด้วยวิธีการเชิงลบ นั้นคือ การข่มเหงคนอื่น เป็นทางออกของพวกเขา พฤติกรรมก้าวร้าว มีการวิจัยมาว่าผู้ที่ Bully ส่วนใหญ่ 66% เป็นผู้ชาย มักจะมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว หรือ กลั่นแกล้งผู้อื่น เพียงเพราะ ตัวเองนั้นมีปัญหาแล้วพยายามที่จะทำร้ายความรู้สึกของผู้อื่นเพื่อกลบเรื่องราวที่ตัวเองเผชิญมา จึงทำให้เกิดการแสดงออกพฤติกรรมที่ก้าวร้าว แนวโน้มของคนที่ Bully คนอื่น ในอนาคตมีความเสี่ยงที่จะเป็น โรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม (Antisocial Personality Disorder) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดมาจาก ความมีอารมณ์ร้าย พฤติกรรมที่ก้าวร้าวตั้งแต่เด็ก ชอบความรุนแรง ส่งผลให้เป็นคนที่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ใจร้อน ขี้โมโห ไม่มีการยับยั้งชั่งใจ เห็นเรื่องความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ ก่อปัญหาอาชญากรรมได้ การที่จะป้องกันโรคนี้ คือ การปลูกฝังเรื่องที่ดี สร้างความมั่นคงทางอารมณ์ การมองโลกในแง่ดี การเห็นใจผู้อื่น เป็นต้น เพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง เคยสังเกตไหม บางครั้งคนที่ถูกแกล้ง เป็นคนที่ดี เพียบพร้อม เรียนเก่ง หน้าตาดี เหตุผลที่เป็นแบบนั้นคือ คนพวกนั้นต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง พยายามหาข้อเสียของคนๆ นั้น เพื่อที่จะทำให้ตัวเองเหนือกว่าคนอื่น กลบความรู้สึกในใจที่รู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าเค้า หรือ เพื่อเสริมความมั่นใจให้กับตัวเองเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ไปล้อคนอื่นว่า “อ้วนๆ” แต่จริงๆ ตัวเองก็ไม่ได้ผอมขนาดนั้น แต่ล้อเพราะ “เค้าอ้วนกว่าเรา” เพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกว่า “เราผอมกว่านะ” เคยถูก Bully มาก่อน เพราะเราเคยถูกแกล้งมาก่อน เราจึงต้องแกล้งคนอื่น เพื่อเป็นกลไกในการป้องกันตัวเอง จริงๆ เป็นการป้องกันตัวที่แย่มาก การที่เราเคยถูกแกล้งมาก่อน เราควรต้องเข้าใจความรู้สึกของคนที่ถูกแกล้ง ถึงจะถูกต้อง ไม่ใช่ใช้การกลั่นแกล้งคนอื่นเพื่อเป็นการป้องกันตัวเองในการไม่ให้ใครมาแกล้งเรา มันมีกรณีหนึ่งที่ ถ้าเพื่อนเราคนหนึ่ง แกล้งใคร เราก็จะต้องแกล้ง หรือ มีอารมณ์ร่วมต่อเหตุการณ์นั้นด้วย พูดง่ายๆ คือ เราจะเห็นด้วย หรือ อีกพวกคือ ไม่ได้ห้าม ปล่อยให้เพื่อนเราทำสิ่งเลวร้ายนั้นไป เพราะอะไรถึงทำแบบนั้น ? อาจเพราะ กลัวเข้ากับเพื่อนไม่ได้ อยู่ในสังคมร่วมกับเพื่อนในกลุ่มไม่ได้ หรือ ไม่อยากยุ่ง กลัวหาว่า เราเป็นเพื่อนกับคนที่ถูกแกล้งหรอ ? ถ้าใครอยู่ในกลุ่มเพื่อนลักษณะนี้ เราไม่ต้องทำทุกอย่างให้เข้ากับเพื่อนได้หรอก เพราะ สิ่งที่ทำอยู่มันเลวร้าย ส่งผลลบให้กับตัวเอง และ สร้างบาดแผลให้กับคนอื่นโดยที่เรารู้ตัวและไม่รู้ตัว มีปัญหาครอบครัว 1 ใน 3 ของผู้ที่แกล้งผู้อื่น บอกว่า “ครอบครัวให้เวลาไม่เพียงพอต่อพวกเขา” พวกเขามีแนวโน้มมาจากครอบครัวที่ใหญ่ หรือ ครอบครัวที่ไม่มีเวลาให้ อาจเพราะ ลักษณะการทำงานของครอบครัว พวกเขารู้สึกว่า “พวกเขาไม่ได้รับเวลา และ ความรักที่เพียงพอ” หรือ ที่ร้ายไปกว่านั้น บางคนมาจากครอบครัวที่มีความรุนแรงภายใน ส่งผลให้พวกเขาแสดงออกเป็น พฤติกรรมเชิงลบ ความไม่รู้ จริงๆ แล้ว คนเหล่านั้นอาจจะไม่รู้ แล้วมันเป็นไปได้หรอ? มันมีความเป็นไปได้ เนื่องจาก พวกเขาไม่รู้ว่า คำพูดเหล่านั้น หรือ พฤติกรรมกลั่นแกล้งนั้น สร้างบาดแผลและความเสียใจให้แก่คนอื่น การไม่ได้รับการปลูกฝังที่ดีในเรื่องของ การใช้คำพูด การเข้าใจผู้อื่น หรือ การควบคุมพฤติกรรมของตนเอง เพราะ ความไม่รู้ ทำให้พวกเขาไม่สามารถแยกแยะได้ว่า สิ่งเหล่านั้นที่ทำลงไป มันเลวร้าย และ ไม่ใช่สิ่งที่ดี หรือ น่ายกย่องอะไร รักษาความสัมพันธ์ เพื่อที่จะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน จึงต้อง Bully คนอื่นด้วย เพราะ ไม่งั้นจะเข้ากับสังคมส่วนใหญ่ กลุ่มเพื่อนของเราไม่ได้ ถ้าเราไม่ปฏิบัติในทิศทางเดียวกัน เหมือนกับประโยคที่ว่า “เราคบคนแบบไหน เราก็มักจะมีพฤติกรรมอะไรบางอย่างใกล้เคียงกับคนแบบนั้น” เพื่อที่ทำให้เพื่อนยอมรับ เพื่อที่จะทำให้เรายังอยู่ในสังคมได้ แล้วเราเคยถามตัวเองไหมว่า “สิ่งที่เราทำไปตามเพื่อน พฤติกรรมตามน้ำที่เราทำไป มันผิด มันไม่ใช่เรื่องดี” ถ้าการที่เพื่อนจะยอมรับเรา โดยเราต้องทำร้ายคนอื่นแบบนั้น คิดว่า “อย่าทำเลยดีกว่า” อยากให้ถอยออกมามองสักนิดนึงว่า “ถ้าเราโดนแบบนั้น เราจะรู้สึกยังไง” เอาใจเขามาใส่ใจเราให้มากขึ้นหน่อย แล้วจะรู้ว่า “การเป็นคนที่สังคมส่วนใหญ่ต้องการอยากให้เป็น (ทางลบ) ไม่ใช่เรื่องน่ายินดี” อ้างอิง https://www.ditchthelabel.org/why-do-people-bully/. https://mastersinpsychologyguide.com/articles/psychological-effects-bullying-kids-teens/ https://www.facebook.com/ThaiPsychiatricAssociation/posts/